เจียงหยุนเอ๋อค่อยๆ ตื่นขึ้นมา ก็เห็นหลันเยว่เฉินกับซู่จี้งยี้และคนอื่นๆ ที่มองเธออยู่ แววตาเลยเหมือนอยู่ในภวังค์ ขึ้นมาเล็กน้อย
หลันเยว่เฉินรีบพูด “พี่สะใภ้ คุณอย่าร้อนใจไป พี่ใหญ่แต่สลบไปเท่านั้นน่าจะเป็นเพราะยาชานั้นยังมีฤทธิ์อยู่”
เมื่อได้ยินว่าลี่จุนถิงไม่เป็นไร เจียงหยุนเอ๋อก็ค่อยๆ เย็นใจลง
คนด้านข้างย้ายลี่จุนถิงไปวางที่ที่เขาจะนอนได้สบายๆ ตามที่เธอบอก เจียงหยุนเอ๋อถามหลันเยว่เฉินด้วยความเย็นชา “เขาบาดเจ็บได้อย่างไรกันแน่?ตอนเช้าที่ออกไปยังดีๆ อยู่เลย”
“เอ่อ……” หลันเยว่เฉินพูดอะไรไม่ออก พลางมองซู่จี้งยี้ด้วยสายตาขอความช่วยเหลือ
ซู่จี้งยี้ทำได้เพียงพยายามพูดปลอบใจ “ประธานลี่แต่บาดเจ็บภายนอกจากการถากเท่านั้นเอง”
“คุณพูดมั่ว!พันแขนจนเหมือนข้าวต้มมัดขนาดนั้น แถมจนถึงตอนนี้ยังไม่ฟื้นขึ้นมาเลย” เจียงหยุนเอ๋อไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด
ขณะที่กำลังลำบากใจ จู่ๆ คนใช้ก็เห็นเปลือกตาของลี่จุนถิงขยับ “คุณชายฟื้นแล้ว!”
ทุกคนเข้ามาล้อมโดยทันที
ตอนที่ลี่จุนถิงลืมตาขึ้นมาก็เห็นเพดานที่คุ้นตา ก่อนจะเห็นคนที่คุ้นตา เขาเห็นเจียงหยุนเอ๋อก่อนใคร ก็อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้เธอ “ทำไมร้องไห้ล่ะ?”
“ไม่ใช่เพราะคุณเหรอไง!” เจียงหยุนเอ๋อร้องไห้หนักมาก “คุณบอกว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัยไม่ใช่เหรอ?”
เธอร้องไห้อย่างไม่หยุด ลี่จุนถิงก็ปวดใจ พลางรู้สึกอุ่นใจด้วย
“เอาล่ะ หยุดร้องก่อนนะ กุ่นกุ่นล่ะ?ทำไมไม่เห็นเธอ?”
เมื่อพูดถึงลูกสาวดวงตาของลี่จุนถิงก็อบอุ่นขึ้นมา
เจียงหยุนเอ๋ออดไม่ได้ที่จะพึมพำเล็กน้อย “เป็นทาสของลูกสาวจริงๆ เลย เจ็บขนาดนี้ยังถามถึงเธออีก”
เมื่อพูดไปก็ได้ยินเสียงของลูกสาวที่นอนอยู่ร้องขึ้นมาจากเตียงข้างๆ
สาวใช้รีบอุ้มเด็กขึ้นมา
ใครก็รู้ว่าปลอบอย่างไรก็ไม่ได้
ลี่จุนถิงเลยร้อนใจ “คุณรีบไปดูเถอะ!”
“โอเคๆ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ คุณอย่าเพิ่งทำอะไรไปนะ!” เจียงหยุนเอ๋อพูดพลางเงยหน้าขึ้นปาดน้ำตา
ซู่จี้งยี้กับหลันเยว่เฉินสบตากันจากนั้นก็พูดกับลี่จุนถิง “ประธานลี่ คุณรักษาตัวให้ดีๆ นะ เราไปก่อนล่ะ”
ลี่จุนถิงพยักหน้า “อือ จับตาดูต่อไป!อย่าทำอะไรโดยไม่คิดนะ!เดี๋ยวกำลังเสริมก็จะไปถึงแล้วค่อยเริ่มลงมือนะ!”
“กำลังเสริมงั้นเหรอ?” ซู่จี้งยี้ตาลุกวาว ตอนที่กำลังจะถาม ก็เห็นเจียงหยุนเอ๋ออุ้มกุ่นกุ่นมาพอดี
เด็กคนนี้แค่ได้เห็นพ่อของเธอก็ร้องไห้แงขึ้นมา
สาวใช้ที่อยู่ข้างๆ พูด “มันเรียกว่าพ่อลูกจิตเชื่อมกัน”
เมื่อเห็นแบบนี้ ซู่จี้งยี้กับคนอื่นๆ ก็ไม่กล้าจะถามอะไรอีก เลยถอยออกไปทั้งหมด
เจียงหยุนเอ๋อบีบจมูกของกุ่นกุ่น ก่อนจะเอาเธอไว้ในอ้อมกอดของแขนอีกด้านที่ไม่ได้เจ็บของลี่จุนถิง พลางส่ายหัวแล้วพูด “พวกคุณพ่อลูกนี่จริงๆ เลย”
กุ่นกุ่นเหมือนจะฟังรู้เรื่อง เลยหัวเราะอย่างมีความสุขขึ้นมา
จากนั้นก็โชว์ฟันออกมาก่อนจะกัดแก้มของลี่จุนถิง
ใบหน้าหล่อเหลาของลี่จุนถิงถูกลูกสาวหอมแก้มจนเต็มไปด้วยน้ำลาย เลยตื่นตัวเล็กน้อย “หยุนเอ๋อ กุ่นกุ่นของเรารู้เรื่องแล้ว”
เจียงหยุนเอ๋อพึมพำเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นมาเช็ดหน้าให้เขา ในตาก็มีความเอ็นดูอยู่
เมื่อสองพ่อลูกเล่นกันสักพักก็ถูกเจียงหยุนเอ๋ออุ้มกุ่นกุ่นไปแล้ว
ลี่จุนถิงเหมือนจะไม่อยากปล่อยไป
เจียงหยุนเอ๋อกลับกดเขาเอาไว้อย่างเอาแต่ใจ “ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดของคุณคือการรักษาตัวเอง ไม่อย่างนั้นพอแม่กลัวมาเห็นแล้วคุณจะทำอย่างไร!”
“อย่าบอกเรื่องนี้กับแม่นะ!” ลี่จุนถิงขมวดคิ้ว
ตอนที่กำลังพูดก็ได้ยินเสียงคนข้างนอกเคาะประตูเข้ามา “อย่าบอกอะไรฉันเหรอ?”
เสียงนั้นถ้าไม่ใช่โม่เสี่ยวฮุ่ยแล้วจะเป็นใครได้ เธอเข้ามาอย่างเย็นชา ดูท่าทีเหมือนกับจัดปาร์ตี้ได้เพียงครึ่งเดียวก็กลัวมาอย่างไรอย่างนั้น
“แม่!” ลี่จุนถิงอดไม่ได้ที่จะตะโกน
ดวงตาของโม่เสี่ยวฮุ่ยแดงก่ำ “ไอ้คนไม่ตายดี!จะเอาพวกกุ๊ยของเขาไปตายก็ช่าง แต่ทำไมต้องทำให้ลูกชายฉันบาดเจ็บด้วย!”
เธอเองก็ทนไม่ได้ ก่อนจะนั่งตรงข้ามลี่จุนถิงแล้วดวงตาแดงก่ำก็มีน้ำตาไหลออกมา
ให้ตายเถอะปลอบคนหนึ่งเสร็จ อีกคนก็ร้องไห้อีก
ลี่จุนถิงปวดหัว ก่อนจะมองเจียงหยุนเอ๋อเพื่อขอความช่วยเหลือ
เจียงหยุนเอ๋อเบ้ปากอยู่นานก่อนจะพูดอย่างไม่มีต้นสายปลายเหตุ “เอาล่ะ!”
เมื่อเห็นเธอตอบตกลง ลี่จุนถิงถึงจะรับได้สักหน่อย
ถึงแม้ว่าแขนจะบาดเจ็บ แต่ว่าหลันเยว่เฉินทำให้เขาชาไปหมด จนถึงตอนนี้ยังลุกไม่ค่อยจะขึ้นเลย
“แม่!” เจียงหยุนเอ๋อหยิบกระดาษทิชชูมาส่งให้โม่เสี่ยวฮุ่ย เมื่อเห็นเธอดวงตาแดงก่ำเหมือนกระต่าย ก็รู้สึกปวดใจ แต่ว่ายังตั้งใจพูดอย่างสบายอารมณ์ “วันนี้เกือบทำให้จุนถิงตกใจหมดเลย กลับมาก็ร้องไห้แล้วร้องไห้อีก”
คุณนายโม่พึมพำขึ้น “เขากลายเป็นแบบนี้แล้ว จะไม่ให้ร้องไห้ได้อย่างไร ต้องโทษจ้าวเฟยเฟยที่คลอดลูกทรพีออกมา!”
เธอพูดแต่กลับถูกเจียงหยุนเอ๋อจับเอาไว้เสียก่อน
เจียงหยุนเอ๋อส่งสายตาให้สาวใช้ เพื่อให้อีกฝ่ายมาอุ้มกุ่นกุ่นมา
“เห้อ เมื่อครู่กุ่นกุ่นเพิ่งจะลงโทษพ่อของเธอแทนเราไม่ใช่เหรอ” เจียงหยุนเอ๋อถอนหายใจพลางพูด
“ฉันไม่เชื่อหรอก เด็กคนนี้แค่จุ๊บจุนถิงเอง!” โม่เสี่ยวฮุ่ยพูดประชด
ลี่จุนถิงยิ้มไม่ออก เอาแต่บอกว่าคนแก่นั้นเหมือนเด็ก ปกติแม่ของเขาก็ดูแข็งแกร่ง แต่บางทีกลับทำตัวเหมือนเป็นเด็กน้อย
ตอนที่กำลังจะพูดก็รู้สึกเหมือนมีคนข้างๆ กำลังจับเธอ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นใบหน้าอ้วนๆ ของกุ่นกุ่น
พลางมองเธอด้วยความไม่เข้าใจ เหมือนกำลังร้องขอความสนใจ
โม่เสี่ยวฮุ่ยใจอ่อน เลยอุ้มเด็กน้อยคนนี้ขึ้นมา “เอาล่ะ ฉันจะพากุ่นกุ่นออกไปเดินเล่นสักหน่อย พวกคุณสองคนคุยกันดีๆ นะคะ หยุนเอ๋อคุณเองก็โน้มน้าวจุนถิงให้ดีล่ะ!”
เธอพูดพลางพากุ่นกุ่นออกไป
ลี่จุนถิงถึงกับพูดอะไรไม่ออก เลยหันไปพูดกับเจียงหยุนเอ๋อ “แม่ คงจะยังโกรธอยู่แน่ๆ”
เจียงหยุนเอ๋อนั่งลงก่อนจะบีบจมูกของเขา “เหอะ ไม่ใช่แค่แม่ที่โกรธหรอก ฉันเองก็โกรธ ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นว่าคุณยังเจ็บป่วยอยู่ ฉันจะลงโทษคุณ”
ลี่จุนถิงถูกท่าทีน่ารักของเธอหยอกจนยิ้มได้ จากนั้นก็มีใบหน้าจริงจังพลางพูดขึ้น “พ่อยังอยู่ในมือของอาเธอร์!”
เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น เจียงหยุนเอ๋อเองก็พูดอะไรไม่ออกขึ้นมา
ถึงลี่เจี้ยนหวาจะไม่ดี แต่สำหรับลี่จุนถิงไม่มีทางตัดสายเลือดขาดแน่นอน
เมื่อเห็นว่าเธอไม่พูดอะไร
ลี่จุนถิงลูบหัวของเธอ
โทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆ นั้นกลับมีเสียงตู๊ดๆ ดังขึ้นมาแทน
ในห้องเงียบลง
เจียงหยุนเอ๋อเอาโทรศัพท์มาให้ลี่จุนถิง เป็นสายของเฟิงจิงเป่ย
“จุนถิงเหรอ?คุณโทรมาหาฉันเหรอ?เมื่อครู่อยู่ที่ปฏิบัติงานเลยไม่ได้รับ!” เสียงของชายที่มีพลังดังผ่านมา “คุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?คุณไม่ค่อยติดต่อมาหาฉันเองนะ!”
“เรื่องของอาเธอร์น่ะ ไม่รู้ว่าคุณจะสนใจหรือเปล่า?”
“คุณมีข่าวคราวของเขางั้นเหรอ?” เสียงของเฟิงจิงเป่ยออกจะร้อนรน จนฟังออกว่ากำลังรู้สึกครุ่นคิดกับคดีที่จับไม่ได้ไล่ไม่ทันสักที
ลี่จุนถิงตอบรับเล็กน้อย เสียงของเขาแหบแห้งแต่กลับดูมีความสามารถเป็นอย่างมาก “เขาจับพ่อฉันไปเป็นตัวประกัน ตอนนี้อยู่ที่ชานเมืองน่ะ!คนของฉันตอนนี้กำลังล้อมเขาอยู่ในภูเขาน่ะ!”
เฟิงจิงเป่ยชะงักก่อนจะพูด “ประธานลี่!คุณคงไม่ใช่แค่อยากจะบอกฉันอย่างง่ายๆ เท่านั้นใช่ไหม?พวกเราเองก็ถือว่าผ่านอะไรมาด้วยกันมากแล้ว มีอะไร ก็พูดมาตรงๆ เถอะ!”