ตอนแรกกู้เฟยหลินแค่สื่อสารด้านการตลาดกับกวนเซ่าเผิง จากนั้นใช้วิธีว่าเธอเพิ่งมาทำงาน ระบบขั้นตอนการทำงานของบริษัทมีหลายจุดที่ยังไม่เข้าใจ ใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างในการเข้าใกล้กวนเซ่าเผิง
แค่ไม่กี่วันทั้งสองก็สนิทกันแล้ว และชวนกันไปดื่มกาแฟด้วยกันเป็นการส่วนตัว จากนั้นเกี่ยวกับโปรเจคที่คลาสสิคที่เคยทำมา วิเคราะห์ศึกษาด้วยกัน กวนเซ่าเผิงรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ทั้งสวยและเก่ง และชอบเรียนรู้ ลึกๆ ในใจยิ่งรู้สึกชอบเธอมากขึ้น
ตอนที่กู้เฟยหลินกับกวนเซ่าเผิงวิเคราะห์ปัญหาแต่ละเคสนั้น กวนเซ่าเผิงรู้สึกว่ากู้เฟยหลินวิเคราะห์ได้ถูกจุด และมุมมองมีเอกลักษณ์มาก มันไม่ตรงกับที่เธอพูดกับเขาว่าเธอไม่คุ้นเคยวงการนี้เลยแม้แต่น้อย
“กู้เฟยหลิน ผมดูแล้วคุณคุ้นเคยกับวงการนี้มาก ไม่จำเป็นต้องให้ผมสอนด้วยซ้ำ”
กวนเซ่าเผิงพูดล้อเล่นขึ้นมา
กู้เฟยหลินเมื่อเจอเรื่องที่เกี่ยวกับเฉพาะวิชาชีพระดับสูง ก็จะถลำลึกเข้าไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นความรู้ด้านเฉพาะวิชาชีพระดับสูงก็จะโผล่ขึ้นมาในหัวสมองทันที ดังนั้นเมื่อกวนเซ่าเผิงพูดล้อเล่นกับเขานั้น เธอตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่ก็แสดงออกมาอย่างสงบใจเย็น
“อย่าล้อฉันเล่นเลย เมื่อเทียบกับคุณแล้ว แทบจะเทียบอะไรไม่ได้เลย เมื่อคืนฉันทำการบ้านมาก่อนล่วงหน้า ไม่อย่างนั้นฉันไม่มีวันเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้หรอก”
กวนเซ่าเผิงรู้ว่าเธอถ่อมตัว ดังนั้นจึงยิ้มๆ ไม่พูดอะไรต่อ
กู้เฟยหลินเห็นกวนเซ่าเผิงไม่พูดอะไรต่ออีก นึกว่ากวนเซ่าเผิงเริ่มสงสัยเธอแล้ว จึงพูดเสียงอ่อนโยนลงเพื่อเป็นการทดลอง
“คุณไม่อยากสอนฉันแล้วใช่ไหม?ประธานลี่เคยพูดไว้ฉันมีตรงไหนไม่เข้าใจสามารถถามพวกคุณได้ตลอดเวลา”
กวนเซ่าเผิงได้ยินเสียงเธอ กระดูกอ่อนปวกเปียกไปหมด “ไม่ใช่ เป็นแบบนั้นได้ยังไง คุณมีปัญหาอะไร ปรกติคุณก็สามารถถามผมได้ตลอด”
“จริงเหรอ?” กู้เฟยหลินตื่นเต้นมาก ที่ตื่นเต้นไม่ใช่เพราะว่าไปถามเขาได้ตลอดเวลา แต่เป็นเพราะว่ามีโอกาสเข้าใกล้คอมพิวเตอร์ของเขา
วันนี้ กู้เฟยหลินจงใจหาคำถามที่เป็นเฉพาะวิชาชีพระดับสูงที่รค่อนข้างยาก แล้วนำเอาข้อมูลไปถามกวนเซ่าเผิง และปัญหาเฉพาะวิชาชีพระดับสูงนี้ กวนเซ่าเผิงจำเป็นต้องเปิดคอมเพื่อหาข้อมูลเฉพาะวิชาชีพระดับสูงนี้
ในคอมพิวเตอร์ของกวนเซ่าเผิงมีแต่ไฟล์โปรเจคที่เป็นความลับ เวลาทำงานปรกติ เขาใช่คอมอีกเครื่อง ดังนั้นถ้าไม่จำเป็น เขาจะไม่เปิดคอมเครื่องนี้เด็ดขาด
แต่ว่า วันนี้คำถามข้อนี้ เขาจำเป็นต้องเปิดคอมพิวเตอร์ เขาเงยหน้ามองกู้เฟยหลินด้วยความเขินอายเล็กน้อย
กู้เฟยหลินไม่ใช่ไม่เข้าใจความหมายของเขา แต่เวลานี้แค่แกล้งโง่เท่านั้นเอง กวนเซ่าเผิงเห็นสายตาที่ใสซื่อของกู้เฟยหลินและจ้องมองมาอย่างคาดหวัง ทายว่าเธอคงไม่รู้กฎกติกาของลี่ซื่อกรุ๊ป ดังนั้น จะพูดเตือนเธอเสียงเบา
“เฟยหลิน ต้องขอโทษด้วย คือ……”
ในขณะที่กวนเซ่าเผิงพูดอยู่นั้นได้ใช้นิ้วชี้ไปที่คอมด้วย แต่หลังจากที่กวนเซ่าเผิงพูดจบเขาก็รู้สึกเสียใจ คิดในใจว่าพูดแบบนี้กับผู้หญิง เหมือนไม่ค่อยดี อีกอย่างรหัสของเขาก็ค่อนข้างซับซ้อน ถึงแม้กู้เฟยหลินจะเห็นก็คงจะจำไม่ได้
เมื่อกู้เฟยหลินได้ยินคำพูดของกวนเซ่าเผิง แสร้งทำเป็นรู้แจ้งในทันที แต่กลับด่าเขาในใจ เธอก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวแล้วหันตัวกลับไป อันที่จริงเธอแค่หันตัวเล็กน้อยก็สามารถเห็นรหัสคอมพิวเตอร์ของกวนเซ่าเผิงได้
กวนเซ่าเผิงเห็นท่าทางของเธอ รู้สึกเกรงใจเล็กน้อย “ความจริงก็ไม่เป็นไรหรอก รหัสของผมค่อนข้างซับซ้อน คุณเห็นก็ไม่เป็นไร”
แต่กู้เฟยหลินกลับปฏิเสธ “ความจริงต้องทำแบบนี้อยู่แล้ว คุณรีบใส่รหัสเถอะ”
ความจริง ที่กู้เฟยหลินปฏิเสธก็เพียงเพื่อป้องกันไม่ให้กวนเซ่าเผิงสงสัยเธอในอนาคต
หลังจากที่กวนเซ่าเผิงใส่รหัสเสร็จ บอกให้กู้เฟยหลินหันกลับมาได้แล้ว กู้เฟยหลินหันกลับมายิ้มหวานให้เขา ทำให้กวนเซ่าเผิงยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นอีก
คืนนั้น พนักงานแผนกการตลาดเลิกงานหมดแล้ว ส่วนกู้เฟยหลินก็เตรียมจะเลิกงานเหมือนกัน เห็นกวนเซ่าเผิงกำลังยุ่งอยู่ จึงเข้าไปทัก
“เซ่าเผิง คุณยังไม่กลับอีกเหรอ?”
“ใช่แล้ว ยังมีเรื่องงานอีกนิดหน่อยต้องรีบจัดการ เดี๋ยวสักพักเสร็จแล้วก็จะกลับเลย คุณก็จะเลิกงานแล้วเหรอ?”
กู้เฟยหลินพยักหน้า “ใช่แล้ว งานวันนี้มีปัญหานิดหน่อย จึงเลิกดึกเล็กน้อย คุณทำงานของคุณไปก่อนเถอะ ฉันขอตัวกลับก่อน แล้วอย่าทำงานดึกมากเกินไปล่ะ”
กวนเซ่าเผิงยิ้มแล้วพยักหน้า แล้วบอกลากับกู้เฟยหลิน
ก่อนที่กู้เฟยหลินจะเดินออกไปจากออฟฟิศ ได้หันกลับมามองอีกครั้ง ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มแปลกๆ ผุดขึ้นมา แต่ใบหน้าของเธอคนนี้บวกกับรอยยิ้มนี้ ไม่ได้รู้สึกขัดแย้งกันเลย
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงกว่า กวนเซ่าเผิงก็กลับบ้าน
แต่สิ่งที่คาดคิดไม่ถึงคือ หลังจากนั้นอีกหนึ่งชั่วโมง กู้เฟยหลินได้กลับมาอีกครั้ง เธอหลบกล้องวงจรปิด หลังจากเข้ามาในแผนกแล้ว เดินตรงเข้าไปที่โต๊ะทำงานของกวนเซ่าเผิง จากนั้นเปิดคอมพิวเตอร์ของกวนเซ่าเผิง ป้อนรหัสผ่านอย่างรวดเร็ว และดำเนินการต่อ
ความจำของกู้เฟยหลินดีมาก วันนี้เห็นรหัสของกวนเซ่าเผิง ถึงแม้จะซับซ้อนตามที่กวนเซ่าเผิงพูด แต่กู้เฟยหลินก็จำมันได้อย่างแม่นยำ
เข้าสู่ระบบได้ และหลังจากเปิดคอมพิวเตอร์แล้ว ในเครื่องของ กวนเซ่าเผิงมีซอฟต์แวร์มากมาย แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นซอฟต์แวร์ออฟฟิศทั่วไป กู้เฟยหลินสำรวจดูสัญลักษณ์ของรูปภาพแล้วหนึ่งรอบ ในที่สุดก็หาเจอหนึ่งในซอฟต์แวร์นั้นที่เก็บข้อมูลของเขาอยู่
เมื่อกู้เฟยหลินเปิดดู ซอฟต์แวร์นี้มีรหัสล็อกไว้อีกชั้น แต่กู้เฟยหลินก็ถอดรหัสเซตนี้ได้อย่างรวดเร็ว หลังจากเข้าไปในซอฟต์แวร์แล้ว ข้างในมีไฟล์เยอะมาก และทุกไฟล์ก็มีรหัสส่วนตัวเป็นของตัวเองหมด
รหัสพวกนี้สำหรับกู้เฟยหลินแล้ว ถือว่าง่ายดายมาก กู้เฟยหลินได้ถอดรหัสไฟล์ลับได้อีกหลายไฟล์ ในที่สุดก็หาเจอข้อมูลเกี่ยวกับโปรเจคทางการแพทย์ด้านยาเจอ จากนั้นใช้อีเมลของกวนเซ่าเผิงส่งอีเมลไปถึงอีกอีเมลหนึ่ง
หลังจากทำเรื่องพวกนี้เสร็จแล้ว กู้เฟยหลินได้จัดของของกวนเซ่าเผิงให้คืนสู่สภาพเดิม จากนั้นลุกขึ้นแล้วเดินออกไป
วันรุ่งขึ้น เกลกรุ๊ปชิงเผยแพร่ข้อมูลโปรเจคทางการแพทย์ด้านยาก่อน ซึ่งทำให้เกิดความโกลาหลในตลาดโลกและวงการแพทย์ในชั่วขณะ
เมื่อลี่จีถองมาถึงบริษัทก็ได้รับข่าวนี้ โกรธมาก สั่งให้ซู่จี้งยี้เรียกกวนเซ่าเผิงให้เข้ามาพบ
ตอนเช้าเมื่อกวนเซ่าเผิงมาถึงบริษัท ก็เห็นข่าวนี้แล้ว เขาตื่นตระหนกขึ้นมาทันที เพื่อนร่วมงานในแผนกต่างเห็นข่าวนี้กันแล้ว พูดซุบซิบนินทากัน ต่อหน้ากวนเซ่าเผิง หลายคนที่สนิทสนมกับกวนเซ่าเผิง ได้เดินเข้ามาถามกวนเซ่าเผิงว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่กวนเซ่าเผิงจะรู้ได้ยังไงว่ามันเกิดอะไรขึ้น
กู้เฟยหลินแสร้งทำเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร แล้วเดินเข้ามาปลอบใจ
“เซ่าเผิง เรื่องนี้คุณไม่ได้เป็นคนทำใช่ไหม?แต่ข้อมูลพวกนี้มีแต่คุณคนเดียวที่มี คุณลองคิดดูหรือว่าคุณส่งข้อมูลให้ใครผิดไปหรือเปล่า?”
คำพูดของกู้เฟยหลินนี้ฟังผิวเผินอาจฟังไม่ออกว่ามีอะไร แต่ถ้าตอนนี้กวนเซ่าเผิงไม่ได้ตื่นตระหนกขนาดนี้ ต้องฟังออกว่ามันหมายถึงอะไร แต่มีเพื่อนร่วมงานหลายคนฟังออกแล้ว และเพื่อนร่วมงานพวกนี้โดยส่วนตัวก็ไม่ค่อยชอบกวนเซ่าเผิงอยู่แล้ว เวลานี้เมื่อได้ทีก็ฉวยโอกาสซ้ำเติมเลย
“กวนเซ่าเผิง คุณพูดสิว่าคุณคือสายลับทางการค้าใช่ไหม?”
กวนเซ่าเผิงยังไม่ตอบ ซู่จี้งยี้ก็เข้ามาเรียกเขาแล้ว และได้เอาคอมพิวเตอร์ของกวนเซ่าเผิงไปด้วย