ทำไมหลังจากที่กลับมาจากข้างนอกลี่จุนถิงถึงได้ถามคำถามนี้กับตัวเอง และจากสีหน้าท่าทางของลี่จุนถิงก็ดูจะไม่ค่อยดีนัก
ซูซานเป็นกังวลหรือลี่จุนถิงจะนึกอะไรขึ้นมาได้
“แล้วผมไปอยู่ที่ต่างจังหวัดได้ยังไง?” ลี่จุนถิงขมวดคิ้ว
“ก็เพราะบ้านคุณอยู่ที่นั่น”ซูซานยิ้ม
“คุณหมายถึงพวกเราโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก จากนั้นเราก็ต่างชอบพอกัน?”ลี่จุนถิงถามกลับไปอีกครั้ง
ซูซานพยักหน้า “ใช่ค่ะ”
“งั้นคุณเล่าเรื่องตอนเด็กๆให้ผมฟังหน่อย ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุครั้งนั้น ผมก็จำเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นไม่ได้อีกเลย”ดวงตาของลี่จุนถิงมีความแคลงใจ ซูซานเองก็มองไม่ออกว่าเขาต้องการรู้เรื่องจริงๆหรือเพียงแค่อยากทดสอบตัวเอง
แต่สายตาของลี่จุนถิงก็ยังคงจ้องมองที่ซูซานอยู่ตลอดเวลาไม่ได้ไปไหน
“ได้ค่ะ”ซูซานนั่งลงข้างๆลี่จุนถิง จับไปที่แขนของเขา ยิ้มแล้วพูดว่า “คุณอยากฟังเรื่องอะไรล่ะคะ?”
“ผมอยากรู้ว่าเราตัดสินใจคบกันได้ยังไง แล้วทำไมผมถึงมาอยู่ที่บ้านคุณได้ ?”
ซูซานยิ้มแล้วมองไปที่ลี่จุนถิง แต่ในใจเธอกลับรู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมา จินตนาการไปถึงเรื่องที่พอจะคิดออก มีอะไรที่พอจะทำให้ลี่จุนถิงเชื่อได้บ้าง
“วันนั้นเป็นวันเกิดของฉัน แล้วคุณก็ขอฉันแต่งงาน จากนั้นคุณบอกว่าเทียวไปเทียวมามันเหนื่อย ฉันเลยเสนอให้คุณพักอยู่ในบ้านฉัน แล้วคุณก็ตอบตกลง”ซูซานนึกคำพูดมาจากในละครทีวี และหวังว่าคำโกหกนี้จะผ่านไปโดยไม่มีข้อสงสัยอะไร
“แล้วงานของผมล่ะ? ผมไม่ต้องทำงานเหรอ ? ”ลี่จุนถิงเอ่ยถามไปอย่างแปลกใจ
ก่อนหน้าที่เขาฟื้นขึ้นมาก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เพียงแค่ปล่อยวางยอมรับการรักษาจากครอบครัวของซูซาน
จากนั้นลี่จุนถิงก็ถามซูซานว่าทำไมตัวเองถึงไม่ไปทำงาน แต่ซูซานบอกว่าเพราะร่างกายของเขายังไม่ฟื้นตัว เลยปฏิเสธไป
“นี่……”ซูซานตื่นตกใจ กัดฟันแน่น “ไม่นี่ค่ะ เพียงแต่สภาพร่างกายของคุณในตอนนี้ยังไม่เหมาะที่จะไปทำงานก็เท่านั้น ”
“แล้วผมทำงานอะไร ”ลี่จุนถิงเห็นท่าทีที่ร้อนตัวของซูซานจึงได้คาดคั้นถามต่อ
“คุณทำ……”ซูซานไม่เคยคิดที่จะพูดหรืออธิบายสถานะของลี่จุนถิงเองให้ชายหนุ่มได้รู้แต่อย่างใด
และในเวลานี้ลี่จุนถิงก็คาดคั้นที่จะเอาคำตอบ ในสภาวะที่กดดันแบบนี้ ทำให้ซูซานไม่รู้จะตอบยังไง
“เอาล่ะ ช่างมันเถอะ ผมรู้แล้ว ผมจะพักผ่อนอยู่ที่บ้านต่อ”ลี่จุนถิงรู้ว่าซูซานตอบไม่ได้
แต่ต่อให้จะตอบได้ก็ใช่ว่าเธอจะพูดความจริง
ในตอนนี้ลี่จุนถิงมีความสงสัยอยู่ในใจ คำพูดของซูซานมีข้อสงสัยไปหมดทุกอย่าง
ซูซานบอกว่า ตัวเองเป็นคนหวากั๋วแล้วทำไมคนหวากั๋วถึงได้อาศัยอยู่ที่เฉินกั๋วตั้งแต่เด็กกัน ?
แม้จะบอกว่าไปเที่ยว แล้วพวกเขาสองคนทำไมถึงได้กลายเป็นคู่รักกันตั้งแต่ยังเด็กได้ ? หรือเขาอาศัยอยู่ที่เฉินกั๋วมาโดยตลอด
แล้วถ้าเขาอาศัยอยู่ที่เฉินกั๋วจริงแล้วทำไมเขาถึงไม่มีงานทำ ? ตอนนี้ซูซานไม่ต้องการที่จะบอกเขาว่าเขาทำงานอะไร
และมองออกว่าเวลาที่ซูซานพูดถึงเรื่องของตัวเขาเอง สีหน้าท่าทางของเธอก็ดูไม่เป็นธรรมชาติ เธอพยายามที่จะหลบสายตาเขาอยู่ตลอดเวลา
ลี่จุนถิงคิดว่า ซูซานต้องโกหกเขาแน่ คำพูดทั้งหมดของเธอก็คงจะเชื่อถือไม่ได้
“อืม” ซูซานโล่งใจ ขอแค่ลี่จุนถิงไม่ถามอะไรต่อ
“ผมมีเรื่องจะบอกคุณ”ลี่จุนถิงหันมองไปยังซูซาน
“อะไรคะ?”
“ตอนนี้ร่างกายผมก็เกือบจะปรกติแล้ว ในเมื่อคุณเองก็บอกว่าผมยังไม่เหมาะที่จะไปทำงาน ผมอยากออกไปเที่ยว” ลี่จุนถิงคิดว่าในเมื่อซูซานไม่คิดที่จะบอกความจริง งั้นเขาคงต้องไปค้นหาความจริงด้วยตัวเอง
“ไปเที่ยว?”ซูซานแปลกใจเล็กน้อย “เป็นความคิดที่ดีค่ะ”
“ผมอยากจะไปคนเดียว”ลี่จุนถิงพูดแล้วมองไปยังนอกหน้าต่าง ไม่รู้ว่าภรรยาของเขาที่ชิงโม่พูดถึงจะยังสบายดีอยู่ไหม
ลี่จุนถิงไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้มีความคิดแบบนี้ ตั้งแต่ที่ชิงโม่บอกว่าตัวเขามีครอบครัวแล้ว เขาก็เอาแต่คิดถึงเรื่องนี้อยู่ตลอด
“คนเดียว?”ซูซานคิดว่าลี่จุนถิงจะชวนเธอไปเที่ยวด้วยกัน ไม่คิดว่าเขาจะไปคนเดียวแบบนี้
ลี่จุนถิงพยักหน้า
“ไม่ได้นะคะ! ”ซูซานคัดค้านทันที “ฉันไม่เห็นด้วย”
“ทำไม?”ลี่จุนถิงขมวดคิ้ว
“ไม่ใช่ว่าไม่เห็นด้วยที่คุณจะเดินทางไปเที่ยว ฉันเพียงแต่ไม่เห็นด้วยที่คุณจะไปคนเดียว ฉันจะไปกับคุณ” ซูซานไม่ปล่อยให้ลี่จุนถิงไปเที่ยวคนเดียวแน่ๆ
ลี่จุนถิงไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่มองไปที่ ซูซานด้วยสายตาที่สงสัยและพินิจพิเคราะห์
ซูซานไม่เห็นด้วยเพราะเธอต้องการที่คอยสอดแนมเขางั้นเหรอ ?
นับตั้งแต่ที่เขาจับพิรุธในคำพูดซูซานได้ ลี่จุนถิงก็รู้สึกไม่อยากเชื่อคำพูดของซูซานขึ้นมา
เพราะเขาในตอนแรกนั้นเชื่อใจในตัวซูซานมาก
ซูซานรีบเอ่ยพูด :“จุนถิง คุณก็เห็นว่าตัวเองเพิ่งจะฟื้นดีได้ไม่เท่าไร หากคุณออกไปเที่ยวคนเดียว แล้วเกิดอะไรขึ้นมาอีก จะทำยังไง ? ฉันคิดว่าฉันไปกับคุณจะดีกว่า ยังไงก็ยังช่วยดูแลกันและกันได้ ไปคนเดียวเหงาจะตาย ”
ซูซานมองไปที่ลี่จุนถิงที่เอาแต่จ้องตัวเอง ในใจรู้สึกประหม่าเล็กน้อย หากเป็นเมื่อก่อน ซูซานคิดว่าลี่จุนถิงจะต้องเห็นด้วยเป็นแน่ แต่หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ในวันนี้ ซูซานเองก็ไม่มีความมั่นใจอะไรอีกต่อไป
ลี่จุนถิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่แล้วก็พยักหน้า:“ก็ได้”
เมื่อได้ยินดังนั้นซูซานก็ดีใจมาก และก็รู้สึกโล่งใจ ยังดีที่ลี่จุนถิงไม่ได้ปฏิเสธเธอ หากเขายืนกรานที่จะไปคนเดียว ซูซานก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน
“งั้นเรามาดูกันว่าจะไปที่ไหนดี”ลี่จุนถิงพูดแล้วก็เอนตัวพิงไปที่โซฟา หยิบมือถือขึ้นมาแล้วเปิดไปที่แผนที่
ซูซานนั่งชิดไปกับลี่จุนถิงเล็กน้อย วางคางลงบนแขนของลี่จุนถิง และมองไปยังมือถือที่อยู่ในมือของลี่จุนถิง:“คุณอยากไปไหนคะ ? ”
“ขอผมดูก่อน”ลี่จุนถิงมีความคิดในใจแต่แรกแล้ว เพื่อไม่ให้จุดประสงค์ของเขาดูจงใจเกินไปนัก เขาทำได้เพียงขอคิดดูก่อน
ซูซานชี้ไปยังสถานที่ต่างๆบนแผนที่:“ฉันคิดว่าประเทศเหล่านี้ก็ดีนะคะ เพื่อนฉันแนะนำให้ไป แต่ฉันก็ยังไม่มีเวลาไปสักที หรือว่าเราจะไปที่นี่กันดีล่ะ?”
ลี่จุนถิงไม่ได้พูดอะไรผ่านไปสักพักจึงได้เอ่ยพูดว่า :“ผมอยากไปหวากั๋ว”
“หวากั๋ว?”หัวใจของซูซานเต้นระรัว
เมื่อเห็นท่าทีที่ตื่นตระหนกอย่างชัดเจนของซูซานลี่จุนถิงก็พยักหน้า
“คุณอยากไปจริงๆเหรอคะ ?” ซูซานไม่อยากให้ลี่จุนถิงไปหวากั๋ว สัญชาตญาณของผู้หญิงบอกเธอว่า หากให้ลี่จุนถิงไปหวากั๋ว เธอจะต้องสูญเสียเขาไปแน่ๆ
“คุณไม่อยากไป?”ลี่จุนถิงแกล้งทำเป็นแปลกใจแล้วมองไปที่ซูซาน
ซูซานไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
“หากคุณไม่อยากไป ผมไปคนเดียวก็ได้ คุณอาจจะมีงานที่ต้องทำ”ลี่จุนถิงพูดแล้วก็เบี่ยงตัวออกไปด้านข้าง
เมื่อได้ยินที่ลี่จุนถิงพูด ซูซานก็กระวนกระวายใจขึ้นมา แล้วรีบอธิบายไปว่า :“ไม่ใช่ค่ะไม่ใช่ ฉันไม่ใช่ไม่อยากไป”
ซูซานหัวเราะ แต่ในใจเธอกลับเป็นกังวล
ก่อนที่จะพาตัวลี่จุนถิงมาที่นี่นั้นซูซานได้ตรวจเช็กประวัติของลี่จุนถิงแล้ว และรู้ว่าลี่จุนถิงเป็นคนหวากั๋ว