เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์จะไปสอบสวนหยุนหนีหรือ”โม่อู๋เยว่ได้ยินบทสนทนาของพวกเขาแล้ว พอโม่อู๋เยว่มา ชิงหยู่กับลูบจมูกเหมือนไม่เป็นตัวของตัวเอง รีบโบกไม้โบกมือลาไปก่อนทันที เหลือช่องว่างไว้ให้พวกเขาสองคน จูนจิ่วพยักหน้า ความโค้งที่มุมปากนั้นเยือกเย็น “หยุนหนีเป็นคนของเทียงฉิว นางมีข่าวที่ข้าต้องการรู้”
“ต้องการให้ข้าช่วยหรือไม่ ”โม่อู๋เยว่เดินไปตรงหน้าจูนจิ่ว ยกมือขึ้นใช้นิ้วเกี่ยวกับปอยผมที่ข้างหู เขายิ้มชั่วร้าย “ข้าสามารถจับดวงวิญญาณของนาง การสอบสวนวิญญาณไม่สามารถปิดบังอะไรได้ ขอเพียงเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ถาม ล้วนได้คำตอบทั้งสิ้น”
จูนจิ่วรู้สึกสนใจอยู่บ้าง แต่นางก็ยังคงส่ายหน้าปฏิเสธไป การสอบสวนวิญญาณจะทำให้หยุนหนีตาย อาจดึงความสงสัยของเจ้าสำนักศึกษาไท่ชูได้ แม้ว่าหยุนหนีจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยก็ตาม แต่ตอนนี้ไม่สามารถตายด้วยน้ำมือนางได้
ไปช่วยหยุนหนีแก้พิษกู่ นี่คือโอกาสที่ส่งมาถึงที่ เวลาไม่มาก นางต้องรักษาไว้อย่างดี
แต่ว่าจูนจิ่วมีความเชื่อมั่น นางยิ้มมองไปทางโม่อู๋เยว่ “ข้าจัดการนางได้”
……
เจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวอยู่ในคุกใต้ดิน
ไม่ว่าจะเป็นคุกใต้ดินของที่ไหน ล้วนมืดมิดอับชื้น แฝงไปด้วยกลิ่นเน่าเหม็นและไอแห่งความตาย หยุนหนีถูกขังไว้ในที่ลึกสุด มีลูกศิษย์ของสำนักศึกษาจื่อเซียวกับไท่ชูร่วมกันจับตาควบคุมนาง ในมือของจูนจิ่วมีป้ายคำสั่งของเจ้าสำนักศึกษาไท่ชู เหล่าลูกศิษย์เปิดประตูให้นางเข้าไป ตอนที่เงยหน้าขึ้นมองนาง สายตาของเหล่าลูกศิษย์มีแววชื่นชมและประหลาดใจ
ตอนที่เดินผ่านพวกเขา จูนจิ่วได้ดีดผงสีขาวออกจากมือไปยังเสื้อผ้าของลูกศิษย์เหล่านั้น นี่คือหมอกหอม จะทำให้คนตกอยู่ในภวังค์มึนงงในระยะเวลาสั้นๆ ไม่ได้ยินสิ่งที่นางกับหยุนหนีพูดคุยกัน
ครืดคราด
เสียงโซ่ตรวนดังขึ้น หยุนหนีเงยหน้าขึ้นเห็นเป็นจูนจิ่ว ดวงตาของนางมีแววแค้นอย่างสุดขีดพุ่งออกมา รวมทั้งความหวาดกลัวด้วย
ดีดนิ้ว เข็มสีเงินหลายเล่มปักเข้าไปในร่างของหยุนหนี นางร่างแข็งทื่อ ดวงตาเบิกกว้าง เหมือนที่เจ้าสำนักไทชูบอก หยุนหนีถูกพิษกู่ไม่สามารถพูดออกจาได้ ทำได้เพียงเบิกตากว้าง ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครเป็นคนวางพิษกู่
มองหยุนหนีอย่างเย็นชา จูนจิ่วก้าวเท้าเข้าไปคว้าแขนของหยุนหนีขึ้นมาจับชีพจร เข็มเงินสกัดจุด หยุนหนีไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ได้แต่ขยับไปตามที่จูนจิ่วจัดแจง
ผ่านไปครู่หนึ่ง จูนจิ่วก็ได้ข้อสรุป นางมองหยุนหนีด้วยสายตาสงสาร“เห็นทีเทียงฉิวจะไม่เชื่อในความจงรักภักดีของเจ้า”แลกมากับสายตาของหยุนหนีที่ยิ่งเบิกกว้างมากขึ้น ราวกับจะเบิกตาจ้องให้ทะลุตัวนาง
มุมปากโค้งขึ้นอย่างเย็นชา จูนจิ่วยื่นมือเข้าไปในแขนเสื้อ ที่จริงคือยื่นเข้าไปในช่องว่างของกำไลข้อมือหยิบเอายาเม็ดหนึ่งออกมา ง้างปากของหยุนหนีแล้วยัดเข้าไป
ลุกขึ้น จูนจิ่วตบมือเบาๆ “พิษกู่ของนักกลั่นยาพิษเฟยชิงก็แค่นี้เอง แก้พิษได้ง่ายดายนัก หยุนหนีเจ้าพูดได้แล้ว ยังจะแสร้งเป็นใบ้อีกหรือ”
“เจ้า”หยุนหนีเสียงแหบแห้งไม่น่าฟัง พอนางเปิดปากพูดแม้แต่ตัวเองยังตกใจ นางสามารถพูดได้แล้ว หลังจากถูกจับที่ตำหนักใหญ่ หยุนหนีพูดออกมาไม่ได้แม้แต่คำเดียว นางรู้ว่านักกลั่นยาพิษเฟยชิงได้วางยานาง
แต่หยุนหนีคิดไม่ถึงเลยว่า ยาเม็ดเดียวของจูนจิ่วจะแก้พิษได้ นางไม่ต้องไปผสมยาแก้พิษหรือ นั่นมันเป็นพิษกู่ของนักกลั่นยาพิษเฟยชิงเชียวนะ
ตกตะลึง ไม่อยากเชื่อจนกลายเป็นความหวาดกลัวขึ้นมา หยุนหนีอยากจะหลบ แต่เข็มเงินสกัดจุดนางเอาไว้จนขยับตัวไม่ได้ ทำได้เพียงจ้องมองจูนจิ่วด้วยความแค้นและกลัว ตะโกนเสียงดัง “จูนจิ่วเจ้าจะทำอะไร”
“ข้าต้องการข่าวของเทียงฉิว เจ้ารู้เท่าไหร่ ก็พูดมาเท่านั้น”
“เจ้าฝันไปเถอะ”หยุนหนีแค้นจนอยากให้จูนจิ่วตาย จะไปช่วยนางทำไม
การตอบสนองของนางจูนจิ่วคิดไว้อยู่แล้ว มุมปากยิ้มเย็น ท่าทีผ่อนคลาย แล้วก็มองไปทางหยุนหนีอย่างสงสารและดูถูกนาง จูนจิ่วขยับปลายนิ้ว พลังทิพย์ทำให้เข็มเงินขยับ ชั่วขณะนั้นร่างของหยุนหนีก็สั่นเหมือนเจ้าเข้า ร้องออกมาอย่างเจ็บปวดเจียนตาย
เจ็บมาก ปวดมาก รีบหยุดเลยนะ
เก็บนิ้วมือ จูนจิ่วเปลี่ยนเป็นท่าที่ผ่อนคลายกว่าเดิม มองหยุนหนีอย่างเย็นชา “จะพูดหรือไม่พูด”
“ข้าพูด”หยุนหนีตะโกนขึ้นอย่างรีบร้อนพร้อมน้ำตา เจ็บมากเกินไปแล้ว หยุนหนีจะทนไม่ไหวแล้ว ขอเพียงจูนจิ่วไม่ขยับเข็มเงินอีก นางจะพูดทั้งหมด แต่หยุนหนีเปิดปากพูดได้ไม่กี่คำ สายตาเย็นๆของจูนจิ่วก็ตัดบทนาง
แววตาาอำมหิต โหดเหี้ยมเลือดเย็น
จูนจิ่วพูดว่า “เป็นเรื่องที่ใครๆต่างก็รู้ไม่ต้องพูดแล้ว ถ้ายังเสียเวลาข้าอีกละก็ เข็มเงินทั้งหมดที่มีจะเคลื่อนตามจุดต่างๆรสชาติมันคงทรมานน่าดู”
ร่างกายสั่นสะท้าน หยุนหนีมองจูนจิ่วอย่างหวาดผวา นางเป็นปีศาจร้าย
กลัวจนหวาดผวา หยุนหนีเกรงว่าหากตัวเองพูดออกไปแล้วจะถูกเทียงฉิวฆ่า แต่ถ้าไม่พูดตอนนี้ จูนจิ่วก็จะทรมานนางเช่นกัน หยุนหนีกัดฟันพูดต่อไปว่า “นักกลั่นยาพิษเฟยชิงที่จริงก็เป็นผู้อาวุโสของเทียงฉิว”
“ไม่เลว พูดต่อไป”จูนจิ่วยิ้มเย็น
จากปากของหยุนหนี จูนจิ่วได้รู้ข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อ ชื่อเสียงของเทียงฉิวมีเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูเป็นผู้นำ แต่ที่จริงแล้วผู้ที่มีอำนาจสูงสุดคือซิงโล่เฉิน ภายนอก เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูเป็นอาจารย์ของซิงโล่เฉิน แต่ที่จริงแล้วก็แค่ในนามไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบนั้นจริงๆ
หยุนหนีก็ไม่รู้สถานะที่แท้จริงของซิงโล่เฉิน แต่ก็เหมือนกับข่าวลือ ซิงโล่เฉินมีความเกี่ยวข้องไม่ธรรมดากับตำหนักไท่หวง เทียงฉิว เป็นเขี้ยวเล็บที่อยู่เบื้องหลังของซิงโล่เฉิน
แววตาของจูนจิ่วหม่นลง นางถามว่า “เทียงฉิวให้ข้าส่งของล้ำค่าให้ พวกเขารู้หรือไม่ว่าของล้ำค่าคืออะไร ”
“ข้าไม่รู้”น้ำเสียงแหบแห้งของหยุนหนีชัดเจนแต่ก็ฟังออกว่านางค่อยๆอ่อนแอลง นางคิดว่าคงเป็นเพราะเข็มเงินของจูนจิ่ว แต่ว่าไม่ใช่
ข้อมูลที่จูนจิ่วอยากรู้ก็ได้รับหมดแล้ว มองเวลาก็ผ่านไปหนึ่งกาน้ำชาแล้ว เหลือบตาขึ้นมอง เห็นสีหน้าหยุนหนีที่ค่อยๆขาวซีด มุมปากมีเลือดไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้ ร่างกายของหยุนหนีก็กระตุกขึ้นมา
นางทั้งเจ็บปวดทั้งหวาดกลัว จ้องจูนจิ่วและตะโกนขึ้น “จูนจิ่วเจ้าหยุดนะ ข้าได้บอกเจ้าไปหมดแล้ว ที่ข้าพูดล้วนเป็นเรื่องจริง หยุดนะข้าเจ็บมาก”
“นี่ไม่เกี่ยวกับข้า ที่เจ้าเป็นอยู่ตอนนี้ เป็นอาการข้างเคียงหลังจากการแก้พิษกู่ เจ้ากลายเป็นคนที่ถูกเทียงฉิวทิ้งขว้างแล้ว ตอนที่เจ้าเอ่ยปากพูด มันก็เริ่มกัดกร่อนจากจุดตันเถียนของเจ้า ทำการละลายพลังฝึกฝนของเจ้าก่อน ค่อยๆเข้าไปทำลายหัวใจ ไร้ทางรักษา ”
แรกเริ่มเดิมที จูนจิ่วเห็นพิษกู่นั้นเป็นดาบสองคม ไม่แก้ นางก็เท่ากับเป็นใบ้ แก้แล้ว ต้องตาย แน่นอนอาศัยฝีมือแพทย์ของนางย่อมช่วยหยุนหนีได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนที่ถอนพิษจูนจิ่วจงใจละเลยไม่สนใจจุดนี้ ทำไมต้องช่วยหยุนหนี
“ไม่”หยุนหนีเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง “ช่วยข้าด้วย จูนจิ่วช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากตาย”
จูนจิ่วยิ้ม มองนางอย่างล้อเลียนและสงสาร “หากข้าถูกพิษ เจ้าจะช่วยข้าหรือไม่”หยุนหนีร่างแข็งทื่อ เห็นทีนางคงรู้คำตอบแล้ว แต่หยุนหนีก็ยังไม่ยอม นางจ้องจูนจิ่วเขม็งและตะโกนขึ้น
“จูนจิ่ว เบื้องหลังเทียงฉิวคือตำหนักไท่หวง เจ้าล่วงเกินเทียงฉิวก็เท่ากับล่วงเกินตำหนักไท่หวง พวกเขาจะฆ่าเจ้า ช่วยข้า เจ้าช่วยข้าข้าจะช่วยพาเจ้าหนี จูนจิ่วช่วยข้าด้วย อ๊า ”หยุนหนีร้องอย่างเจ็บปวดทรมานและชักกระตุก
แววตาเย็นชา ไม่มีความเมตตาแม้แต่น้อย จูนจิ่วหมุนตัวหันหลังให้กับหยุนหนี นางเอ่ยขึ้นว่า “เข็มเงินอยู่ในร่างกายเจ้า ชั่วเวลานกกระจอกกินน้ำเจ้าจะไม่ตาย อยากรอด ก็ไปขอร้องเจ้าสำนักศึกษาไท่ชูเถอะ”
ชั่วเวลานกกระจอกกินน้ำจะไม่ตาย แต่ตันเถียนละลาย พลังการฝึกฝนถูกทำลายก็เจ็บปวดพอที่จะทำให้หยุนหนีตายซะดีกว่าอยู่
มองจูนจิ่วเดินจากไปตาปริบๆ หยุนหนีกรีดร้อง “จูนจิ่วเจ้าไม่ช่วยข้า ข้าเป็นผีก็ไม่ปล่อยเจ้าไป”
“เหอะ”จูนจิ่วไม่ได้หันกลับมา นางเดินออกไปแล้วดีดนิ้วเพื่อถอนหมอกหอม บอกกับลูกศิษย์ว่าสามารถไปพบเจ้าสำนักศึกษาไท่ชูเพื่อส่งมอบภารกิจได้แล้ว