เมื่อลี่จุนถิงมาถึงโรงพยาบาล ชิงโม่ก็กำลังรอเขาอยู่ที่ประตูโรงพยาบาล
หลังจากเห็นชิงโม่ รถยังไม่ทันจะจอดดี ลี่จุนถิงก็รีบลงมาแล้วและเดินไปหาชิงโม่อย่างรีบร้อน “ชิงโม่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ลี่จุนถิงยืนอยู่ต่อหน้าชิงโม่อย่างโกรธจัด หัวของเขากำลังมีไอร้อนพุ่งขึ้น มีเหงื่อสีใสหลายเม็ดอยู่ที่ปลายจมูกของเขา คิ้วทั้งสองขมวดขึ้นด้วยความโมโห แต่ปากกลับกำลังยิ้มเยาะ ทันทีที่ชิงโม่เห็น เขาก็รู้ว่าลี่จุนถิงกำลังโกรธจัดอยู่
ใช่สิ ภรรยาของตนหายไป ในเวลานี้หากลี่จุนถิงจะลุกขึ้นมาทุบตีเขาสักยก เขาเองก็เข้าใจได้ ท้ายที่สุดแล้วนี่ก็เป็นเพราะเขาไม่ได้ดูแลเจียงหยุนเอ๋อให้ดีๆ
ชิงโม่ไม่เคยเห็นลี่จุนถิงเป็นกังวลและโกรธจัดขนาดนี้มาก่อน แต่ตอนนี้เขาหุนหันพลันแล่นมากขนาดนี้ ก็อาจเข้าขั้นขนาดสติและพลาดข้อมูลสำคัญบางอย่างไปได้
“ประธานลี่ นายใจเย็นลงก่อน นายเป็นแบบนี้…”
“ใจเย็น? นายจะให้ฉันใจเย็นยังไง! เมียของฉันหายไป แถมเธอยังตั้งท้องอยู่อีกด้วย! นายรีบพูดมาเร็วๆ อย่ามัวแต่อ้ำๆอึ้งๆ”
ชิงโม่ถอนหายใจอีกครั้ง “ตอนนั้นคุณนายเข้าห้องตรวจครรภ์ พวกเราจะตามเข้าไปก็ไม่สะดวกนัก ก็เลยเฝ้าอยู่ข้างนอกประตู ตลอดเวลา หมอที่อยู่ข้างในล้วนเป็นคนของเราทั้งหมด ดังนั้นจึงคิดไปว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
“ตอนแรกก็ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ว่าเรารออยู่นานกลับไม่มีใครออกมาสักที ฉันเอะใจขึ้นมาว่าอาจเกิดเรื่อง จนกระทั่งฉันบุกเข้าไป ก็พบว่าหมอข้างในหลายคนเป็นลมหมดสติอยู่ที่พื้น แต่ว่ากลับไร้เงาของคุณนาย”
“จู่ๆ จะหายไปได้ยังไง? เธอถูกพาออกไปทางไหน? ที่นี่มีทางออกเดียวเท่านั้น จะหายไปได้ยังไงกัน?” ” ในที่สุดลี่จุนถิงก็คำรามออกมาอย่างห้ามไม่ไหว
แพทย์และผู้ป่วยที่เดินผ่านมาต่างตกใจกับเสียงตะคอกคำรามของเขา แต่เมื่อเห็นสีหน้าบึ้งตึงของเขาก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากบ่น
ชิงโม่ก้มหัวให้คนรอบๆเพื่อขอโทษ ก่อนจะดึงลี่จุนถิงเอาไว้ “นายใจเย็นๆก่อน ที่นี่มันโรงพยาบาล”
“เมื่อสิบนาทีที่แล้ว มีพยาบาลคนหนึ่งผลักรถเข็นออกมา และไม่มีใครออกมาอีกเลย ภายในรถเข็นของพยาบาลล้วนเป็นถุงขยะสีดำใบใหญ่ๆทั้งนั้น มองดูแล้วเหมือนขยะ และมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวว่าคุณนายน่าจะถูกซ่อนอยู่ในนั้น”
“หลังจากเกิดเรื่อง ฉันก็รีบปิดล้อมโรงพยาบาลทันที แต่กลับไม่เห็นผู้ต้องสงสัยเลย ฉันส่งคนไปค้นหาทุกแผนก รวมถึงห้องใต้ดินและแผนกผู้ป่วยใน แต่ก็ยังหาไม่พบ”
“ต่อมา พวกเราเจอพยาบาลคนหนึ่งถูกตีหมดสติอยู่ในห้องแต่งตัวของพยาบาล ตอนนี้เธอยังคงสลบอยู่ เมื่อเธอตื่นขึ้นมา พวกเราสามารถสอบถามเธอได้”
หลังจากได้ยิน ลี่จุนถิงก็ยิ่งโกรธมากขึ้น ในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวเหวี่ยงหวัดเข้าใส่ชิงโม่ แต่สุดท้ายหมัดของเขาก็ตกไปที่กำแพง แม้ว่าลี่จุนถิงจะรู้ว่านี่ไม่ใช่ความผิดของชิงโม่ แต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะระบายความโกรธกับชิงโม่ โชคดีที่ในชั่ววินาทีสุดท้ายเขายังมีสติหลงเหลืออยู่
ชิงโม่เห็นว่าลี่จุนถิงโกรธตนเองแล้ว เขาก็หลับตาลงอย่างยอมรับชะตา แต่สุดท้ายความเจ็บปวดในจินตนาการกลับไม่ปรากฏขึ้น เมื่อเขาลืมตา ลี่จุนถิงก็กำลังเหนื่อยหอบอยู่ข้างเขา มือของเขากระแทกเข้ากำแพงไปแล้ว เนื่องจากความแข็งแกร่งของเขา ตอนนี้มือของลี่จุนถิงจึงมีเลือดออก
ชิงโม่รีบเรียกพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดคนหนึ่ง คิดจะพันแผลให้ลี่จุนถิง แต่ลี่จุนถิงกลับโบกมือ ให้พวกเขาไปอยู่ด้านข้าง
มือทั้งสองของเขาเท้าสะเอวและเดินไปมารอบๆอย่างไม่หยุด จู่ๆสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง กล้องวงจรปิด!
“ชิงโม่ กล้องวงจรปิด! กล้องวงจรปิดนายดูแล้วหรือยัง”
ชิงโม่อุทานออกมาลั่น “ยัง นี่ฉันลืมเรื่องกล้องวงจรปิดไปได้ยังไง” ”
ทั้งสองคนรีบถามพยาบาลที่อยู่ด้านข้างคนนั้น ห้องวงจรปิดของโรงพยาบาลอยู่ตรงนั้น แต่เรื่องจากพยาบาลตกใจกลัวจนบื้อไปแล้ว ดังนั้นจึงได้แต่ชี้นิ้วบอกพวกเขาอย่างแข็งทื่อ
ลี่จุนถิง และ ชิงโม่รีบไปที่ห้องวงจรปิด แต่พนักงานภายในห้องกลับไม่ยอมให้พวกเขาดูมัน
“ขออภัยครับคุณผู้ชาย โรงพยาบาลของเรามีระเบียบว่าถ้าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจะไม่สามารถตรวจดูได้ยกเว้นได้รับการอนุญาตจากบุคคลที่รับผิด”
เมื่อเห็นว่าลี่จุนถิงกำลังจะโกรธอีกครั้ง ชิงโม่รีบพูดกับชายคนนั้นว่า “ขอโทษด้วย พอดีว่าคนในครอบครัวของเราหายไปในโรงพยาบาลของพวกคุณ คุณไปรายงานหัวหน้าคุณสักหน่อย จากนั้นพวกเราจะอยู่ที่นี่ตรวจสอบดู ได้ไหม?”
“ไม่ได้ พวกคุณยังเข้าไปไม่ได้ พวกคุณบอกเวลาและสถานที่มา และบอกรูปลักษณ์ของคนหายมา ผมจะให้คนของเราดูให้”
ลี่จุนถิงกังวลมากจนรอไม่ไหวแล้ว เขายื่นมือออกไปผลักชายคนนั้น จากนั้นจึงเตะประตูห้องวงจรปิดให้เปิดออก และตรงดิ่งเข้าไปสั่งให้คนที่อยู่ข้างในเปิดกล้องวงจรปิดขึ้นมา
คนข้างในตกใจกลัวไม่น้อย แต่เมื่อเห็นใบหน้าดำทะมึนของลี่จุนถิง พวกเขาก็ทำได้เพียงส่งแค่เปิดกล้องวงจรปิดขึ้นมาให้พวกเขา
ทันทีที่ ชิงโม่เห็น เขาก็รีบประคองช่วยคนที่อยู่นอกประตูขึ้นมา จากนั้นจึงให้เขาโทรหาหัวหน้างาน และให้บอกไปว่าประธานลี่มาแล้ว”
ผู้ชายคนนั้นไม่เพียงแต่โทรหาหัวหน้างานเท่านั้น แต่ยังเรียกตำรวจด้วย
เมื่อหัวหน้างานได้ยินว่าเป็นประธานลี่ เขาก็รีบวางงานในมือลง และวิ่งไปที่ห้องวงจรปิดทันที
“โอ้ ประธานลี่ คุณมาได้ยังไงครับ? หากคุณต้องการดูกล้องแค่บอกผมล่วงหน้าก็ได้แล้ว”
ชิงโม่รีบปิดปากของหัวหน้างานและดึงเขาออกไปมุมหนึ่ง
“หัวหน้างาน ภรรยาของประธานลี่หายไปในโรงพยาบาลของคุณ แถมตอนนี้เธอก็กำลังตั้งครรภ์ แต่เธอกลับหายไปในโรงพยาบาลของคุณทั้งแบบนี้ ยังมีแพทย์และพยาบาลตัวน้อยของพวกคุณอีกหลายคนที่ตอนนี้ถูกตีจนหมดสติไปด้วย”
หัวหน้างานถึงกับตกตะลึงตาโต ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
“แล้ว… แล้วจะทำยังไงนี่? ตำแหน่งนี้ของผมกำลังจะหลุดลอยไปแล้วรึเปล่า?”
“คุณไม่ต้องกลัว ขอแค่คุณให้ความร่วมมือในการตรวจสอบก็พอแล้ว”
ผ่านไปอีกสักพักหนึ่ง ตำรวจก็มาถึง ชิงโม่จึงบอกสถานการณ์กับตำรวจอีกครั้งหนึ่ง
หัวหน้างานไม่กล้าละเลย เขารีบให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงค้นหาทุกตารางนิ้วของโรงพยาบาล แต่ก็ยังไม่พบเจียงหยุนเอ๋อ ลี่จุนถิงโกรธอย่างยิ่ง
“ถ้ามีอะไรผิดปกติกับภรรยาของฉัน ฉันรับรองว่าจะพาพวกนายไปฝังพร้อมกันแน่นอน”
ในอีกด้านหนึ่ง ซู่จี้งยี้หลังจากจัดการกับเรื่องที่บริษัทเสร็จก็รีบตามมา “ประธานลี่ ตอนนี้ระบบของบริษัทไม่ถูกโจมตีแล้วและได้รับการซ่อมแซมก่อนที่ผมจะออกมา”
“ยิ่งไปกว่านั้น คนที่โจมตีระบบภายในของบริษัทและคนที่ลักพาตัวคุณนายน่าจะเป็นคนกลุ่มเดียวกัน พวกเขาเตรียมการมาก่อนแล้ว การโจมตีระบบของบริษัทเราก็เป็นแค่ฉากหน้าเท่านั้น การลักพาตัวคุณนายต่างหากคือเป้าหมายที่แท้จริง”
ใบหน้าของลี่จุนถิงดูยากอย่างยิ่ง เมื่อเขาได้ยินว่าเขาเป็นคนกลุ่มเดียวกัน เขาก็นึกไปถึงเกลกรุ๊ปทันที
ลี่จุนถิงสืบรู้ว่าเป็นอลันมานานแล้ว แต่เพื่อหลีกเลี่ยงไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น ดังนั้นที่ผ่านมาเขาจึงไม่เคยเคลื่อนไหวอะไร แต่ครั้งนี้ไม่คิดเลยว่าอลันจะมาหาเรื่องถึงหน้าประตูแบบนี้
ลี่จุนถิงพูดโดยไม่แม้แต่จะหันหลังกลับ “เกลกรุ๊ป” จากนั้นก็สาวเท้าออกไปทันที พร้อมกับพวก ชิงโม่ที่รีบตามไปเช่นกัน