ลี่หยูนห่วนที่อยู่ล่างเวทีมั่นใจเต็มร้อยว่าเวียร์จะเรียกตัวเองขึ้นไป นั่งยืดตัวตรงเตรียมพร้อมมาก เชิดหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ ราวกับว่าตัวเองกำลังจะเป็นผู้ชนะ
นักข่าวที่อยู่ล่างเวทีเห็นท่าทางลี่หยูนห่วนดูเตรียมพร้อมมาก จึงถ่ายภาพเขาไม่หยุด แล้วพากันกระซิบกระซาบกันใหญ่
มีนักข่าวใจกล้าคนหนึ่ง จู่ ๆ ก็เอ่ยถามลี่หยูนห่วนขึ้นมา :
“ประธานลี่ครับ ขอถามหน่อยครับว่าความร่วมมือครั้งนี้คุณมั่นใจมากใช่ไหมครับว่าทำสำเร็จ?”
ลี่หยูนห่วนมองนักข่าวคนนั้นแวบหนึ่งด้วยท่าทางจองหอง แล้วยิ้มออกมาแต่ไม่พูดอะไร
เวียร์เห็นลี่หยูนห่วนที่อยู่ด้านล่างสร้างความวุ่นวาย ก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ แล้วจ้องเขม็งลี่หยูนห่วนไปทีหนึ่ง คิดในใจว่า ทำเป็นโอ้อวดไปเถอะ เดี๋ยวนายได้หน้าแหกแน่นอน
“ทุกท่านครับ รบกวนเงียบกันหน่อยครับ ผมรู้ว่าทุกท่านตื่นเต้น แต่ว่าตอนนี้ต้องทำการลงนามในสัญญาระหว่างพวกเรา ไว้รอให้พวกเราแถลงข่าวเสร็จ จะให้เวลานักข่าวทุกท่านสัมภาษณ์นะครับ ขอให้ทุกท่านอดใจรออีกสักนิด ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือครับ”
หลังจากที่เวียร์พูดจบ ด้านล่างเวทีก็พากันเงียบลงทันที
“ครับ ลำดับต่อไปพวกเราขอเชิญผู้รับผิดชอบโครงการของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป……”
ลี่หยูนห่วนไม่รอให้เวียร์พูดจบ ก็ได้จัดแจงเสื้อผ้า แล้วยืนขึ้นทันที แล้วหันไปโบกมือให้กับนักข่าวที่อยู่ด้านข้าง
“……คุณลี่จุนซิน รักษาการประธานของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป ขอเรียนเชิญครับ!”
หลังจากได้ยินชื่อ ด้านล่างเวทีก็ส่งเสียงหัวเราะกันใหญ่ แล้วชี้ไม้ชี้มือไปทางลี่หยูนห่วน
หลังจากที่ลี่หยูนห่วนได้ยินชื่อของลี่จุนซิน ก็ยืนแข็งทื่ออยู่กับที่ สีหน้าดูโกรธแค้นขึ้นมาทันที สีหน้าที่เปลี่ยนกะทันหันของเขาเหมือนได้ตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าไม่มีผิด
จนกระทั่งลี่หุยที่นั่งหน้าชาอยู่ข้าง ๆ ตั้งสติขึ้นมาได้ ก็รีบดึงลี่หยูนห่วน จนลี่หยูนห่วนได้สติ แล้วนั่งกระแทกลงไปด้วยความโกรธ
ลี่จุนซินมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วหัวเราะคิกคักออกมา จากนั้นก็ค่อย ๆ ลุกขึ้น แล้วโบกมือไปรอบ ๆ จากนั้นก็หันไปมองลี่หยูนห่วน
“ขอโทษด้วยจริง ๆ นะ ประธานลี่ วันนี้เป็นฉันที่ต้องขึ้นไปเซ็นสัญญา”
ลี่จุนซินต้องการยั่วโมโหลี่หยูนห่วนและลี่หุย จึงได้เน้นย้ำคำว่า “เซ็นสัญญา” ใส่พวกเขา
ลี่หยูนห่วนโกรธจนหน้าบูดบึ้งเหมือนสิงโตที่กำลังโมโห ใบหน้าที่ปกติดูสุภาพเรียบร้อย กลายเป็นใบหน้าที่เกรี้ยวกราดจนน่ากลัว เหมือนแมวที่ดูเชื่องจู่ ๆ ก็แยกเขี้ยวแหลมออกมา
นักข่าวที่อยู่ด้านล่าง ก็กดชัตเตอร์ถ่ายรูปรัวไม่หยุด พวกเขาดูดีใจกันมาก พรุ่งนี้มีข่าวเด็ดให้พาดหัวแล้ว ไม่สิ บ่ายวันนี้ข่าวนี้ก็คงจะดังระเบิด
ในเมื่อลี่หยูนห่วนไม่เคยไว้หน้าพวกเธอมาโดยตลอด คราวนี้ก็ถือโอกาสฉีกหน้าเขาเลยแล้วกัน ทำลายความฮึกเหิมอวดดีของพวกเขาอย่าให้เหลือ ขณะเดียวกันก็เป็นการเตือนพวกผู้ถือหุ้นที่สนับสนุนพวกลี่หยูนห่วนด้วย
ลี่จุนซินค่อย ๆ เดินขึ้นไปบนเวที เวียร์ลุกขึ้นมาจูงลี่จุนซินเข้าไป ลี่จุนซินยิ้มขอบคุณให้กับเวียร์
สีหน้าท่าทางของพวกลี่หยูนห่วนยิ่งดูน่าสนุกมากขึ้นไปอีก
วาเทอร์และอลันที่อยู่ด้านล่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้เป็นพวกเขา
อลันส่งข้อความไปหาวาเทอร์ ถามด้วยความสงสัยว่า :
“นี่มันเรื่องบ้าอะไร? ทำไมถึงได้เป็นพวกหล่อน?”
วาเทอร์หันหน้าไปมองอลันแวบหนึ่ง เพื่อบอกว่าตัวเองก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน ถึงแม้ตัวเองเอาแผนงานให้เวียร์แล้ว แต่ต่อจากนั้นเขาก็ไม่สามารถไปควบคุมได้
ลี่จุนถิงสังเกตเห็นจากในกล้องวงจรปิดหลังเวทีว่าวาเทอร์ส่งซิกส่งสายตากับคนที่อยู่ด้านหลังคนหนึ่งบ่อย ๆ จึงสั่งให้ชิงโม่ไปสืบเรื่องของคนคนนั้นมา คนคนนั้นต้องแอบทำเรื่องอะไรไม่ดีกับวาเทอร์แน่นอน
เจียงหยุนเอ๋อที่อยู่ด้านล่างเวทีเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ก็รู้สึกสะใจมาก
เวียร์และลี่จุนซินลงนามในสัญญากันอย่างรวดเร็ว จากนั้นเวียร์ก็ส่งสัญญาณให้นักข่าวด้านล่างเวทีสามารถถามคำถามได้
นักข่าวที่อยู่ด้านล่างได้เริ่มถามคำถาม ว่าทำไมถึงได้เลือกบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป
เวียร์ยิ้มแล้วมองลี่จุนถิง จากนั้นตอบไปว่า :
“นั่นเป็นเพราะความยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป ถึงแม้ตอนนี้บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปจะประสบปัญหาเล็กน้อย แต่ผมเชื่อมั่นว่าพวกเขาสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วแน่นอน อีกอย่าง บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปมีห่วงโซ่การผลิตเป็นของตัวเอง ทำให้ประหยัดต้นทุนในการผลิตไปได้ อีกทั้งยังสามารถรักษาคุณภาพของสินค้าได้ดียิ่งขึ้นด้วย”
“บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปยังมีการตลาดที่ทันสมัยและทรงพลังที่สุด เรียกได้ว่า บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปมีสัดส่วนการตลาดที่ใหญ่สุดในประเทศจีน เงื่อนไขเหล่านี้ คงเพียงพอที่ทำให้พวกเราเลือกบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปนะครับ”
“แน่นอนว่า สาเหตุที่สำคัญที่สุดคือ ผมได้ใกล้ชิดกับคุณลี่จุนถิงประธานบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปมาแล้ว ความสามารถของเขา ทุกคนต่างก็เห็นชัดกันดีอยู่แล้ว ดังนั้น ผมหวังว่าพวกเราสามารถร่วมงานกันได้อย่างมีความสุขครับ”
ตอนที่ชื่อของลี่จุนถิงดังออกมาจากปากเวียร์ ทั้งงานก็ตกอยู่ในความเงียบ ผ่านไปครู่หนึ่ง ทุกคนถึงตั้งสติขึ้นมาได้ว่าตัวเองไม่ได้ฟังผิดไป
หลังจากที่ลี่หยูนห่วนและลี่หุยได้ยิน ก็หน้าดำหน้าแดงขึ้นมาทันที ใบหน้าดูตกใจสุดขีด ในใจรู้สึกวิตกกังวลมาก
นักข่าวที่อยู่ล่างเวลาเริ่มเอะอะเสียงดังขึ้นมา แล้วต่างคนก็ต่างแย่งกันถาม :
“ลี่จุนถิง?”
“ประธานของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป?”
“ลี่จุนถิงหายตัวไปไม่ใช่เหรอ?”
“คุณได้เจอกับลี่จุนถิงแล้วจริงเหรอ?”
“คุณได้พบกับคุณลี่จุนถิงที่ไหนและเมื่อไหร่คะ?”
ด้านล่างเสียงดังเอะอะขึ้นมา ลี่จุนถิงที่อยู่หลังเวทีเห็นผลลัพธ์อย่างนี้ก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้รอแค่ให้เวียร์เรียกตัวเองออกไปเท่านั้น
เวียร์มองเห็นทุกอย่างจากด้านบนเวที ก็พึงพอใจมาก หลายวันนี้พาดหัวข่าวของเมืองจิ่งเฉิงต้องมีแต่ข่าวพวกเขาแน่นอน สินค้ายังไม่ได้ผลิตออกมาจำหน่าย ก็มีชื่อเสียงดังขึ้นมาก่อนแล้ว กลยุทธ์ทางการตลาดของลี่จุนถิงนี่ยอดเยี่ยมจริง ๆ เวียร์รู้สึกชื่นชมนับถือในตัวลี่จุนถิงมากขึ้นไปอีก
“นักข่าวทุกท่านครับ ทุกท่านรบกวนอยู่ในความสงบสักครู่ ในเมื่อทุกท่านมีคำถามมากมายขนาดนี้ งั้นพวกเราเชิญคุณลี่จุนถิงออกมาอธิบายให้ทุกท่านฟังด้วยตัวเองเลยดีกว่าไหมครับ”
เมื่อวานหลังจากที่ลี่จุนถิงและเวียร์เจรจากันเสร็จ ก็ได้บอกกับเวียร์ว่า จะอาศัยงานแถลงข่าวครั้งนี้ เปิดตัวให้ยิ่งใหญ่ และถือโอกาสโจมตีพวกลี่หยูนห่วนให้หนัก ๆ ด้วย ดังนั้นในเวลานี้ลี่จุนถิงจึงได้ปรากฏตัวออกมา การที่เขากลับมาแล้วนั้นเป็นความจริง
ลี่จุนถิงจัดแจงเสื้อผ้าตัวเองเล็กน้อย แล้วก็เดินออกมาจากด้านหลังเวที ยืนอยู่บนเวที แล้วทักทายกับทุกคนอย่างเป็นธรรมชาติ
“สวัสดีครับทุกท่าน ผมคือลี่จุนถิงประธานบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปครับ ดีใจมากที่ครั้งนี้ได้มีโอกาสร่วมงานกับบริษัทแมกซ์เวลเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิคส์ หวังว่าพวกเราจะสามารถร่วมงานกันอย่างมีความสุข ขอบคุณทุกท่านมากครับ”
วินาทีที่ลี่จุนถิงออกมาจากด้านหลังเวที ทุกคนมองไปที่เขา แล้วฮือฮากันขึ้นมาทันที ต่างคิดในใจว่า ลี่จุนถิงดูทรงพลังมากจริง ๆ บุคลิกดูโดดเด่นมาก
บรรดานักข่าวผู้หญิงยิ่งพากันตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก
ลี่หยูนห่วนและลี่หุยจ้องมองลี่จุนถิงเดินออกมาทีละก้าวทีละก้าว เหมือนแต่ละก้าวนั้นเหยียบย้ำเข้าไปที่หัวใจของพวกเขา สีหน้าพวกเขาเปลี่ยนไปทันที กำมือแน่นจนกลายเป็นกำปั้น ปลายนิ้วจิกเข้ากับฝ่ามือจนเป็นรอยจ้ำแดง ๆ แต่พวกเขาก็ไม่รู้สึกตัว
ลี่หยูนห่วนหันหน้าที่แข็งทื่อไปมองลี่หุย แล้วพูดกับเขาด้วยเสียงแข็ง ๆ ต่ำ ๆ ว่า :
“ลี่จุนถิง……นึกไม่ถึงเลยว่ายังไม่ตาย”
รอบตัวทั้งสองคนเต็มไปด้วยบรรยากาศที่น่ากลัว เหมือนกับวันสิ้นโลกใกล้จะมาถึงแล้วยังไงยังงั้น