บทที่578 ฉันยินดีที่จะเข้าไปในชีวิตคุณ
“ไอหยา ที่รัก อาหารที่คุณทำเป็นของชอบของฉันทั้งหมดเลย แต่ว่าฉันยังรักคุณมากกว่านะ”
ลี่จุนถิงทำเหมือนไม่ได้ยินคำถามของเจียงหยุนเอ๋อ ก่อนจะจูบเจียงหยุนเอ๋อด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
เจียงหยุนเอ๋อเห็นท่าทีของลี่จุนถิงแบบนั้น ก็ผลักเขาออก
“คุณอย่ามาล้อเล่นกับฉันนะ คุณรีบตอบคำถามของฉันมา”
ลี่จุนถิงเห็นหน้าตาที่เป็นกังวลของเจียงหยุนเอ๋อ ก็รู้ว่าถ้าเกิดตัวเองยังพยายามปิดบังต่อไป เธอจะต้องกังวลมากกว่าเดิมแน่นอน บอกเธอไปเลยยังจะดีเสียกว่า จากนั้นเลยบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้เจียงหยุนเอ๋อฟัง
“ไม่มีอะไรหรอก แค่โดนทำลายโปรเจคไปน่ะ แต่ฉันให้พวกซู่จี้งยี้กับชิงโม่ไปตรวจสอบแล้ว”
“ทำไมจู่ๆ ถึงมีคนอยากจะทำลายโปรเจคได้ล่ะ?เป็นพวกลี่หยูนห่วนกับลี่หุยทำหรือเปล่า?”
“ตอนนี้ยังไม่รู้เหมือนกัน รอให้ชิงโม่ตรวจสอบก่อนถึงจะรู้น่ะ”
“ถึงแม้ว่าธุรกิจพวกนี้จะไม่ได้มีกำไรมากเท่าไหร่ แต่ตอนนี้มันก็มีผลกระทบกับบริษัทมากเหมือนกัน แต่ว่าถ้าเกิดเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่”
หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อเข้าใจแล้ว ก็รู้สึกร้อนรนไม่น้อยเลย
“ไม่ต้องกังวลไปหรอก บริษัทยังมีฉันอยู่นะ ฉันจะให้พวกเขาคายทุกอย่างที่ฮุบไปออกมาให้หมดเลยล่ะ”
ลี่จุนถิงพูดปลอบ
“ฉันเชื่อคุณ แต่ว่าคุณเองก็อย่าเหนื่อยมากเกินไปนะ เรื่องนี้เกรงว่าลี่หยูนห่วนกับพวกลี่หุยจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยน่ะสิ ฆาตกรที่ทำร้ายคุณก่อนหน้านี้ ยังหาตัวไม่เจอเลย”
“สองเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับพวกเขาอยู่แล้วล่ะ ชิงโม่เริ่มไปสืบแล้ว อีกไม่นาน เรื่องของธุรกิจก็น่าจะคืบหน้าบ้างล่ะ”
ลี่จุนถิงชะงักไปสักพัก ก่อนจะพูดต่อ:
“ส่วนเรื่องที่ฉันบาดเจ็บ ชิงโม่ก็ตามหาจนเจอเบาะแสแล้ว แต่ว่าตอนนั้นอยู่ต่างประเทศ เป็นฆาตกรมืออาชีพด้วยล่ะ มันน่าจะวุ่นวายมากกว่าเดิมอีก”
“มันโหดร้ายเกินไปแล้ว ทำไมพวกเขาถึงได้โหดร้ายขนาดนี้นะ”
เจียงหยุนเอ๋อพูดด้วยความเป็นกังวล
ลี่จุนถิงลูบหน้าของเจียงหยุนเอ๋อ ก่อนจะจูบเธอ พลางพูดปลอบเธอ:
“ไม่เป็นไรหรอก คุณอย่าไปกังวลเลย อีกอย่างเรื่องนี้พวกเราก็เพิ่งร่วมมือกับเวียร์ ถ้าเกิดว่าร่วมมือกับแมกซ์เวลเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิคส์ขึ้นมา คิดๆ ไปอาจจะสู้กับรองเท้าบูตไม่ได้นะ”
เมื่อลี่จุนถิงเห็นเจียงหยุนเอ๋อยังเป็นกังวลอยู่ ก็กอดเธอ จากนั้นก็เอาอาหารออกมาจากกล่อง เพื่อดึงความสนใจของเธอ
“เอาล่ะ ไม่ต้องกังวลไป พวกเรารีบกินข้าวกันเถอะ คุณไม่ได้มาหาฉันเพื่อกินข้าวด้วยกันเหรอ รีบกินเถอะ เดี๋ยวข้าวเย็นหมด กินอาหารเย็นๆ ไม่ดีต่อท้องไส้นะ เด็กดี”
“หลังจากกินข้าวเสร็จ คุณเข้าไปพักในห้องพักสักหน่อยเถอะ”
“โอเค เดี๋ยวกินเสร็จแล้วพวกเราจะไปหาพี่สาว เมื่อครู่ที่คุณพูดถึงเวียร์ ฉันก็คิดขึ้นได้ว่าช่วงนี้พี่สาวสนิทกับเวียร์ไม่น้อยเลย แล้วก็ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองไปถึงไหนแล้ว”
เจียงหยุนเอ๋อเองก็ไม่อยากให้ลี่จุนถิงเป็นห่วง เลยเก็บความเป็นห่วงของตัวเองเอาไว้ ก่อนจะพูดกับลี่จุนถิงด้วยรอยยิ้ม
ช่วงเที่ยง เมื่อกินข้าวเสร็จ เจียงหยุนเอ๋อก็อยากจะเข้าไปพักแล้ว ลี่จุนถิงอยู่กับเธอสักพัก จากนั้นก็ออกไปจัดการงานของตัวเอง
เจียงหยุนเอ๋อตื่นเพราะเสียงที่พวกเขาข้างนอกคุยกัน เจียงหยุนเอ๋อดูนาฬิกาก็เห็นว่าตอนนี้เวลาสี่โมงแล้ว หลังจากที่คนข้างนอกออกไปหมดแล้ว เธอก็เดินออกไป
“จุนถิง ทำไมคุณไม่เรียกฉัน นี่มันสี่โมงแล้วนะ พวกเรารีบไปหาพี่สาวเถอะ”
หลังจากที่ทั้งสองคนไปที่ห้องทำงานของลี่จุนซินแล้ว ก็เห็นว่าลี่จุนซินไม่อยู่ ผู้ช่วยบอกพวกเขา ลี่จุนซินเลิกงานไปแล้ว เหมือนกับว่ายังมีนัดตอนกลางคืนอีก เลยกลับบ้านเพื่อไปเปลี่ยนชุด
เจียงหยุนเอ๋อได้ฟังดังนั้น ก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
“เวียร์ ต้องนัดกับเวียร์แน่นอน”
ตอนกลางคืน ณ ร้านอาหารตะวันตก
เวียร์จองที่นั่งริมกระจก เพราะเขารู้ว่าลี่จุนซินชอบมองวิวข้างนอกมากที่สุด
เวียร์ใช้ข้ออ้างในการร่วมมือของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปกับแมกซ์เวลเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิคส์เพื่อนัดลี่จุนซินออกมา เขาบอกอยากจะยินดีกับลี่จุนซินสักหน่อย
ดังนั้นเวียร์เลยตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะว่าวันนี้เขาจะสารภาพรักกับลี่จุนซิน ถึงแม้ว่าลี่จุนถิงจะบอกเขา ว่าลี่จุนซินเองก็ชอบเขา แต่ว่าเขาก็ยังตื่นเต้นอยู่ดี เพราะกลัวว่าลี่จุนซินจะปฏิเสธเขา
ตอนที่ลี่จุนซินมาถึง ก็เป็นเวลาที่พวกเขานัดกันพอดี อันที่จริงลี่จุนซินมาถึงตั้งนานแล้ว แต่เธอนั่งอยู่ในลานจอดรถอยู่นาน เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงเวลาแล้วค่อยขึ้นไป แต่ว่าเธอคิดไม่ถึงเลย ว่าเวียร์จะมาถึงเร็วกว่าเธออีก
ลี่จุนซินเข้าไปก็เห็นเวียร์นั่งกินน้ำอย่างนิ่งสงบ แต่ว่าเธอไม่รู้เลยว่าในใจของเวียร์นั้นตื่นเต้นขนาดไหน
ลี่จุนซินจัดแจงเสื้อผ้าสักพัก ก่อนจะเดินเข้าไป
วันนี้ลี่จุนซินใส่กระโปรงขนหงส์สีเหลืองนุ่มฟู ด้านนอกสวมชุดคลุมสีม่วงตัวจิ๋ว ซึ่งมันยิ่งทำให้เรือนร่างของเธอดูโดดเด่นเข้าไปใหญ่ ส่วนเท้าก็สวมใส่รองเท้าบูตส้นสูงสีดำคู่หนึ่ง ส่วนเส้นผมดำขลับนั้นก็ยาวประบ่า
เมื่อเวียร์เห็นลี่จุนซินก็อึ้งไป พอเห็นว่าลี่จุนซินกำลังจะเดินมาถึงโต๊ะแล้ว เขาก็รีบลุกขึ้นมา ก่อนจะช่วยลี่จุนซินดึงเก้าอี้ออกมา หลังจากที่เธอนั่งลงแล้ว ถึงจะกลับไปนั่งที่ตัวเอง
เวียร์ชมลี่จุนซินสักหน่อย จากนั้นก็เรียกพนักงานมาเพื่อสั่งอาหาร
เวียร์สั่งอาหารเร็วขนาดนั้นไม่ใช่เพราะหิวมาก แต่เป็นเพราะเขาตื่นเต้นมากเลยล่ะ พลางกลัวว่าถ้าตัวเองพูดมากไปกว่านี้มันจะเผยความในใจออกมา
หลังจากที่สั่งอาหารเสร็จ สุดท้ายเวียร์ก็ใจเย็นลง พลางกลับมามีท่าทีเหมือนเจ้าชายเหมือนเดิม ก่อนจะแซวลี่จุนซินเล็กน้อย เพื่อทำให้ลี่จุนซินอารมณ์ดีขึ้น
หลังจากที่อาหารมาเสิร์ฟแล้ว ทั้งสองคนก็นั่งกินอย่างเงียบๆ และมีการคุยกันบ้างเล็กน้อย ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะไม่ได้รู้จักกันมานาน แต่ว่าทั้งสองคนก็มีสิ่งที่ชอบและไม่ชอบคล้ายกันมาก ดังนั้นข้าวมื้อนี้ ทั้งสองคนเลยกินอย่างมีความสุข
หลังจากที่อาหารหวานมาเสิร์ฟแล้ว ลี่จุนซินก็เริ่มคิด ว่าเวียร์สั่งแต่ของที่ตัวเองชอบมา แถมยังจองที่ที่ตัวเองชอบอีกด้วย บรรยากาศรอบๆ ก็ดีมาก สมบูรณ์แบบสุดๆ เวียร์น่าจะอยากจะสารภาพรักนั่นแหละ
แต่ว่า เมื่อเกือบจะกินของหวานเสร็จ เวียร์ก็คุยเรื่องที่ทั้งสองคนชอบ โดยที่ไม่มีท่าทีจะสารภาพรักเลย ถึงแม้ว่าลี่จุนซินจะชอบคุยเรื่องนี้มาก แต่ก็แอบผิดหวังเล็กน้อย
จนกระทั่งเวียร์มาส่งลี่จุนซินที่บ้าน บนรถนั้น ลี่จุนซินก็ยังไม่ได้มีท่าทีตื่นตัวมาก จนเวียร์คิดว่าลี่จุนซินป่วยแล้ว เลยถามไถ่เล็กน้อย แต่ว่าอารมณ์ของลี่จุนซินนั้นยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่
หลังจากที่ถึงแล้ว เวียร์เหมือนมีอะไรจะพูด ก็ได้ยินเสียงบอกลาของลี่จุนซินที่ดูไร้เรี่ยวแรง ก่อนจะหันตัวลงจากรถไป
เมื่อเวียร์เห็นท่าทีแบบนั้นก็ร้อนรนใจ ก่อนจะจับแขนของลี่จุนซินเอาไว้ ก่อนจะพูดออกมาสี่พยางค์ “ฉันชอบคุณนะ”
“อะไรนะ?” ลี่จุนซินอึ้งไป ก่อนจะถามออกไปตามสัญชาตญาณ
“ฉันบอกว่า ลี่จุนซิน ฉันชอบคุณ เป็นแฟนฉันได้ไหม?”
ลี่จุนซินเห็นเวียร์สารภาพรักกับตัวเองด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนจะมีน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
เมื่อเวียร์เห็นลี่จุนซินร้องไห้ ก็งุนงง โดยไม่รู้จะเอามือไว้ไหนด้วยซ้ำ ตอนแรกอยากจะปลอบใจเธอ ก็ได้ยินลี่จุนซินพูดว่า:
“ได้ ฉันตกลง แต่ว่าฉันหวังว่าความรู้สึกของพวกเราทั้งสองคนจะบริสุทธิ์ เพราะฉันไม่ชอบการหักหลังมากที่สุดเลย”
เมื่อเวียร์เห็นลี่จุนซินตอบตกลง ก็ดีใจเป็นอย่างมาก ก่อนจะกอดลี่จุนซินเอาไว้
“โอเคๆ คุณว่าอย่างไรฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ”
เวียร์ปล่อยลี่จุนซินพลางมองตาของเธอ แล้วพูดอย่างตั้งใจ
“ฉันขอเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณนะ