บทที่ 309 ผู้ดูแลหวางเข้าใจหรือไม่
ประตูนอกสำนักไท่ชู แบ่งเป็นพื้นที่น้อยใหญ่กว่าสิบแห่ง โดยหลักแล้วผู้ดูแลหวางรับผิดชอบดูแลเจ้าศิษย์นักการ ในประตูนอก แม้เพียงดูแลนักการ แต่แมวไม่อยู่ หนูร่าเริง เพียงเป็นรองผู้อาวุโส ศิษย์ในประตูชั้นใน ผู้ดูแลหวางคือคนที่ใหญ่ที่สุดในที่แห่งนี้
สถานที่ที่เขาพัก เรือนขนาดใหญ่หรูหราโอ่อ่า และยังมีบ่าวหญิงรูปโฉมงดงามยืนปรนนิบัติ เมื่อเห็นผู้ดูแลหวางกลับมา พวกนางรีบเข้ามาคุกเข่าถอดรองเท้าให้แก่ผู้ดูแลหวาง หรือเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือรินน้ำป้อนชา
ปกติผู้ดูแลหวางเห็นบ่าวหญิงเหล่านี้อารมณ์? ดีอย่างมาก แต่ตอนนี้กลับไร้อารมณ์ จุ๊ปาก ลูบไล้ที่คาง
“พบความงามเช่นนั้น ผู้ใดยังกินดอกหญ้าไร้ค่าเหล่านี้ลงเล่า กระทั่งศิษย์พี่หยุนหนียังเทียบไม่ได้แม้ครึ่งหนึ่งของนาง งามจริงๆ!”
เมื่อกลืนน้ำลาย ผู้ดูแลหวางถูมือพลางยิ้มอย่างสกปรก “คนงามเช่นนั้นหากตกเป็นของข้า ไม่รู้ความแตกต่างของร่างกายนั้นจะเป็นเช่นไร ฮิฮิ!”
ขณะกำลังหัวเราะ ผู้ดูแลหวางพลันหายใจติดขัดขนลุกขัน ร่างกายเขาแข็งทื่อ หันกลับไปมองรอบด้านอย่างรุนแรง นอกจากบ่าวหญิงมองไม่เห็นผู้ใด แต่แผ่นหลังหนาวเหน็บราวมีกระบี่เย็นเฉียบแนบชิดเคลื่อนไปมาผิวหนัง เปรียบได้กับการแล่หนังโดยไร้ร่องรอย!
ภายในสมองไร้ความคิดที่สกปรก เหลือเพียงความหวาดกลัวและตกใจ
ทันใดนั้น ผู้ดูแลหวางได้ยินบ่าวหญิงรายงานขึ้น “นายท่าน จูนจิ่วเจ้าศิษย์นักการ มาเจ้าคะ”
“อะไรนะจูนจิ่ว รีบให้นางเข้ามา!” น้ำเสียงผู้ดูแลหวางรีบร้อน ไม่ใช่เพราะรูปโฉมงดงามของจูนจิ่ว แต่คิดอย่างไร้เดียงสาว่าเข้ามาเพิ่มอีกหนึ่งคนคงจะอบอุ่นกว่า? สุดท้ายแปลกประหลาด จูนจิ่วเพียงเข้ามาในห้องไอเย็นพลันสลายไป
ผู้ดูแลหวางยังคงมีสีหน้าตกใจ เขาได้ยินเสียงเย็นชาไร้ความรู้สึกของจูนจิ่ว ตะโกนใส่เขาว่า “ผู้ดูแลหวาง?” ผู้ดูแลหวางรีบหันกลับไปมองนางทันที
เมื่อเห็นผู้ดูแลหวางท่าทางราวเห็นผี จูนจิ่วยกคิ้วอย่างแปลกใจ แต่ไม่นาน สีหน้าของผู้ดูแลหวางเปลี่ยนไปยิ้มอย่างสกปรก ดวงตาแทบกลืนกินนาง เสี่ยวอู่เกาะอยู่บนไหล่จูนจิ่ว เห็นผู้ดูแลหวางกำอุ้งเท้าที่คลายออกแน่น คิดอยู่ตลอดว่าต้องการควักลูกตาของผู้ดูแลหวาง!
ความเย็นเฉียบสลายไปจนหมด ผู้ดูแลหวางหันศีรษะไปอย่างลืมกลัว เดินพลางยิ้มแย้มไปที่จูนจิ่ว “จูนจิ่ว เจ้ามาหาข้ามีธุระอันใดหรือ หรือมีเรื่องให้ข้าช่วยเหลือ?”
จูนจิ่วจึงเอ่ยว่า “ข้ามาเปลี่ยนห้องสองห้อง”
ดวงตาผู้ดูแลหวางเปล่งประกาย เขารู้ว่าจูนจิ่วต้องทนไม่ไหว!
ศิษย์พี่ของนางนั้นคงอดทนได้ แต่สาวงามคนหนึ่งจะอดทนพักอยู่ในกระท่อมหญ้าซอมซ่อเช่นนั้นได้อย่างไร? ช้าเร็วต้องมาขอร้องเขา เพียงคิดไม่ถึงมาจะมารวดเร็วเช่นนี้ เขายังไม่ได้คิดว่าจะทำเช่นไร
ดวงตาเย็นชามองผู้ดูแลหวางที่ยิ่งมีสีหน้าสกปรกมากขึ้น ก่อนจูนจิ่วเอ่ยเสียงเย็นชาว่า “ผู้ดูแลหวาง ประตูนอกของสำนักไท่ชูกว้างขวางเช่นนี้ คงไม่ใช่ถึงกับไม่มีห้องพัก อีกอย่าง ท่านต้องการสิ่งใด จึงจะเปลี่ยนห้องพักให้แก่ข้าและศิษย์พี่?”
“เงิน!” ก่อนกลอกตาขึ้น ผู้ดูแลหวางเงยหน้ายืดอกเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์ “หินทิพย์ชั้นที่หนึ่งร้อยก้อน สำหรับเปลี่ยนหนึ่งห้อง เจ้าต้องการสองห้อง เช่นนั้นต้องมอบหินทิพย์ชั้นที่หนึ่งสองร้อยก้อนให้แก่ข้า”
ผู้ดูแลหวางตาเป็นประกาย ยิ้มอย่างสกปรกและลำพองใจ นั่นคือหินทิพย์ชั้นที่หนึ่งสองร้อยก้อนเชียว จูนจิ่วจะนำออกมาได้อย่างไร? เพียงนางนำออกมาไม่ได้ เขาจะสามารถใช้โอกาสเสนอ ‘ขอเรียกร้อง’ จูนจิ่วไม่ยินยอม อย่าโทษว่าเขาไม่เกรงใจ!
ในประตูนอกของเหล่าเจ้าศิษย์นักการแห่งนี้ เขาคือสวรรค์ ด้านบนยังมีศิษย์พี่หยุนหนีและผู้อาวุโสใหญ่เป็นดังผู้หนุนหลัง จูนจิ่วไม่ยอมต้องยอม!
ยิ่งคิดยิ่งสนุก ผู้ดูแลหวางวาดฝันว่าตนได้โอบกอดสาวงามที่ดังหลุดออกมาจากภาพวาด นี้คือเสียงน่าอึดอัดสองเสียงที่ดังเคร้งขึ้น ทำให้ผู้ดูแลหวางตื่นจากความฝัน เขาก้มหน้ามองอย่างตาเบิกกว้าง “นี่คือสิ่งใด?”
“หินทิพย์ชั้นที่หนึ่งสองร้อยก้อนที่ท่านต้องการ เชิญนับดูได้” จูนจิ่วยิ้มเย็นชามองผู้ดูแลหวาง
“จริงหรือ?”
ผู้ดูแลหวางเบิกตากว้าง เขารีบยื่นมือออกไปหยิบถุงเงิน แต่เพียงยื่นมือออกไป ด้านหน้าปรากฏแมวขาวตัวหนึ่งขึ้นบนโต๊ะ บดบังถุงเงินเอาไว้ พร้อมปลายเล็บแหลมคมแวววาว ผู้ดูแลหวางชะงักฝีเท้าชั่วขณะ “จูนจิ่วรีบจัดการสัตว์ของเจ้าด้วย!”
จูนจิ่วจึงเอ่ยขึ้น “ผู้ดูแลหวาง ท่านต้องการหินทิพย์ย่อมได้ แต่ห้องที่ข้าต้องการเล่า?”
สายตาผู้ดูแลหวางจ้องที่ถุงเงินอย่างละโมบ และมองจูนจิ่วตาเป็นประกาย เขาคิดไม่ถึงว่าจูนจิ่วจะนำหินทิพย์สองร้อยก้อนออกมาได้จริงๆ นั่นมันสองร้อยก้อนเชียวนะ! แม้เขาที่มีสถานะเป็นผู้ดูแลประตูนอกของสำนักไท่ชู ดูแลรับผิดชอบเจ้าศิษย์นักการทุกคน เดือนหนึ่งได้รับหินทิพย์ขั้นที่หนึ่งเพียงห้าสิบก้อน สองร้อยก้อนนี้ เทียบได้กับเงินเดือนสี่เดือนของเขา
และเห็นจูนจิ่วหยิบออกมาด้วยดวงตาสงบผ่อนคลาย ในใจผู้ดูแลหวางสั่นไหวขึ้นมา เขจึงเงยหน้าด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไป “เมื่อครู่ข้าคำนวณผิด หลังจากนี้ไม่นานคือการแข่งขันของเหล่าศิษย์ประตูนอก ศิษย์ที่ออกไปฝึกฝนเหล่านั้นจะกลับมา ห้องจึงเกรงว่าคงไม่เพียงพอแล้ว”
“โอ้!” จูนจิ่วเลิกคิ้ว
“ไม่ผิด ไม่เพียงพอแน่ แต่หากเจ้าต้องการ ข้าสามารถฝืนใจให้เจ้าพักอยู่ในเรือนของข้าได้ ฮิฮิ แต่ศิษย์พี่ของเจ้าไม่ได้ นอกจากเจ้าจะหยิบหินทิพย์ชั้นที่หนึ่งออกมาอีกพันก้อน ข้าจึงจะสามารถอำนวยความสะดวกให้เจ้าได้” ผู้ดูแลหวางกล่าว
เขาพลางพูด พลางเดินเข้าใกล้จูนจิ่ว ดวงตามองสำรวจอย่างลามก มือหนึ่งยื่นออกมาหมายลูบไล้ไหล่ของจูนจิ่ว “จูนจิ่ว ข้าเห็นว่าเจ้าคือสาวงามผู้หนึ่ง ดังนั้นจึงดูแลเป็นพิเศษ หากเจ้าต้องการ…โอ๊ย ปล่อยมือ!”
เปราะ!
จูนจิ่วหักข้อมือผู้ดูแลหวาง กระดูกเขาบิดหักลงมา ผู้ดูแลหวางกระทืบเท้าอย่างเจ็บปวด ยกมือซ้ายโจมตีพลังจิตใส่จูนจิ่ว
สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง จูนจิ่วยกเท้าเตะที่หัวเข่าของผู้ดูแลหวางอย่างรวดเร็ว ผลัก——ตุ้บ! ผู้ดูแลหวางร้องโหยหวนคุกเข่าอยู่บนพื้น บริเวณหัวเข่าเจ็บปวดแทงใจจนแทบยืนขึ้นไม่ได้ มือถูกจูนจิ่วบิดพลิกไปด้านหลัง ผู้ดูแลหวางเคลื่อนไหวไม่ได้
ทั้งหมดเกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตา ก่อนหน้านี้ผู้ดูแลหวางเพื่อความคิดสกปรกในใจ จึงสั่งให้บ่าวหญิงทั้งหมดออกไปให้ห่าง ดังนั้นตอนนี้จึงไม่มีผู้ใดเข้ามาช่วยเหลือเขา แต่แม้เข้ามา ก็ไม่สามารถช่วยเหลือเขาได้
ผู้ดูแลหวางร้องโหยหวนอย่างน่าสมเพช ดังจนจูนจิ่วแสบแก้วหู นางหรี่ดวงตาเย็นชาลง ก่อนเอ่ยขึ้น “หากร้องอีก ข้าจะตัดลิ้นเจ้าทิ้งซะ!”
ผู้ดูแลหวางรีบหุบปาก เขาจ้องมองจูนจิ่วด้วยศีรษะเต็มไปด้วยเหงื่ออย่างหวาดกลัวและโกรธแค้น สีหน้าเจ้าเล่ห์อย่างยิ่ง ผู้ดูแลหวางยังไม่ลืมข่มขู่จูนจิ่ว จูนจิ่วเจ้ากล้ายิ่งนัก เจ้าคิดขัดคำสั่งข้าหรือ?”
“ข้าไม่ใช่ลูกศิษย์ของสำนักไท่ชู เรียกว่าขัดคำสั่งไม่ได้ สังหารเจ้าง่ายดายราวกับสังหารสุนัขตัวหนึ่ง ผู้ดูแลหวางจะลองดูหรือไม่?”
คำพูดเย็นชาเอ่ยออกมา ร่างกายของผู้ดูแลหวางแข็งทื่อเหงื่อไหลบ่าออกมา จูนจิ่วไม่ได้พูดเล่น!
หลังสั่นเทา น้ำเสียงผู้ดูแลหวางอ่อนลงอย่างชัดเจน “เจ้าคิดทำสิ่งใด?”
“ห้องดูดีขึ้นสองห้อง หรือเรือนขนาดเล็ก และสภาพแวดล้อมต้องเงียบสงบหรูหรา ไร้ผู้คนรบกวน ผู้ดูแลหวางเจ้าเข้าใจหรือไม่?”
“เข้าใจแล้ว เจ้ารีบปล่อยข้าเร็ว!