บทที่ 258 เลือดอาบย้อมสำนักเทียนอู่จงของเจ้า
บรรยากาศมาคุในบัดดล!
โจ๋วชิวและเหอซ่านเสียเวลาแสร้งทำการแสดง ก็เพราะไม่อยากให้หงยิงสงสัย ตอนนี้มีแต่โบ้ยชื่อของนายน้อยกองทัพเย่สิงให้กับจูนหยูนเสวี่ยเท่านั้น จูนจิ่วจึงจะปลอดภัย แต่ใครจะรู้ จูนหยูนเสวี่ยถึงขนาดรับสารภาพในเวลาแบบนี้
“อะไรนะ!” หงยิงอึ้งงัน จ้องไปทางพวกโจ๋วชิงสองคนด้วยนัยน์ตานองเลือดเดือดพล่าน
“ไม่ผิด!” เหอซ่านพยักหน้าอย่างร้อนรน เขาเอ่ยปากอย่างจริงใจและตื่นเต้น “นางไม่ใช่นายน้อยกองทัพเย่สิง จูนจิ่วต่างหาก! เจ้าจับผิดตัวแล้ว ปล่อยนางไปเถิด จูนจิ่วแห่งสำนักเทียนอู่จงถึงจะเป็นนายน้อยที่แท้จริงของกองทัพเย่สิง!”
“ใช่ๆ! ข้าไม่ใช่นายน้อยกองทัพเย่สิง จูนจิ่วต่างหาก! นางต่างหากที่เป็นลูกสาวของจูนหมิงเย่ ข้าไม่ใช่ ข้าสวมรอยเป็นนาง!” จูนหยูนเสวี่ยทั้งส่ายหน้าและพยักหน้าสุดชีวิต นึกอยากพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ใช่นายน้อยองทัพเย่สิง
เวลานี้ เหอซ่านลอบกระตุกโจว๋ชิวหนึ่งที พวกชิงหยู่มองเห็นแล้ว แต่หงยิงเอาแต่จ้องจูนหยูนเสวี่ยจึงไม่ทันสังเกต
โจ๋วชิวถูกกระตุก ก็รีบตอบสนองโดยพลัย เขาเองก็พยักหน้า “ใช่! จูนจิ่วต่างหากที่เป็นนายน้อยของพวกเรา”
จูนหยูนเสวี่ยก็เป็นตัวปลอมอยู่แล้ว แต่สิ่งนี้มีน้อยคนนักที่รู้ ตอนนี้มองดูพวกเขากล่าวออกมาอย่างแจ่มแจ้ง จูนจิ่วหรี่ตาลงอย่างเย็นเยียบ ไม่ได้โกรธแค้นที่ถูกหักหลังและไม่ได้ตื่นตกใจด้วย นางกลับยกเรียวปากเย้ยหยัน
เย้ยหยันที่จูนหยูนเสวี่ยโง่!
“ฮ่าๆๆ!” หงยิงแหงนกน้าหัวเราะลั่น “แสดงต่อไปสิ? พวกเจ้าคิดว่าข้าเชื่อ? ทุกผู้คนทั้งห้าสำนักต่างรู้ว่าจูนหยูนเสวี่ยไม่เพียงเป็นคุณหนูตระกูลจูนแห่งแคว้นเทียนโจ้ง อีกอย่างหากนางไม่ใช่นายน้อยกองทัพเย่สิง กองทัพเย่สิงของพวกเจ้าจะยกย่องนางเยี่ยงนี้หรือ?”
“เฮอะ! พวกเจ้าคิดว่าตอนนี้แสดงละคร บอกว่าคนอื่นเป็นนายน้อยกองทัพเย่สิง ข้าจะเชื่อ? มุกหลอกลวงไร้สาระแบบนี้ น่าขันนัก” หงยิงหยัดตัวขึ้นยืน ยกมือกระตุกแส้ยาวสีเลือดที่มีหนามเต็มไปหมดออกมาจากช่วงเอวของนาง
ไล่ทหารหน่วยกล้าตายออกไป หงยิงสาวเท้าเดินไปทางจูนหยูนเสวี่ย สายตาของนางอำมหิต กระตุกเรียวปากแย้มยิ้มโหดเหี้ยม
หงยิงปริปากเอ่ยต่อ “ความอดทนของข้ามีขีดจำกัด พวกเจ้ายังไม่บอกอีก ข้าคงไม่เพียงแต่ทำโทษทรมานนาง แต่จะสับมือเท้าของนางออกมาชิ้นแล้วชิ้นเล่า เหมือนแบบนี้!”
สวบ!
แส้ยาวแหวกอากาศม้วนรอบเรียวแขนของจูนหยูนเสวี่ยแล้วดึง หนามทิ่มแทงลึกเข้าไปในเนื้อเสียงสวบ เสียงร้องโหยหวนของจูนหยูนเสวี่ยทอดยาวกลางอากาศ หงยิงหัวเราะชั่วร้ายพลางดึงแส้ยาวออกมา ในหนามมีเศษเนื้อชิ้นใหญ่ติดออกมาด้วย บนเรียวแขนของจูนหยูนเสี่ยวเหลือเพียงแต่กระดูกขาว
มองโดยละเอียดแล้ว บนแกนกระดูกล้วนถูกหนามทิ่มของแส้ยาวเสียบเข้าไปหมด ขอเพียงเมื่อครู่ออกแรงมากกว่านี้นิดเดียว ก็สามารถทึ้งแขนของจูนหยูนเสวี่ยลงมาได้เลย
วิธีการอำมหิดนองเลือดเช่นนี้ ทุกผู้คนที่มองอยู่ต่างขนลุกกขนตั้งเสียวสันหลังวูบ ดวงตาฉายแววสะพรึงกลัว!
สิ่งที่พวกเขาคิดอยู่ในใจลึกๆ คือ เคราะห์ดีที่เป็นจูนหยูนเสวี่ย หากเป็นนายน้อย หงยิงกล้าแตะต้องนายน้อยสักแอะ พวกเขาคงสู้ไม่คิดชีวิต ตัวระเบิดก็ต้องพาหงยิงตายตกตามกันไปด้วย ขณะเดียวกันก็รู้สึกหวาดกลัวไม่สิ้น ปรารถนาอย่างแรงกล้าว่าอย่าให้หงยิงจับตัวนายน้อยได้เป็นอันขาด!
ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของจูนหยูนเสวี่ย หงยิงก็มุ่นคิ้วด้วยความขยะแขยง “หนวกหู!”
นางลงมืออีกครั้ง แส้ยาวพุ่งลึกเข้าไปในปากของจูนหยูนเสวี่ย อึกอัก! เลือดสดพุ่งออกมา จูนหยูเสวี่ยร้องลั่น ดวงตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและทรุดโทรมภายใต้การทรมานอันรุนแรง หงยิงถึงขั้นเกี่ยวลิ้นของจูนหยูนเสวี่ยขาดสะบั้น ลิ้นขาดตกลงมาบนพื้นเสียงดังตุบโชกเลือดบาดตา
หงยิงแค่นเสียงเย็นชา “อย่างไรเสียก็ไม่ต้องให้นางพูดแล้ว เป็นแบบนี้ต่อไปการทรมานก็ยังพอเงียบสงบหน่อย พวกเจ้าไม่ยอมพูดจริงๆ หรือ?”
สายตาของหงยิงเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมและมองสำรวจบนร่างของกลุ่มคนไปมา นางกล่าว “ได้ยินว่ากองทัพเย่สิงภักดีที่สุด ทำไม? ตอนนี้นายน้อยเพียงคนเดียวของพวกเจ้าก็ถูกข้าทรมานจนเป็นสภาพนี้แล้ว ยังไม่ยอมบอกอีกว่าสมบัติอยู่ที่ไหน?”
“เฮ้ หรือว่าพวกเจ้าแปรพักตร์ฮุบสมบัติไว้เป็นของตัวเองเสียแล้ว ถึงไม่เต็มใจบอกเสียที ไม่เป็นไร ข้ายังมีวิธีอื่นอีก” หงยิงเพิ่งกล่าวถึงตรงนี้ เสียงฝีเท้ารีบเร่งที่ลอยมาจากด้านนอกประตูก็ตัดบทของหงยิงเสียก่อน
จูนจิ่วมองเห็นผู้มาใหม่ นางถอยร่นเข้าไปในความมืดผลลัพธ์คือถอยเข้าไปในอ้อมอกของโม่อู๋เยว่ เพิ่งคิดจะเบี่ยงหลบไปด้านข้าง บนเอวก็มีมือหนึ่งรวบเข้ามากักขังนางอย่างเอาแต่ใจ เบือนหน้ามองโม่อู๋เยว่ปราดหนึ่ง จูนจิ่วละสายตากลับมาอย่างสงบเยือกเย็นแลเวเงยหน้ามองทางประตู
ทหารหน่วยกล้าตายคุกเข่าคารวะอยู่ด้านนอกประตู “คุณหนูหงยิง ขาดการติดต่อกับผู้อาวุโสสาม แล้วขอรับ”
“อะไรนะ?” หงยิงซัดเปิดประตูด้วยหนึ่งฝ่ามือ นางเงยหน้าจ้องทหารหน่วยกล้าตายอย่างเหี้ยมเกรียม หงยิงเดือดดาล ทหารหน่วยกล้าตายรอบบริเวณต่างคุกเข่างุดหน้าตามๆ กัน แสดงให้เห็นถึงความขยาดหวาดกลัวที่พวกเขามาต่อหงยิง
คนที่สามารถทำให้ทหารหน่วยกล้าที่โหดเหี้ยมไร้ปรานีรู้สึกหวาดกลัวได้ ไม่เสียแรงที่หงยิงเป็นเพชฌฆาตหญิงแห่งเทียนฉิว!
สีหน้าเปลี่ยนแปลงไป หงยิงพับเก็บแส้ยาวหมายจะเดินออกไป ทันทีที่สาวเท้า นางก็หมุนกายเหลียวมองกลุ่มคนอย่างขึงขังปาดหนึ่ง ท้ายที่สุดก็หยุดอยู่ที่ร่างของชิงหยู่ นางเอ่ย “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าครั้งสุดท้าย ลองคิดให้ดีๆ เอาเอง”
“อยากพูดแล้วให้บอกข้า ไม่เช่นนั้นผ่านไปหนึ่งก้านธูปข้าจะฆ่าหนึ่งคนในลานฝึกวิทยายุทธ์เฉียนคุนเสีย สองก้านธูปข้าจะสังหารสิบคน สามก้านธูปข้าสังหารร้อยคน สี่ก้านธูปฆ่าพันคน จากนั้นก็หมื่นคน สุดท้ายก็ทยอยฆ่าให้หมด! จนเลือดอาบสำนักเทียนอู่จงของพวกเจ้า”
ถ้อยคำน้ำเสียงหัวเราะเย็นชานั้นโหดร้ายหาใดเปรียบ “ถ้าหากยังไม่พูด เช่นนั้นพวกเจ้าแต่ละคนจักได้สัมผัสกับวิธีลงโทษทุกรูปแบบที่นายน้อยกองทัพเย่สิงของพวกเจ้าเพิ่งได้รับเองกับตัว วะฮะฮ่า!”
แหงนหน้าหัวเราะลั่น หงยิงหมุนกายจากไป ปล่อยให้กลุ่มคนในห้องสีหน้าซีดเซียว และเสียงอู้อี้แผ่วเบาน่าเวทนาที่จูนหยูนเสวี่ยเปล่งออกมา ทำอย่างไรดี?
เหอซ่านและโจ๋วซิวสบตากันปราดหนึ่ง ตอนนี้ยังเป็นจูนหยูนเสวี่ย นางจะตายหรือรอดก็ไม่สนใจ แต่เมื่อครู่เพื่อปกป้องนายน้อย ไม่อาจไม่แสดงละครฉากหนึ่งให้หงยิงเข้าใจผิด ทำให้นางไม่เชื่อถ้อยคำของจูนหยูนเสวี่ย แต่ถ้าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป ยังสามารถปกปิดได้นานเท่าไรกัน?
ไม่ข้าก็เร็วหงยิงต้องค้นพบว่าจูนหยูนเสวี่ยคือตัวปลอม ตอนนี้ชื่อของนายน้อยก็เปิดเผยแล้ว นางต้องไปจับตัวนายน้อยเป็นแน่!
“ศิษย์น้อง” จู่ๆ ชิงหยู่พลันร้องอานเสียงแผ่ว ทำเอากลุ่มคนเงยหน้าขึ้น พวกเขามองเห็นแววตาตื่นตระหนกประหลาดใจของชิงหยู่ ต่างก็มองตามไปแล้วพวกล้วนรู้สึกตกใจ
นายน้อยที่พลิกตัวกระโดดเข้ามาดูแปลกหน้ายิ่งนัก แต่เสี่ยวอู่ที่ตามอย๋ข้างกายของนายน้อยเพียงพอพิสูจน์ตัวตนของเขาได้! อีกอย่างนอกจากจูนจิ่วแล้ว ใครยังจะมาที่นี่กัน?
เหอซ่านร้อนรน กดเสียงทุ้มต่ำกลัวว่าทหารหน่วยกล้าตายด้านนอกจะได้ยิน เขากล่าวอย่างตื่นตระหนก “รีบไปเร็ว! ยิ่งไปไวก็ยิ่งดี ออกไปจากสำนักเทียนอู่จงแล้วอย่าได้กลับมาตลอดชีวิต!”
“ใช่แล้วท่านรีบหนีเร็ว! ถ้าหากถูกคนของเทียนฉิวพบเข้าคงจบเห่!” โจ๋วชิวเอ่ยปากอย่างรีบร้อน พวกของผู้อาวุโสโจวเตี๋ยก็ตอบสนองถึงสิ่งที่เกิดขึ้น จูนจิ่วถึงจะเป็นนายน้อยที่แท้จริงของกองทัพเย่สิง! พวกเขาไม่ได้เดือดเดาลที่ถูกตบตา แต่ก็รีบร้อบตะโกนให้จูนจิ่วรีบหนีไปเช่นเดียวกับเหอซ่านและโจ๋วชิว
จูนจิ่วส่ายหน้า นางเอานิ้วแตะริมฝีปาก “ชู่!”
สบสายตาสุขุมเยียบเย็นของจูนจิ่ว ความร้อนรนในก้นบึ้งหัวใจพวกเขาสงบลงราวกับปาฏิหาริย์ มีเพียงจูนหยูนเสวี่ยที่เบิกตากว้างจ้องจูนจิ่วอย่างไม่อยากเชื่อ และจ้องไปที่พวกเขา ในที่สุดนางก็ตอบสนองกลับมา พวกเขารู้ตัวตนของจูนจิ่วตั้งแต่ทีแรกแล้ว! แล้วนางเล่า?
จูนหยูนเสวี่ยที่เจ็บปวดรวดร้าวในสมองร้องคร่ำครวญ แต่ในที่สุดนางก็เข้าใจแล้ว ตั้งแต่ต้นจนจบ นางถูกมองเป็นเป้าล่อโดยตลอด! จูนหยูนเสวี่ยบ้าไปแล้ว!
เสียงโจมตีกระแทกดังตุบๆ ลอยเข้ามา จูนจิ่วหมุนกายมองไปทางจูนหยูนเสวี่ยอย่างเย็นชา…