“ยังไม่มีข่าวคราวของจุนถิงอีกเหรอ?”
ท่านปู่ลี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ จ้องมองไปยังคนที่ส่งไปตามหาตัวของลี่จุนถิง หวังว่าจะได้ยินคำตอบที่เขารอคอย
คนเหล่านั้นลังเลไปชั่วครู่ และไม่ได้พูดอะไร เพียงส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย แล้วก้มศีรษะลงเหมือนเดิม
ท่านปู่ลี่ไม่ได้แปลกใจนัก เพียงขมวดคิ้วก็เท่านั้น
เขาถอนหายใจอย่างผิดหวัง และโบกมือ:“ อืม งั้นก็ส่งคนตามหาต่อไป ต้องหาตัวจุนถิงกลับมาให้ได้ !”
หลังจากที่คนเหล่านั้นเดินออกไปแล้ว ท่านปู่ลี่ก็เอนกายพิงไปยังเก้าอี้ ค่อยๆหลับตาลง พูดอย่างอ่อนแรงไปว่า “จุนถิง ตอนนี้แกอยู่ที่ไหนกันแน่ ? ร่างกายของปู่คงจะยื้อได้ไม่นานหรอกนะ!ถึงตอนนั้นหากแกยังไม่กลับมา แล้วฉันควรทำยังไงดี ?”
……
ณ โรงพยาบาล
แสงแดดสาดส่องผ่านเข้ามาทางม่านหน้าต่าง ห้องกว้างสว่างขึ้น
เจียงหยุนเอ๋อที่นอนอยู่บนเตียงก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา มองไปยังฝ้าเพดานที่ไม่คุ้นเคย เธอลุกขึ้นนั่งอย่างงุนงง แล้วมองไปยังบริเวณโดยรอบ สมองนึกคิดไปถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น พลันก็นึกไปถึงเรื่องที่ลี่จุนถิงหายตัวไป
ใบหน้ามืดมน ภายในใจของเจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกเศร้าหมอง
“จุนถิง ทำไมคุณถึงเกิดอุบัติเหตุได้ ? ไหนคุณบอกว่าให้ฉันรอคุณอยู่ที่บ้านยังไง ? ก็ว่าทำไมคุณถึงไม่ติดต่อกลับมาหาฉันเลย ที่แท้ก็เกิดเรื่องขึ้นนี่เอง!ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ให้จุนถิงกลับมาเร็วๆด้วยเถอะ”
เจียงหยุนเอ๋อพนมมือ หลับตาตั้งจิตอธิษฐานขอพร
ทันใดนั้น ประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกเปิดออก มีนางพยาบาลคนหนึ่งเดินเข้ามา
เมื่อเห็นเจียงหยุนเอ๋อลุกขึ้นนั่ง ดวงตาเธอเป็นประกาย เอ่ยพูดด้วยความดีใจไปว่า :“คุณหนูเจียง คุณฟื้นแล้ว! ดีจริงๆ !จากสภาพร่างกายของคุณไม่ได้เป็นอะไรมาก พักสักสองสามวันก็ดีขึ้น ”
เมื่อได้เจอนางพยาบาล เจียงหยุนเอ๋อก็คว้าไปที่ข้อมือของเธอ เอ่ยถามอย่างร้อนใจไปว่า :“คุณพยาบาลคะ บอกฉันที ช่วงที่ฉันหลับไปนี้ ลี่จุนถิงกลับมาหรือยัง ? หรือว่าได้ข่าวคราวของลี่จุนถิงบ้างไหม!”
เมื่อได้ยินดังนั้น ใบหน้าจากที่มีรอยยิ้มของนางพยาบาลก็เปลี่ยนเป็นยิ้มเจื่อนขึ้นมาทันที
เธอหัวเราะแฮะๆ แล้วแกะมือหญิงสาวออก กัดฟันตอบไปว่า :“คุณอย่าเพิ่งวิตกกังวลไปเลยนะคะ!ประธานลี่……ยังไม่มีคราวข่าวของประธานลี่เลยค่ะ แต่ว่าท่านประธานใหญ่ได้ส่งคนออกไปตามหาแล้ว ยังไงก็ต้องหาตัวประธานลี่เจอแน่ คุณดูแลลูกน้อยในท้องให้ดีเถอะนะคะ”
เป็นไปตามคาด ปฏิกิริยาของเจียงหยุนเอ๋อนิ่งไป นอกจากสายตาที่ผิดหวัง เธอไม่ร้องไห้ไม่โวยวายอะไร นั่งเงียบๆอยู่อย่างนั้น
แววตาของเธอว่างเปล่า มือน้อยลูบไปที่ท้องเบาๆ สักพักก็เอ่ยพูดว่า“ลูกรัก ลูกต้องคุ้มครองให้พ่อกลับมาอย่างปลอดภัยนะ!”
เมื่อมองเห็นเจียงหยุนเอ๋อในสภาพแบบนี้ นางพยาบาลก็ไม่รู้ว่าจะพูดปลอมยังไง ทำได้เพียงถอนหายใจ แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบ ๆ
เนื่องจากสุขภาพของเจียงหยุนเอ๋อยังไม่ฟื้นดีนัก หลังจากนั้นเธอเองก็ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลต่ออีกหลายวัน
แน่นอนว่า เมื่อไรก็ตามที่มีหมอมาตรวจเช็กอาการ เธอก็จะคอยถามข่าวคราวของลี่จุนถิงอยู่ตลอด
แต่แล้วคำตอบก็ไม่ใช่สิ่งที่เธออยากได้ยิน ทุกครั้งจะได้รับคำตอบกลับมาว่า “ไม่มี” ทุกครั้งที่เฝ้ารออย่างมีความหวังก็มักกลับได้มาซึ่งความผิดหวัง เจียงหยุนเอ๋อนอนหมดแรงอยู่บนเตียงด้วยความสิ้นหวัง
มองดูแสงแดดที่ส่องผ่านจากนอกหน้าต่าง ในใจของเจียงหยุนเอ๋อรู้สึกหนักอึ้ง
ไม่มีข่าวคราวของลี่จุนถิง และเธอก็ออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ในตอนนี้ นั่งรอฟังข่าวอยู่แบบนี้ช่างทรมานใจนัก พอหมอออกจากห้องไปแล้ว เจียงหยุนเอ๋อก็กักเก็บอารมณ์เศร้าเสียใจเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไป
ร่างกายของเธอเริ่มสั่นไหว น้ำตาก็ไหลพรากออกมา ราวกับเขื่อนแตกไม่สามารถหยุดมันได้อีก น้ำตาหยดลงบนมือของเธอ บนเสื้อ บนผ้าห่ม แล้วที่ต่างๆ จนมลาย หายไป
“จุนถิง คุณอยู่ที่ไหน? หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุแล้วคุณหายตัวไปไหน ? ฉันกับถวนจื่อและลูกในท้องพวกเรารอคุณอยู่ ! คุณต้องกลับมานะ !ขออย่าให้มีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นเลย!”
เธอซุกใบหน้าไปใต้ผ้าห่ม เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น กับคำพูดที่คร่ำครวญดังออกมา
“พรืด!”
ประตูห้องผู้ป่วยถูกเปิดออก ถวนจื่อวิ่งเข้ามา เมื่อเห็นเจียงหยุนเอ๋อที่นอนคลุมโปงร้องไห้อยู่ เขาก็มึนงงเล็กน้อย ยืนนิ่งอยู่กับที่โดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ความผิดปกติของเจียงหยุนเอ๋อในช่วงนี้ถวนจื่อเองก็สังเกตเห็น เดิมทีคิดว่าคงถูกก่อกวนจากทารกน้อยในครรภ์ เลยสร้างความเจ็บปวดให้กับเจียงหยุนเอ๋อ
แต่แล้วก็พบว่าคนรอบข้างต่างก็เปลี่ยนไป เขาสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับลี่จุนถิง ?
ไม่มีใครบอกอะไรกับเขา เพราะฉะนั้นถวนจื่อเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สัมผัสได้เพียงความเปลี่ยนไปของคนรอบตัว และเขาต้องการหาคำตอบ
“หม่ามี้ครับ เป็นอะไรครับ ? น้องอยู่ในท้องแกล้งอีกแล้วใช่ไหม เดี๋ยวถวนจื่อจะพูดกับน้องให้ ดีไหมครับ ? ”
ถวนจื่อปีนขึ้นไปบนเตียงของเจียงหยุนเอ๋อ มือป้อมป้อมนั้นตีไปที่แผ่นหลังเธอ เอ่ยพูดอย่างน่าเอ็นดู น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกังวล
เมื่อรับรู้ถึงการมาของถวนจื่อ เจียงหยุนเอ๋อก็ตกใจ เธอรีบเก็บความรู้สึกเศร้าเสียใจ พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล จากนั้นก็ค่อยๆลุกขึ้นนั่ง
เธอลูบไปยังศีรษะของถวนจื่อ ยิ้มแล้วพูดว่า “แม่ไม่เป็นอะไรครับ ถวนจื่อไม่ต้องห่วงนะ แม่สบายดีเห็นไหม?”
เมื่อเห็นเจียงหยุนเอ๋อที่พยายามฝืนยิ้ม ถวนจื่อก็รู้สึกไม่สบายใจ เขาลังเลไปชั่วครู่ เอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจไปว่า “คุณแม่ครับ คุณพ่อทำไม่ยังไม่กลับมาอีก ? เกิดอะไรขึ้นกับคุณพ่อหรือเปล่า ? ผมคิดถึงคุณพ่อ!แล้วคุณพ่อก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาหาเรานานมากแล้วนะครับ !”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจียงหยุนเอ๋อก็ตื่นตกใจ เธอไม่คิดว่าถวนจื่อจะเอ่ยถามถึงลี่จุนถิง และเธอก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายกับลูกยังไง
ในช่วงนี้เธอให้คนคอยปิดข่าว ไม่ต้องการให้ถวนจื่อรู้ข่าวของลี่จุนถิง เพื่อให้เขาได้ใช้ชีวิตปรกติ แต่วันนี้ถวนจื่อกลับถามถึงลี่จุนถิง ทำเธออึกอักขึ้นมาทันที
คิดไปคิดมา เธอเผยรอยยิ้มจางๆ แล้วพูดเสียงแผ่วเบาไปว่า “ถวนจื่อคิดถึงพ่อเหรอครับ ? ตอนนี้พ่อมีธุระที่ต้องทำ เพราะฉะนั้นเกรงว่าพ่อจะยังกลับมาในตอนนี้ไม่ได้ แต่หากเสร็จธุระแล้วพ่อก็กลับมา เพราะฉะนั้นเรามารอพ่อด้วยกันนะครับ ”
“จริงเหรอครับ ? แล้วทำไมพ่อถึงไม่โทรมาหาเราเลยละ ? อีกอย่างทุกคนเหมือนจะทำตัวแปลกๆอีกด้วย ”
ถวนจื่อมุ่ยปาก เอ่ยพูดไปด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ
หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของถวนจื่อ โดยไม่รู้ตัวเจียงหยุนเอ๋อคิดว่าถวนจื่อคงจะสังเกตเห็นถึงความผิดปรกติเข้า เลยรีบอธิบายไปว่า “คุณพ่อต้องจัดการงานธุระต่างๆ ? เลยยังไม่ว่างจะโทรหาเรา พวกเราก็ รอคุณพ่อกลับมาแล้วกันเนอะ ดีไหมครับ ? ”
ถวนจื่อเลิกคิ้ว แต่ก็พยักหน้ารับ