เจียงหยุนเอ๋อและลี่จุนถิงกำลังคุยกันอย่างมีความสุข ทันใดนั้นเองเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เธอจึงหยิบมันออกมาดู คนที่โทรมาคือโม่เสี่ยวฮุ่ย
เดิมที โม่เสี่ยวฮุ่ยเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อออกไปซื้อของเป็นเวลานานและไม่กลับมาสักที เธอนึกว่าเธอเสียใจเกินจึงกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมแล้ว เธอจึงไม่โทรหา แต่ว่า เวลาล่วงเลยจนถึงบ่ายโมง กลับไม่ได้ข่าวคราวของเจียงหยุนเอ๋อเลย เธอจึงเริ่มกังวลใจ จนต้องรีบโทรหาเจียงหยุนเอ๋อ
เจียงหยุนเอ๋อมองโทรศัพท์ถึงนึกขึ้นได้ ก่อนหน้านี้ เธอมัวแต่ดีใจที่ลี่จุนถิงกลับมา จนลืมโทรหาโม่เสี่ยวฮุ่ยกับซูม่านลีเรื่องที่เธอพาถวนจื่อกลับมาได้แล้ว
“ขอโทษนะคะแม่ เพราะมีบางอย่างเกิดขึ้นทำให้ล่าช้า จนหนูลืมโทรไปบอกแม่ ขอโทษจริงๆนะคะ ที่ทำให้พวกคุณแม่เป็นห่วง”
“โธ่ ลูกคนนี้ ลูกปลอดภัยดีก็ดีแล้ว ถวนจื่อล่ะลูก ได้ข่าวของถวนจื่อบ้างไหม”
“แม่คะ ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูไปพาถวนจื่อกลับมาแล้ว ตอนนี้พวกเรากำลังพักผ่อนอยู่ในโรงแรมแล้วค่ะ”
โม่เสี่ยวฮุ่ยและซูม่านลีต่างก็วางใจเมื่อได้ยินว่าพาถวนจื่อกลับมาได้แล้ว
“แม่คะ ตอนนี้หนูอยู่กับ…”
เจียงหยุนเอ๋อยังไม่ทันได้พูดจบ ลี่จุนถิงก็จับมือเธอแล้วส่ายหัวไปมา ส่งสัญญาณให้เธอยังไม่ต้องบอกพวกท่านว่าเขากลับมาแล้ว เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า เพื่อบอกว่าเธอเข้าใจแล้ว
จากนั้นเธอก็พูดกับโม่เสี่ยวฮุ่ยต่อว่า “เดี๋ยวหนูกับถวนจื่อจะไปหาที่โรงพยาบาลนะคะ”
โมเสี่ยวฮุ่ยบอกว่าเธอรู้แล้ว ก่อนจะวางสายไป
หลังจากที่เห็นเจียงหยูนเอ๋อวางสาย ลี่จุนถิงก็พูดกับเธอว่า
“หยุนเอ๋อ เรื่องที่ผมกลับมาแล้วผมอยากจะปกปิดไว้สักระยะ ให้มีคนรู้ยิ่งน้อยยิ่งดี ยิ่งไปกว่านั้นสถานการณ์ปัจจุบันของบริษัทไม่ชัดเจน ผมอยู่ในที่มืด จะได้ตรวจสอบสถานการณ์ของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น”
เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกว่าที่ลี่จุนถิงพูดมาก็ถูก เธอจึงพยักหน้าเห็นด้วย
เมื่อเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อพยักหน้าเห็นด้วย ลี่จุนถิงก็โทรหาชิงโม่ ให้เขาพาถวนจื่อเข้ามา แล้วพาเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อไปที่โรงพยาบาล แบบนี้พอโม่เสี่ยวฮุ่ยถามขึ้นมา จะได้หาข้ออ้างได้
จากนั้น ชิงโม่ก็พาเจียงหยุนเอ๋อและถวนจื่อไปที่โรงพยาบาล โดยที่ลี่จุนถิงรอพวกเขาอยู่ที่โรงแรม
ทันทีที่โม่เสี่ยวฮุ่ย เจียงหยุนเอ๋อและถวนจื่อปรากฏตัวที่ประตูห้องพักคนไข้ เธอก็รีบลุกขึ้นยืน แล้วรีบเดินไปเปิดประตูให้เจียงหยุนเอ๋อเข้ามานั่ง หลังจากตรวจสอบเธอและถวนจื่อจนมั่นใจว่าไม่ได้รับบาดเจ็บ จึงถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะเริ่มพูดตำหนิ
“ลูกนะลูก ทำไมถึงชอบทำให้เป็นห่วงแบบนี้ ลูกอุ้มท้องใหญ่ออกไปเสี่ยงอันตรายทำไมกัน ถ้าหากลูกช่วยถวนจื่อออกมาไม่ได้จนลูกเองก็ถูกจับตัวไปด้วย ลูกจะให้พวกแม่ทำยังไง รอให้จุนถิงกลับมา พวกแม่จะสู้หน้าเขาได้ยังไงลูก ลูกคนนี้”
เจียงหยุนเอ๋อยิ้มและฟังคำตำหนิโม่เสี่ยวฮุ่ย ภายในใจรู้สึกอบอุ่นมาก ในใจนิ่งคิด ในที่สุดโม่เสี่ยวฮุ่ยก็ยอมรับเธอแล้ว
หลังจากนั้นเธอก็จับมือโม่เสี่ยวฮุ่ยอย่างนุ่มนวล แล้วพูดโม่เสี่ยวฮุ่ยว่า “คุณแม่คะ คุณแม่ก็เห็นแล้วนี่คะว่าหนูไม่เป็นอะไร พวกหนูกลับมาอย่างปลอดภัยแล้วนี่ไงคะ”
โม่เสี่ยวฮุ่ยตกตะลึงกับการกระทำของเจียงหยุนเอ๋ออยู่สักพัก และลืมที่จะตำหนิไปเลย ก่อนจะถามว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่
เจียงหยุนเอ๋อเล่าให้โม่เสี่ยวฮุ่ยและซูม่านลีฟังทั้งหมด
“ช่วงเช้า ตอนที่ตำรวจเพิ่งออกไป หนูก็ได้รับโทรศัพท์จากคนร้ายตอนอยู่ในห้องน้ำ พวกเขาให้หนูไปหาพวกเขาตามลำพัง จากนั้นหนูกลัวว่าพวกคุณแม่จะเป็นห่วง หนูก็เลยหาข้ออ้างออกไปหาพวกเขา”
หลังจากได้ยินเรื่องนี้ โม่เสี่ยวฮุ่ยยังคงมีความกลัวอยู่ไม่ได้ จึงอดที่จะพูดแทรกไม่ได้ “ครั้งหน้าต้องบอกกับพวกเราและอย่าไปคนเดียวอีกเด็ดขาดเข้าใจไหม”
เจียงหยุนเอ๋อยิ้มเพื่อให้โม่เสี่ยวฮุ่ยสบายใจ ก่อนจะพูดต่อ
“คุณแม่คะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ พวกเขาไม่กล้าทำอะไรหนูหรอกค่ะ หลังจากที่หนูไปถึงที่นั่น พวกเขาบังคับหนูโดยใช้ความปลอดภัยของถวนจื่อให้หนูเซ็นชื่อในหนังสือโอนหุ้น ตอนที่หนูเห็นเอกสารฉบับนี้ และรู้ว่าต้องเป็นฝีมือของลี่หยูนห่วนกับลี่หุยแน่นอน ในเวลานั้น เพื่อความปลอดภัยของถวนจื่อ หนูทำได้เพียงยอมเซ็นเอกสารไป”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ หัวใจของโม่เสี่ยวฮุ่ยก็หนักอึ้ง แล้วรีบถาม “งั้นก็หมายความว่าหุ้นถูกแย่งไปแล้วอย่างนั้นเหรอลูก”
เจียงหยุนเอ๋อตบหลังมือของโม่เสี่ยวฮุ่ยเบา ๆ อย่างปลอบโยน
“ไม่ค่ะคุณแม่ ตอนแรกพวกเขาเอาเอกสารนั้นไปแล้วก็จริง แต่เพื่อนของจุนถิงไล่ตามคนร้ายทันระหว่างทาง แล้วเอาเอกสารนั้นคืนมาได้ ดังนั้นหุ้นของเรายังเป็นของเราไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ”
ในเวลานี้ โม่เสี่ยวฮุ่ยสังเกตเห็นชายที่ติดตามเจียงหยุนเอ๋อมา
ชิงโม่พบว่านี้ โม่เสี่ยวฮุ่ยสังเกตเห็นเขา เขาจึงยืนขึ้นแล้วพยักหน้าให้นี้ โม่เสี่ยวฮุ่ย ก่อนจะพูดว่า
“สวัสดีครับคุณป้า ผมเป็นเพื่อนของประธานลี่ ผมชื่อชิงโม่ครับ ประธานลี่มอบหมายหน้าที่ให้ผมคอยปกป้องภรรยาของเขาอย่างลับๆ ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ ดังนั้นก่อนหน้านี้ผมก็เลยไม่เคยปรากฏตัวเลย แต่ในครั้งนี้คุณผู้หญิงตกอยู่ในอันตราย ผมถึงได้แสดงตัวออกมา จะได้อธิบายเรื่องราวให้ทุกคนได้เข้าใจครับ”
ตอนที่โม่เสี่ยวฮุ่ยได้ยินว่าเขาเป็นเพื่อนของลูกชาย เธอจึงมองไปทางชิงโม่ด้วยความรู้สึกขอบคุณ และซาบซึ้งใจ
ชิงโม่เห็นว่าเขาอยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นเขาจึงถือโอกาสขอตัวกลับโรงแรมก่อน
เจียงหยุนเอ๋อกลับมาหลังจากส่งชิงโม่ออกไปแล้ว จึงเห็นถวนจื่อกำลังปลอบโม่เสี่ยวฮุ่ยและซูม่านลีอย่างพัลวัน
“คุณยายครับ คุณย่าครับ ผมเข้มแข็งมาก ไม่กลัวพวกคุณลุงใจร้ายเลยครับ ผมยังต่อสู้กับพวกเขาด้วย ผมเก่งไหมครับ”
“โธ่ หลานรักของย่า หลานลำบากแล้ว”
“ไม่ครับคุณย่า หม่ามี้คอยปกป้องผมอย่างดี ผมไม่เป็นอะไรเลย ถ้าไม่เชื่อ คุณย่าตรวจสอบได้เลยครับ ตอนที่หม่ามี้ถูกรังแก ผมสัญญากับตัวเองในใจ ว่าจะปกป้องหม่ามี้ของผม ดูสิครับ เพื่อปกป้องหม่ามี้ของผม ผมออกกำลังกายจนกล้ามขึ้นแล้ว”
ถวนจื่อดึงแขนเสื้อขึ้น ขณะที่พูด เผยให้เห็นกล้ามเนื้อเล็กๆ ที่ผุดออกมา เมื่อทั้งสามเห็นท่าทางที่ไร้เดียงสาของถวนจื่อ ทั้งหัวใจของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความชื่นชม
หลังจากอยู่ในโรงพยาบาลได้สักพัก ท้องฟ้าก็มืดแล้ว ซูม่านลีบอกให้พวกเธอรีบกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมได้แล้ว
“พวกคุณรีบกลับไปเถอะ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว และที่นี่ก็มีพยาบาลคอยดูแล เมื่อคืนนี้พวกคุณต่างก็รีบมาที่นี่ และวันนี้ยังต้องวิ่งวุ่นทั้งวัน รีบกลับและพักผ่อนเถอะ แล้วอีกอย่างพรุ่งนี้ถวนจื่อยังมีการแข่งที่สำคัญต้องเข้าร่วมด้วย”
เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกว่าคำพูดของซูม่านลีนั้นสมเหตุสมผล ดังนั้นเธอจึงพาโม่เสี่ยวฮุ่ยและถวนจื่อกลับโรงแรมที่พัก
ลี่จุนถิงกำลังรอพวกเธออยู่ที่โรงแรม และหลังจากที่รู้ว่าเจียงหยุนเอ๋อกลับมาแล้ว เขาก็รีบไปที่ห้องของเธอทันที
ตอนที่ลี่จุนถิง เคาะประตู เจียงหยุนเอ๋อเพิ่งอาบน้ำให้ถวนจื่อเสร็จ พอลี่จุนถิงเข้ามา เขาก็เห็นเจียงหยุนเอ๋อเปียกไปทั้งตัว ตาของเขาหรี่ลง แล้วเริ่มบ่น
“ทำไมถึงไม่เรียกให้ผมมาอาบน้ำให้ถวนจื่อล่ะ ท้องใหญ่ทำอะไรไม่สะดวก”
“โธ่ ไม่เป็นไรเลยค่ะ ฉันไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของคุณนี่คะ”
ลี่จุนถิงมองท่าทางที่เขินอายของเจียงหยุนเอ๋อ ในใจรู้สึกพึงพอใจมาก ดังนั้นเขาจึงไม่บอกกับเธอ
หลังจากนั้น เจียงหยุนเอ๋อก็ถาม ลี่จุนถิงว่าเขาตั้งใจจะกลับไปเมื่อไหร่ และมีแผนจะทำอะไรต่อไป
“ผมตั้งใจจะรอให้ถวนจื่อจบการแข่งขันก่อน แล้วส่งพวกคุณพร้อมกัน”
“ได้ค่ะ”