บทที่136 รักษาช่วยชีวิตคน(2)
……
กลางคืน ซ่งหวั่นถิงขับรถมาที่ชุมชนเพื่อรับเย่เฉินด้วยตนเอง
เมื่อเห็นเย่เฉิน เธอก็ยกมือขึ้นด้วยความเคารพและกล่าวว่า “อาจารย์เย่ ฉันสร้างความลำบากให้คุณแล้ว”
เย่เฉินยิ้มบาง ๆ “คุณซ่งไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้น”
เมื่อพูดจบ เขาเห็นเธอสวมสร้อยข้อมือเพชรที่ข้อมือ จึงถามอย่างสงสัยว่า “สร้อยข้อมือที่ทำหายเมื่อครั้งนั้น ก็คือเส้นนี้ใช่ไหม? ”
ซ่งหวั่นถิงพยักหน้าอย่างรีบร้อนและกล่าวว่า “ใช่ คือเส้นนี้เองค่ะ เป็นของที่แม่ทิ้งไว้ให้ฉันก่อนท่านจะเสียชีวิต สำหรับฉันแล้วมันสำคัญพอ ๆ กับชีวิตฉัน ต้องขอบคุณอาจารย์เย่ มิฉะนั้น ฉันอาจจะไม่ได้มันกลับคืนมาตลอดไป”
เย่เฉินยิ้มและกล่าวว่า “คุณกับมันยังมีวาสนาต่อกัน ถึงแม้ว่าผมไม่ช่วย เมื่อเวลาผ่านไปสักพักมันก็จะวกกลับมาในมือคุณอีกครั้ง”
ซ่งหวั่นถิงรู้ว่าที่เย่เฉินพูดแบบนี้คือถ่อมตน ก็รีบพูดขึ้นมา “อาจารย์เย่ คนที่มีความสามารถอย่างคุณนั้นหายาก และยังเป็นคนถ่อมตัวเช่นนี้ ก็ยิ่งหายากเข้าไปอีก”
เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ คุณซ่ง ไม่ต้องพูดประจบผมแล้ว พวกเรารีบไปกันเถอะ”
ซ่งหวั่นถิงรีบพยักหน้าและกล่าวว่า “ อาจารย์เย่ เชิญขึ้นรถค่ะ! ”
เมื่อขึ้นไปนั่งบนรถโรลส์รอยซ์ของซ่งหวั่นถิงแล้ว คนขับก็ออกรถอย่างรวดเร็ว เพื่อไปยังคฤหาสน์ของตระกูลซ่งในเมืองจินหลิง
นี่คือวิลล่าสไตล์จีนทั่วไป ที่มีรูปทรงที่สวยงามใหญ่โตโอ่อ่า และยังมีสวนเจ็ดชั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความงามแบบโบราณที่คลาสสิก แสดงถึงรสนิยมที่หรูหราของเจ้าของ
ยิ่งไปกว่านั้นคฤหาสน์แห่งนี้มีพื้นที่ขนาดใหญ่มาก และถ้าใครสามารถเป็นเจ้าของที่ดินผืนใหญ่ในเมืองจินหลิง แสดงให้เห็นได้ว่าตระกูลซ่งมีความมั่งคั่งแค่ไหน
ภายใต้การนำของซ่งหวั่นถิง เย่เฉินมาถึงลานหลัก ทันทีที่เดินเข้าประตู เขาเห็นชายหนุ่มในชุดสูทและรองเท้าหนัง เดินมาที่นี่พร้อมกับชายชราและหญิงสาว
“น้องสาว คนนี้คือ……”
ชายหนุ่มรูปงามมองไปที่เย่เฉินอย่างสงสัย
“นี่คืออาจารย์เย่” สีหน้าของซ่งหวั่นถิงดูไม่สบายใจเล็กน้อย แต่เธอก็ยังคงเก็บอารมณ์แล้วแนะนำว่า “นี่คือซ่งหรงวี่พี่ชายฉัน(ลูกพี่ลูกน้อง)”
“สวัสดีครับ” เย่เฉินพยักหน้า
“อาจารย์เย่”
ชายหนุ่มกวาดตามองเย่เฉินตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วกล่าวอย่างประชดประชันว่า “น้องสาว คุณเชิญอาจารย์ที่อายุน้อยกว่าผมมาดูอาการคุณปู่? มันไม่ใช่เล่นขายของน่ะ”?
เย่เฉินฟังแล้ว หัวใจของเขากระตุกเล็กน้อย
ระหว่างทางที่มา ซ่งหวั่นถิงได้บอกว่า ตอนนี้คุณท่านซ่งกำลังจะตาย ชีวิตเหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย
ลูกหลานในตระกูลทุกคนต่างก็หาหมอผู้วิเศษจากทั่วทิศ(แปดเซียนข้ามทะเล)ในช่วงเวลานี้พวกเขาได้เชิญหมอที่มีชื่อเสียงมานับไม่ถ้วน เพื่อหวังที่จะรักษาคุณท่านซ่งให้หายดี เพื่อในอนาคตเวลาที่แบ่งทรัพย์สินกัน ตนเองจะได้รับส่วนแบ่งมากขึ้นกว่าเดิม
โดยเฉพาะซ่งหวั่นถิงกับพี่ชายเธอ(ลูกพี่ลูกน้อง)ซ่งหรงวี่
แต่น่าเสียดาย หมอที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ทั้งหมดก็ต้องกลับไปด้วยความล้มเหลว
ซ่งหรงวี่คนนี้ดูเหมือนจะเป็นศัตรูกับซ่งหวั่นถิงเล็กน้อย ดังนั้นสายตาของเขาที่มองตนเองเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
ตอนนี้ซ่งหวั่นถิงกล่าวว่า “พี่ชาย อาจารย์เย่เป็นคนที่เก่งมาก ก่อนหน้านั้นที่ฉันดวงตก ก็ได้ท่านอาจารย์ช่วยแก้เคล็ดเสริมดวงจนดีขึ้น สามารถบอกได้เลยว่าเป็นผู้หยั่งรู้”
ซ่งหรงวี่กล่าวด้วยความดูหมิ่นว่า “น้องสาว การรักษาคุณปู่ คนที่ต้องการคือหมอเทวดา ไม่ใช่อาจารย์ดูฮวงจุ้ยที่เอาเรื่องผีสางเทวดามาลวงใจคน คุณรู้หรือไม่? ”