หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – บทที่ 1465 ผลลัพธ์ของการต่อสู้

บทที่ 1465 ผลลัพธ์ของการต่อสู้

ฮึ่ม ฮึ่ม!

ขณะที่เจดีย์โบราณลอยคว้างอยู่ ร่างปีศาจทั้งแปดก็บินวนเวียนอยู่รอบๆ ปลดปล่อยรัศมีรุนแรงซึ่งทำให้มิติใกล้เคียงบิดเบี้ยว

“นั่นคือ…วิชาเจดีย์แปดองค์ในตำนานเรอะ?!”

เมื่อร่างปีศาจทั้งแปดปรากฏตัว ความปั่นป่วนก็ปะทุขึ้นรอบๆ สระยกเทพ มีบางคนจดจำได้

“มู่เฉินไม่เพียงแต่ได้รับวิชาสามพิสุทธิ์ แต่ยังได้ฝึกฝนวิชาเจดีย์แปดองค์ เขาได้รับสองวิชาในวิทยายุทธขั้นเสินทงขั้นสุดยอดสามสิบหกกระบวนท่าในตำนานเลยทีเดียว” หลายคนเดาะลิ้น ในมหาพันภพมีวิทยายุทธนับไม่ถ้วน แต่วิทยายุทธในตำนานมีเพียงสามสิบหกวิชา เห็นได้ว่าวิชาเหล่านี้มีค่าเพียงใด

แม้แต่คนอย่างหวงเฉวียนจือยังได้รับการฝึกฝนเพียงหนึ่งในนั้นก็คือวิชาเก้าเทพหมุนวน ทว่ามู่เฉินได้เรียนรู้ถึงสองวิชา!

นี่ไม่ทำให้ผู้คนตกตะลึงได้อย่างไร?

แม้แต่หวงจิงก็มองไปที่กระจกด้วยสีหน้าไม่น่าดู เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่ามู่เฉินจะต้านทานกระบวนท่าสูงสุดของหวงเฉวียนจือได้ ไม่เพียงเท่านั้นเขายังเริ่มปล่อยการโจมตีดุร้ายกลับมาด้วย

ผู้อาวุโสเผ่าหงส์ฟ้าแท้จริงก็เปลี่ยนสีหน้า ปรากฏแววกังวลในดวงตา นั่นเป็นเพราะในขณะนี้บอกได้ว่าข้อได้เปรียบของหวงเฉวียนจือเริ่มลดลงแล้ว

ด้วยพลังของมู่เฉินตอนนี้ที่เข้าสู่ระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซียนระยะต้นก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าหวงเฉวียนจือ เมื่อบวกวิชาเจดีย์แปดองค์ไปด้วยแล้วเขาจะน่ากลัวขนาดไหน?

“หวังว่าประมุขน้อยจะรับเอาไว้ได้ การเพิ่มพูนพลังของมู่เฉินมีจำกัด ตราบใดที่ทนช่วงเวลานี้ไปได้ อีกฝ่ายก็ต้องอ่อนแอลงและนั่นจะเป็นโอกาสที่ดี!”

“ถูกต้อง ตราบใดที่เขาทนช่วงนี้ได้ มู่เฉินจะต้องแพ้!”

ขณะที่การสนทนาเกิดขึ้นท่ามกลางผู้ชม

หวงเฉวียนจือยังคงยืนอยู่บนหงส์ฟ้าทองคำพลางมองไปที่ปีศาจทั้งแปดอย่างเย็นชา ความคิดของเขาคล้ายคลึงกับผู้อาวุโสของเผ่าอย่างไรอย่างนั้น

ตราบใดที่เขาสามารถผ่านช่วงเวลานี้ได้ มู่เฉินก็จะต้องพ่ายแพ้กลับไปที่ขุมพลังดั้งเดิมแน่นอน

“ในเมื่อแกต้องการสู้ ข้าก็จะสู้ด้วย!”

เส้นเลือดฝอยคืบคลานบนดวงตาของหวงเฉวียนจือ ในฐานะประมุขน้อยเผ่าหงส์ฟ้าแท้จริง เขาก็เป็นคนที่มีความภาคภูมิใจ แม้ว่ามู่เฉินจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่เขาก็ไม่เชื่อว่ามู่เฉินจะทำอะไรเขาได้ ถ้าเขาป้องกันอย่างดีที่สุด

ทว่ามู่เฉินไม่ได้ใส่ใจกับสายตาเย็นชาของหวงเฉวียนจือ แต่กลับมองไปที่ปีศาจทั้งแปด เขาวาดตราประทับด้วยมือข้างเดียว เสาแสงสูงตระหง่านทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับคลื่นหลิงไร้ขอบเขตที่ทำให้มหาสมุทรสั่นสะเทือน

โฮก!

เมื่อเสาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ปีศาจทั้งแปดก็ส่งเสียงคำรามดุร้ายราวกับว่าฟื้นขึ้นมาจากนรก พวกมันอ้าปากเริ่มดูดซับเสาคลื่นหลิงขนาดใหญ่…

หลังจากกลืนกินคลื่นหลิงไร้ขอบเขต รัศมีรุนแรงรอบตัวพวกมันก็พุ่งสูงขึ้น ทำให้กระทั่งผู้ชมที่อยู่นอกสระยกเทพยังรู้สึกหนาวสั่นราวกับว่าปีศาจมีชีวิตขึ้นมา

ท้ายที่สุดร่างปีศาจทั้งแปดนี้ก็ถูกสร้างขึ้นมาจากศพราชาปีศาจนับร้อย… ในมหาพันภพเทียบเท่ากับจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนนับร้อย ฟังดูน่าสยดสยองยิ่งนัก

มู่เฉินมองไปที่หวงเฉวียนจือโดยไม่มีอารมณ์ใดๆ มือเขาประสานเข้าหากัน

พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของตราประทับ ปีศาจทั้งแปดก็สร้างตราประทับเดียวกัน ลำแสงสีแดงเข้มแปดสายเชื่อมต่อกันเป็นรูปแปดเหลี่ยมซับซ้อน

รัศมีรุนแรงพวยพุ่งออกมาจากการก่อตัว เริ่มบีบอัดตัวเองเป็นทรงกลมสีแดงเข้ม

ลูกทรงกลมถูกปกคลุมไปด้วยอักขระสีแดงเข้มพร้อมกับรัศมีรุนแรง มีกลิ่นอายที่สามารถทำให้จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นหลิงเสียการควบคุมคลื่นหลิงในร่างเลยทีเดียว

เมื่อรู้สึกถึงความผันผวน หวงเฉวียนจือก็หดดวงตา สีหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย ฉายแววหวาดผวาในดวงตา

เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกว่าถูกคุกคามจากลูกทรงกลมนั่น

ทว่ามู่เฉินไม่ได้ให้เวลาได้คิด เขาหายใจเข้าลึกเสียงดังกึกก้อง

“วิชาเจดีย์แปดองค์ เจดีย์ปีศาจหยก!”

ตู้ม!

รัศมีดุร้ายเพิ่มขึ้นทั่วทั้งบริเวณนี้ เมื่อปีศาจทั้งแปดปลดปล่อยเสียงคำรามรุนแรงก็สั่นสะเทือนไปทั้งฟ้าดิน ในเวลาเดียวกันลูกทรงกลมสีแดงเข้มก็พุ่งไปยังหวงเฉวียนจือ

แกร็ก แกร็ก!

ในเส้นทางที่ลูกทรงกลมสีแดงเข้มพุ่งผ่าน มิติก็พังทลายลงรุนแรง พลังในการทำลายล้างทำให้ผู้ชมที่อยู่นอกสระต้องเบิกตากว้าง

ลึกลงไปในพื้นมหาสมุทร หวงเฉวียนจือรู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นที่แผ่ขึ้นมาจากฝ่าเท้า เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความตายในขณะนี้

หากปล่อยให้ลูกทรงกลมสีแดงเข้มนั้นพุ่งกระทบเขา แม้กระทั่งตัวเขาก็ต้องตายตกอยู่ที่นี่

“นี่คือพลังอำนาจของวิชาเจดีย์แปดองค์รึ? น่ากลัวจริงๆ!”

สายตาของหวงเฉวียนจือกะพริบด้วยแสงดุร้าย ในเมื่อเขาหนีไม่ได้ เขาก็ต้องพยายามต้านให้ได้ แม้ว่าความสามารถของมู่เฉินจะน่ากลัว แต่เขาหวงเฉวียนจือก็ไม่ใช่หมาขี้แพ้!

โฮก!

หวงเฉวียนจือคำรามขณะที่สร้างตราประทับอย่างรวดเร็ว เขากัดลิ้นพร้อมกับเลือดกลั่นไหลออกมา

แก่นเลือดนี้มีสีทอง ใบหน้าของหวงเฉวียนจือซีดลงเล็กน้อย ทว่าเขาก็ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ วงแสงสีทองเริ่มหมุนและกลืนกินแก่นเลือดของเขาไป

ตู้ม ตู้ม!

หลังจากกลืนกินแก่นเลือดวงแสงสีทองก็เริ่มขยายออกไปพร้อมกับลำแสงสีทองพุ่งออกมา

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!

คราวนี้มีแสงสีทองแปดสายหมุนเวียน หวงเฉวียนจือนำทักษะเทพทั้งแปดออกมาใช้พร้อมกัน แต่หลังจากปลดปล่อยการโจมตีแปดกระบวนท่า วงแสงก็ยังไม่หยุดหมุน ขณะที่หมุนด้วยความฝืด ลำแสงสีทองสายที่เก้าก็ค่อยๆ ออกมา

ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของหวงเฉวียนจือ เขายังไม่สามารถใช้กระบวนท่าที่เก้าได้เต็มที่ ดังนั้นเขาจึงได้แต่บีบเค้นออกมาในขณะนี้

อ็อก!

เมื่อมองไปที่ลำแสงสีทองสายที่เก้า สายตาหวงเฉวียนจือก็พล่านด้วยความดุร้าย เลือดกลั่นสีทองหลั่งไหลเข้ามาในวงแสง ครั้งนี้ในที่สุดลำแสงสีทองสายที่เก้าก็เริ่มควบแน่น…

แต่เนื่องจากเขาบีบบังคับ วงแสงจึงเริ่มแตกร้าว

สิ่งนี้ทำให้หวงเฉวียนจือรู้สึกปวดใจเนื่องจากเขารู้ว่าแม้จะชนะในวันนี้ แต่เขาก็ต้องใช้เวลานานในการฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บที่ต้องทุกข์ทน

“ให้ตายเถอะ ไอ้มู่เฉิน!”

หวงเฉวียนจือกัดฟันพร้อมกับแสงเย็นวูบวาบในดวงตา “ในเมื่อแกต้องการเอาชนะ ข้าก็จะบอกให้รู้ว่าแกมันปัญญาอ่อนแค่ไหน!

“วิชาเก้าเทพหมุนวน นิพพานที่เก้า บาตรหงส์ฟ้า!”

ทันใดนั้นเสียงของเขาก็ดังขึ้น กระบวนท่าทั้งเก้ารวมเข้าด้วยกันเร็วรี่ก่อนจะก่อร่างเป็นบาตรทองคำขนาดใหญ่ที่มีหงส์ฟ้าแท้จริงอยู่บนนั้นซึ่งส่งเสียงร้องและปล่อยเพลิงหงส์ฟ้าที่สามารถเผาผลาญฟ้าดินได้

ขณะที่บาตรหงส์ฟ้าหมุนคว้างก็ห่อหุ้มหวงเฉวียนจือ นี่เป็นกระบวนท่าที่ทรงพลังที่สุดของวิชาเก้าเทพหมุนวน แม้ว่าเขาจะบีบคั้นออกมา แต่ก็ไม่สามารถประเมินพลังได้

ดวงตาของหวงเฉวียนจือเปลี่ยนเป็นสีแดงขณะจ้องไปที่มู่เฉิน เขาไม่เชื่อว่ามู่เฉินสามารถทะลวงการป้องกันของเขาได้!

ตราบใดที่เขาต่อต้านการโจมตีนี้ได้ ชีวิตของมู่เฉินก็จะตกอยู่ในกำมือของเขา!

“มาเลย!”

ท่ามกลางเสียงของหวงเฉวียนจือและสีหน้าที่เปลี่ยนไปของผู้คนนอกสระยก ลูกทรงกลมสีแดงเข้มก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้าและชนกับบาตรหงส์ฟ้า…

ครืนๆๆๆ!

พริบตาพลังงานสองสายก็ปะทะกัน ทั่วบริเวณโยกคลอนพร้อมกับคลื่นมากมายยกตัวขึ้นเหนือพื้นมหาสมุทร มากจนการระเบิดทำให้เกิดพายุปกคลุมเทือกเขาทั้งหมด…

เหล่าจอมยุทธ์จากเผ่าเทพอสูรใบหน้าเปลี่ยนไป พวกเขารู้ว่าสระยกเทพเป็นมิติแยกตัว แต่ถึงอย่างนั้นการต่อสู้ระหว่างมู่เฉินและหวงเฉวียนจือก็ส่งผลกระทบออกมาได้…

การเผชิญหน้านั้นน่ากลัวแค่ไหนกัน?!

ทว่าทุกคนต่างจับจ้องไปที่กระจก ตอนนี้การทำลายล้างยังคงดำเนินต่อไปสองสามนาทีก่อนที่จะค่อยๆ สลายไป

ทุกคนที่นี่รวมถึงหวงจิงและเทียนฮวงก็ยังกลั้นหายใจขณะที่มองดู

เมื่อแสงค่อยๆ หายไปทิวทัศน์ก็กระจ่างขึ้นอีกครั้ง ทันใดนั้นทุกคนก็หดดวงตา บาตรหงส์ฟ้าวูบไหวด้วยแสง ขณะที่ลูกทรงกลมสีแดงเข้มหดตัวลงอย่างรวดเร็ว…

“เขาต้านไว้ได้เหรอ?!”

เมื่อเห็นฉากนี้ผู้อาวุโสเผ่าหงส์ฟ้าก็ฉายความสุขบนใบหน้าทันที พวกเขารู้สึกได้ว่าพลังของลูกทรงกลมสีแดงเข้มลดน้อยลงอย่างรวดเร็ว

ไม่กี่ลมหายใจ ลูกทรงกลมสีแดงเข้มก็ลดขนาดลงเหลือเท่ากับศีรษะมนุษย์

ในเวลาเดียวกันหวงเฉวียนจือก็ฉายความสุขบนใบหน้า ชัยชนะจะอยู่ในมือเขาแล้ว!

แกร็ก!

ทว่าเสียงแตกดังก้องขึ้นฉับพลัน หวงเฉวียนจือเงยหน้าขึ้นก็ต้องหดตาลง เนื่องจากเขาเห็นรอยแตกเล็กๆ บนบาตร…

แกร็ก แกร็ก!

รอยแตกนั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นและเมื่อปรากฏขึ้นก็กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมทั้งบาตรในช่วงหายใจเข้า

ขณะเดียวกันลูกทรงกลมสีแดงเข้มยังมีขนาดเหลือเท่าฝ่ามือ

“แกแพ้แล้ว”

มู่เฉินกล่าวแบบไร้อารมณ์

ปัง!

พร้อมกับคำพูดของมู่เฉิน บาตรหงส์ฟ้าก็ถึงขีดจำกัดและระเบิดทันที…

หวงเฉวียนจือเผยความกลัวในดวงตา ขณะที่ปีกหงส์ฟ้าแผ่ออกไปด้านหลังทันที เขาคิดจะถอยหนี

ฟิ้ว!

แต่ทันใดนั้นลูกทรงกลมสีแดงเข้มก็พุ่งลงมาที่หน้าอกของเขา…

ร่างกายครึ่งหนึ่งของหวงเฉวียนจือระเบิดออก แม้แต่หงส์ฟ้าทองคำที่อยู่ใต้เท้าก็แข็งค้างก่อนที่จะแตกออกจากกัน

ร่างของหวงเฉวียนจือร่วงลงราวกับว่าวสายป่านขาด

บรรยากาศนอกสระยกเทพหยุดนิ่งไปเลยในขณะนี้

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler ฟรี ได้ที่ novel-fast 


เรื่องย่อ

โดย เรื่อง หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler บางส่วนของนิยาย

บทนำ

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป

‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้

แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์

แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว

ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ

เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง?

ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน…

เรื่องย่อ

เมื่อคำพูดของมู่เฉินกระจายออกไป ไม่เพียงแต่จะไม่มีการตอบสนอง แม้แต่ด้านนอกเจดีย์ก็ถูกห่อหุ้มด้วยบรรยากาศราวกับป่าช้า…

ทุกคนตกตะลึงไปกับฉากนี้ พวกเขาจ้องมองจุดที่ลู่สุยหายตัวไป ราวกับว่ายังไม่สามารถฟื้นจากอาการตะลึงงันที่เกิดขึ้นได้

ก่อนหน้าเมื่อลู่สุยออกกระบวนท่าที่น่าสะพรึง ผู้คนส่วนใหญ่ก็คิดว่าผลลัพธ์ของการต่อสู้ได้ถูกกำหนดแล้ว ทว่าพวกเขาไม่คิดเลยว่ามู่เฉินจะพลิกสถานการณ์ได้อีกครั้ง เตะลู่สุยที่เหมือนจะคว้าชัยชนะออกไป

ทุกคนตะลึงไปพักใหญ่ ก่อนที่พวกเขาจะหลุดออกจากอาการได้ สายตาเคร่งเครียดลง การประลองกันครั้งนี้มู่เฉินไม่ได้ใช้ค่ายกล แต่เขาก็สามารถเอาชนะจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ดอย่างลู่สุยได้ด้วยความแข็งแกร่งที่อยู่ในขั้นหกเท่านั้น แม้ว่าจะมีผลจากลู่สุยประมาทเองในตอนแรก แต่นั่นก็แสดงให้เห็นว่ามู่เฉินน่ากลัวแค่ไหน

พลังเช่นนี้เขาสามารถเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์อันดับต้นๆ ในเจดีย์ฝึกพลังกายได้เลยทีเดียว

ทางฝั่งกลุ่มกระเรียนฟ้า ใบหน้าของหลิ่วชิงกลายเป็นเขียวสลับขาว นางมองไปที่ร่างสูงโปร่งบนหน้าจอ กลืนน้ำลายเหนียวหนืด ความกลัวปรากฏในดวงตาของนางเป็นครั้งแรก

มาถึงจุดนี้นางคงโง่แน่ถ้ายังคิดปฏิบัติต่อมู่เฉินเหมือนกับจอมยุทธ์ขั้นหกทั่วไป

ด้วยพลังในการต่อสู้ที่เขาแสดงออกมา บวกกับค่ายกลทรงพลัง แม้แต่จงเถิงก็ยากจะได้เปรียบหากพวกเขาต่อสู้กัน

ก่อนหน้านี้นางหัวเราะเยาะและมองจิ่วโยวด้วยความดูถูก แต่ตอนนี้นางอายแทบแทรกแผ่นดินหนี ซึ่งจุดนี้รู้ได้จากสายตาเยาะเย้ยเหล่านั้นที่ปรายมองเข้ามา

“ทำไมมู่เฉินถึงทรงพลังเช่นนี้?” จงฮั้วที่พ่ายแพ้ให้กับมู่เฉินก็มีสีหน้าเคร่งขรึมเช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดเช่นกันว่ามู่เฉินพึ่งพาเพียงค่ายกลเพื่อจัดการกับศัตรู แต่ใครจะคิดว่าเมื่อไม่มีการใช้ค่ายกลมู่เฉินก็สามารถเอาชนะลู่สุยแบบดุร้ายยิ่งกว่าอะไร

“ดูเหมือนว่ามีเพียงพี่ใหญ่จงเถิงเท่านั้นที่สามารถจัดการกับเขาได้” จอมยุทธ์อีกคนของเผ่ากระเรียนฟ้าพยักหน้า

หลิ่วชิงพยักหน้าเบาๆ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะพิจารณาพลังของมู่เฉินพลาดไปเท่านั้น แม้แต่จงเถิงก็ตัดสินอีกฝ่ายผิดไป ชายคนนั้นเป็นสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริง

ฟิ้ว!

ขณะที่นอกเจดีย์ต่างตกตะลึงกับผลลัพธ์ที่มู่เฉินนำมา ทันใดนั้นแสงก็กะพริบบนแท่นนอกเจดีย์ ร่างน่าสังเวชปรากฏขึ้น

เมื่อร่างนั้นออกมาก็รีบถอยกลับไปปรากฏตัวขึ้นในกลุ่มอีกาสายฟ้าทันควัน นี่ก็คือลู่สุยที่มีสีหน้าซีดขาว คลื่นหลิงของเขาถดถอยลงอย่างมาก

สายตาโดยรอบยิงเข้าหาในเวลานี้ทันที

ใบหน้าของลู่สุยเขียวคล้ำ สายตาเกลียดชังมองไปที่มู่เฉินที่อยู่บนหน้าจอ ก่อนที่จะหันหัวสาดสายตาดุร้ายใส่จิ่วโยวและมั่วหลิง ที่ข้างๆ พรรคพวกของเขาก็มีท่าทางไม่ดีเช่นกัน

ทว่าจิ่วโยวไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับสายตาเหล่านั้น นางเค้นเสียงอย่างเย็นชา “ลูกหมาที่ถูกฟาดยังกล้าที่จะออกมาแยกเขี้ยวอีกเหรอ?”

ตอนนี้ลู่สุยบาดเจ็บสาหัส สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปหมด ส่วนคนที่เหลือก็ไม่มีอะไรต้องกลัว หากพวกเขากล้าที่จะคิดบัญชีกับพวกนาง จิ่วโยวก็ไม่คิดปล่อยพวกเขาไว้เป็นภัยคุกคามในอนาคตหรอก

สายตาแสดงความเกลียดชังของลู่สุยจ้องเขม็งอยู่ที่จิ่วโยว แต่สุดท้ายเขาก็ต้องถอนสายตาออกไปอย่างไม่เต็มใจ ก่อนที่จะถอยกลับนั่งลงบนซากปรักหักพังเข้าสมาธิเพื่อฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ

จอมยุทธ์กลุ่มอีกาสายฟ้าก็ปรากฏรอบตัวเขาเพื่อปกป้อง

เมื่อจิ่วโยวเห็นการตอบสนองนั่น นางก็ไม่ได้ใส่ใจกับพวกเขาอีก นางมองไปที่หน้าจออีกครั้งโดยพุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ร่างเงาอ่อนเยาว์ มือที่กำแน่นผ่อนคลายลง

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงสำหรับนางที่มู่เฉินจะเอาชนะได้เด็ดขาดแบบนี้ นั่นเป็นเพราะตามการประเมินของนางแม้ว่ามู่เฉินจะยืนยงอยู่ได้ก็เป็นยากที่จะเอาชนะลู่สุยด้วยขุมพลังจื้อจุนขั้นหกและถ้าการต่อสู้ถูกลากไปจนสุดอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบคาดไม่ถึง

ทว่าผลลัพธ์สุดท้ายที่ได้ก็ทำให้นางทั้งประหลาดใจและดีใจ

เห็นได้ชัดว่ามู่เฉินได้รับประโยชน์มหาศาลจากสามชั้นแรกของเจดีย์ฝึกพลังกาย ไม่เช่นนั้นเขาไม่สามารถแสดงพลังเป็นที่ประจักษ์เช่นนี้ได้

“ว่ากันว่าในชั้นสี่มหัศจรรย์กว่านี้มาก หากใครสามารถเข้าไปได้ พวกเขาจะสามารถได้รับผลประโยชน์เกินกว่าสามชั้นแรกมาก…”

จิ่วโยวยิ้มบาง ดูจากสถานการณ์ปัจจุบันไม่น่ามีปัญหาใดๆ ที่มู่เฉินจะเข้าสู่ชั้นสี่ สำหรับมั่วเฟิงความแข็งแกร่งของเขาเป็นหนึ่งในอันดับต้นของกลุ่มที่เข้าไป ดังนั้นจึงไม่ยากสำหรับเขาที่จะได้หนึ่งในห้าที่นั่งนี้ไปเช่นกัน

ดูเหมือนว่าการเดินทางมาที่เจดีย์ฝึกพลังกายโบราณครั้งนี้เผ่าวิหคโลกันตร์อาจเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

บนลานเมฆสายฟ้า

ไม่มีใครตอบคำถามของมู่เฉิน ขณะนี้แม้แต่จอมยุทธ์ทรงอำนาจอย่างหานซันและสีคุนก็ยังรู้สึกหวาดระแวงมู่เฉินอยู่บ้าง ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะไม่ไปปะทะกับมนุษย์ผู้นี้

ดังนั้นคนทั้งหมดที่อยู่ที่นี่จึงเงียบลง ก่อนที่จะถอยออกจากรัศมีโดยรอบมู่เฉินอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณบอกว่าพวกเขาไม่ต้องการต่อสู้กับเขา

เมื่อมู่เฉินเห็นภาพนี้ก็ไม่มีอารมณ์ใดบนใบหน้า แต่ในใจกลับรู้สึกโล่งอก คนอื่นๆ เห็นเพียงฉากการต่อสู้ตระการที่เขาเอาชนะลู่สุยได้ แต่พวกเขาไม่รู้หรอกว่าหมัดที่เขาชกออกไปก่อนหน้านี้คือพลังงานส่วนเกินจากสามชั้นแรก

ร่างกายของมู่เฉินก่อนหน้าเปรียบเสมือนฟองน้ำที่ดูดซับน้ำจนถึงขีดจำกัด หมัดของเขาจึงเท่ากับบีบน้ำออกจนหมด ทำให้ร่างกายที่อัดแน่นกลับสู่สภาพเดิม

ดังนั้นถ้าให้เขาโจมตีแบบนั้นอีกครั้ง พลังก็จะไม่ทรงประสิทธิภาพเหมือนเมื่อครู่แน่นอน

ประสิทธิผลพิเศษชนิดนี้ของการสะสมพลังงานในร่างกายเป็นทักษะที่ได้มาจากกายามังกรหงส์ ด้วยวิธีนี้เขาจะได้รับผลลัพธ์ที่ไม่มีใครคาดคิดไว้ กลายเป็นไพ่ลับอีกใบหนึ่ง

“คัมภีร์หลงเฟิ่งทรงพลังจริงๆ”

แม้แต่มู่เฉินก็ยังชื่นชมในสิ่งนี้ คัมภีร์หลงเฟิ่งสมแล้วที่เป็นทักษะยอดเยี่ยมแท้จริง จากการประเมินของเขาคัมภีร์นี้ต้องอยู่ในระดับเสินทงแน่นอน ซึ่งไม่ธรรมดาแม้จะอยู่ในกลุ่มวิทยายุทธระดับเสินทงด้วย

มู่เฉินชื่นชมก่อนที่จะใจเย็นลง แม้ว่าตอนนี้จะไม่มีใครท้าทายเขา แต่เขาก็ไม่ตั้งใจที่จะท้าทายคนอื่นด้วยเช่นกัน เขายืนนิ่งบนตำแหน่งตนเองรอผลการคัดออก

สำหรับจงเถิง มู่เฉินรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นพวกยุแยงให้ลู่สุยมาปะทะกับเขา แต่เนื่องจากตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีในการจัดการ เขาจึงได้แต่ผลักแผนไปก่อน

แต่ถึงกระนั้นสายตาคมกล้าของมู่เฉินก็ยังจ้องเขม็งไปที่จงเถิง รอบตัวเต็มไปด้วยคลื่นหลิงราวกับเสือดาวที่กำลังจะจ้องตะครุบเหยื่ออัดแน่นด้วยภัยคุกคาม

เมื่อเห็นท่าทางของมู่เฉิน จงเถิงที่ประจันหน้ากับมั่วเฟิงก็รู้สึกอึดอัดใจ เขาต้องแยกสมาธิอยู่ตลอดเพื่อจับตามองมู่เฉิน ป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายเคลื่อนไหวมาประสานพลังกับมั่วเฟิง

ด้วยวิธีนี้สมาธิของจงเถิงจึงค่อนข้างฟุ้งซ่าน สุดท้ายเขาได้แต่กัดฟัน ถอนคลื่นหลิงและถอยออกจากบริเวณของมั่วเฟิง

“พี่มั่วยากสำหรับการต่อสู้ของเราที่จะได้ข้อสรุป ทำไมเราไม่ไปจัดการคนอื่นและรับที่นั่งมาล่ะ?” ขณะที่จงเถิงถอยกลับเสียงก็สะท้อนก้องไปด้วย

มั่วเฟิงจ้องมองจงเถิงอย่างไม่แยแสก่อนที่จะพยักหน้า นั่นเป็นเพราะเขารู้ว่าหากพวกเขายังอยู่ในสถานการณ์ยืนจ้องหน้ากันก็จะไม่เกิดผลลัพธ์ใด หากเขาร่วมมือกับมู่เฉิน พวกเขาอาจทำให้จงเถิงบ้าดีเดือดขึ้นมา แม้แต่พวกเขาก็ต้องจ่ายราคามหาศาลจากการตีโต้

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาคือการได้ที่นั่งเพื่อเข้าสู่ชั้นสี่

เมื่อจงเถิงเห็นคำตอบของมั่วเฟิงก็รู้สึกโล่งใจในใจ เขาถอยกลับอย่างรวดเร็วออกจากจุดที่มู่เฉินและมั่วเฟิงอยู่ เขาครุ่นคิดสั้นๆ ก่อนจะเลือกปะทะกับคนที่อ่อนแอกว่า

พอมู่เฉินเห็นจงเถิงไปแล้วก็ไม่ได้ใส่ใจอีกต่อไป สายตาหันมามองมั่วเฟิงแล้วก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มแสดงความขอบคุณในการช่วยเหลือครั้งนี้

สายตาของมั่วเฟิงเป็นมิตรมากขึ้น คิดว่าการที่มู่เฉินเอาชนะลู่สุย ทำให้มั่วเฟิงมองมู่เฉินในฐานะจอมยุทธ์ที่อยู่ในระดับเดียวกันกับเขา ดังนั้นจึงไม่ได้มีท่าทางเฉยเมยเหมือนเมื่อก่อน

มั่วเฟิงพยักหน้าให้มู่เฉิน ก่อนที่จะหันหลังกลับและเริ่มเลือกคู่ต่อสู้ของตนเอง

ครืน!

เมื่อทุกคนเลือกคู่ต่อสู้แล้ว ทันใดนั้นคลื่นหลิงก็ระเบิดรุนแรงบนลานเมฆสายฟ้า คลื่นกระแทกกวาดออก ทำให้มิติเกิดการสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไม่หยุด

บนลานเมฆสายฟ้าพลังงานหลิงกวาดหายนะ มีเพียงตรงมู่เฉินเท่านั้นที่ไม่ถูกรบกวน เนื่องจากไม่มีใครกล้าเหยียบเข้ามาในรัศมีพันจั้ง ยามนี้เขาเหมือนผู้ชมที่ดูการต่อสู้ติดขอบ ในเวลาเดียวกันก็บันทึกกระบวนท่าที่ทรงพลังของบางคนไว้ในสมอง

แม้ว่าในชั้นนี้พวกเขาอาจไม่ได้ประลองกัน แต่ก็ยังมีอีกสองชั้นรอพวกเขาอยู่ ใครจะสามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีการลดจำนวนลงในชั้นต่อไป?

ดังนั้นถ้ามีโอกาสเขาต้องพยายามจดจำข้อมูลผู้อื่นเก็บไว้

ภายใต้การสังเกตของมู่เฉิน การประลองบนลานเมฆสายฟ้าก็คงอยู่ชั่วระยะหนึ่ง ก่อนที่แต่ละคู่จะมาถึงจุดสิ้นสุด ผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่คาดไว้

หลังจากมู่เฉินก็เป็นหานซันที่เอาชนะคู่ต่อสู้ได้ที่นั่งที่สองไป

จากนั้นมั่วเฟิงและจงเถิงก็คว้าชัยชนะตามมา

ที่นั่งสุดท้ายตกเป็นของสีคุนที่ก่อนหน้านี้เคยแพ้หานซันที่ด้านนอกเจดีย์ ชายนี้มีความแข็งแกร่งที่น่าตกใจ แม้แต่หานซันยังต้องใช้ทักษะเต็มที่ถึงจะได้รับชัยชนะมา

เมื่อสีคุนได้รับที่นั่งสุดท้ายลานเมฆสายฟ้าขนาดใหญ่ก็เงียบลงอีกครั้ง ร่างทั้งห้ายืนอยู่ ขณะรัศมีไร้ขอบเขตทั้งห้าสายพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าชนกันเปรี้ยงปร้าง

ทว่าการชนกันก็ดำเนินไปเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่ทั้งห้าจะถอนคลื่นพลังพร้อมกัน พวกเขาเหลือบมองกันและกัน จากนั้นก็ไม่ลังเลทะยานออกไปปรากฏตัวบนเบาะทั้งห้า

สายตาพวกเขาพุ่งตรงไปยังมิติด้านหลังลานเมฆสายฟ้าด้วยความโลภ ตรงนั้นเส้นดาวหางจำนวนมากกวาดผ่านราวกับฝนดาวตก

ในแสงเหล่านั้นแก่นหยดสายฟ้ากำลังกะพริบด้วยความแวววาว


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท