บทที่166หลงรักเย่เฉิน(2)
ดังนั้น นี่ก็หมายความว่า ตนเองหลงรักเย่เฉิน ไม่ได้ผิดต่อเพื่อนสนิทเลย?
บางทีถ้าหากตนเองสามารถอยู่กับเย่เฉิน สำหรับเพื่อนสนิทแล้วอาจเป็นการช่วยเหลือเขาก็ได้!
คิดถึงตรงนี้ เธอถึงกับสุขใจพูดกับเย่เฉินว่า: “งั้นก็รบกวนคุณแล้วล่ะ เย่เฉิน”
เย่เฉินยิ้มตอบออกไปเบา ๆ ว่า: “ไม่รบกวนเลย”
รอยยิ้มของเขาครั้งนี้ ทำให้หัวใจของต่งรั่งหลินถึงกับเต้นไม่เป็นจังหวะ
สติสัมปชัญญะบอกเธอว่า เย่เฉินเป็นสามีของเพื่อนสาวคนสนิท ไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นได้ แต่ว่าด้วยแรงกระตุ้นทางอารมณ์นั้นกลับทำให้ต่งรั่งหลินอดกลั้นไม่อยู่ที่จะมีความคิดแปลกประหลาด
เย่เฉินไม่ล่วงรู้ถึงความคิดของต่งรั่งหลินเลยแม้แต่น้อย จึงบอกหมายเลขโทรศัพท์ของให้กับต่งรั่งหลิน
ขณะนั้นเอง จางเอ้อเหมาเดินมาข้างหน้า พูดด้วยน้ำเสียงแกมประจบว่า: “อาจารย์เย่ ท่านร้ายกาจมาก พวกโจรชั่วนักเลงสองหัวไม้เจิ้นหนานต่อสู้กับท่านได้ไม่เกินหนึ่งกระบวนท่า ผมจางเอ้อเหมาขอกราบแทบเท้านับถือนับถือ ท่านเป็นเทพเซียนมาเกิดจริง ๆ”
ขณะที่พูด จางเอ้อเหมาก็คุกเข่ากราบลงบนพื้นอย่างไม่ลังเล
เย่เฉินมองเห็นท่าทางนอบน้อมให้เกียรติ จงใจถามกลับไปว่า: “ผมว่านะจางเอ้อเหมา เมื่อกี้คุณวิ่งไปไหน? หรือกลัวว่าผมสู้นักเลงสองหัวไม้เจิ้นหนานไม่ได้?”
“ไม่ใช่ ไม่ใช่!” จางเอ้อเหมาถึงกับหน้าถอดสี อธิบายอย่างลนลานว่า: “อาจารย์เย่ท่านเข้าใจผิดแล้ว ผมจะสงสัยฝีมือของท่านไปทำไม เพียงแต่เมื่อกี้สมองผมสับสน ท่านโปรดอย่าได้ใส่ใจเลย……”
พูดจบ จางเอ้อเหมาก้มศีรษะกับพื้น พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า: “อาจารย์เย่ ท่านคือมังกรในกลุ่มชน! ผมเอ้อเหมายอมรับด้วยกายและใจ! แต่นี้ต่อไปผมจางเอ้อเหมาจะไม่ร้องขอต่อฟ้าดิน จะคำนับอาจารย์เพียงคนเดียวเท่านั้น!”
เซียวชูหรันเห็นท่าทางประจบสอพลอของจางเอ้อเหมา ถึงกับส่ายหัว พูดกับเย่เฉินว่า: “ตอนนี้ทำยังไงกันต่อ? นักเลงสองหัวไม้เจิ้นหนานก็ตายไปแล้ว พวกเราจะต้องไปแจ้งความไหม?”
เย่เฉินคิดอยู่ครู่หนึ่ง พูดเบา ๆ ว่า: “พวกคุณขึ้นรถกันไปก่อน ผมจัดการทางนี้เอง”
เซียวชูหรันพยักหน้า เดินขึ้นไปบนรถพร้อมกับต่งรั่งหลินและจางเอ้อเหมา
รอจนพวกเขาขึ้นรถแล้ว เย่เฉินหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า โทรศัพท์ไปหาผู้ดูแลภาพลักษณ์ของตระกูลเย่ในเมืองจินหลิง ก็คือ เฉินจื๋อข่ายเจ้าของโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง
ประเดี๋ยวเดียวปลายสายก็มีคนรับ เฉินจื๋อข่ายตอบกลับด้วยน้ำเสียงนอบน้อมว่า: “คุณชาย มีอะไรให้กระผมรับใช้ครับ?”
เย่เฉินพูดเบา ๆ ว่า: “ ผมพบกับนักเลงสองหัวไม้เจิ้นหนาน สุนัขสองตัวนี้มาเห่าใส่ผม ตอนนี้กลายเป็นหมานอนตายข้างถนนไปแล้ว ผมไม่อยากให้ยุ่งยากมากนัก ตอนนี้คุณรีบส่งคนมาจัดการหน่อย”
ได้ยินคำพูดนี้ เฉินจื๋อข่ายถึงกับตกใจสุดขีดพูดว่า: “คุณชาย ท่านจัดการนักเลงสองหัวไม้เจิ้นหนานแล้วเหรอ? โอ้สวรรค์ นั่นมันโจรชั่วมีชื่อแถบเจียงหนาน! ฝีมือโหดเหี้ยม พลังยุทธอันดับต้น ๆในเย่นจิงเลยนะครับ!”
เฉินจื๋อข่ายอดไม่ได้พูดออกมาด้วยความตื่นเต้นว่า: “คุณชายท่านร้ายกาจจริง ๆ ถ้าหากตระกูลเย่รู้ฝีมือของท่าน แน่นอนว่าจะต้องตื่นเต้นอย่างมากแน่ ๆ “
เย่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า: “เรื่องนี้คุณรู้คนเดียวก็พอแล้ว ไม่ต้องไปบอกตระกูลเย่ ไม่งั้นผมจะไม่ให้อภัยคุณ!”
เฉินจื๋อข่ายเชื่อฟังคำสั่งของเย่เฉิน ตอบรับด้วยความนอบน้อมว่า: “ขอรับคุณชาย ผมจะรูดซิปปากให้สนิท เดี๋ยวจะส่งคนไปจัดการเรื่องของท่านทันที”
เย่เฉินตอบรับด้วยความพอใจ จากนั้นก็วางสายโทรศัพท์ เดินขึ้นไปบนรถ
เปิดประตู เย่เฉินนั่งตำแหน่งคนขับรถ สตาร์ทเครื่องด้วยท่าทางเรียบเฉย ราวกับว่าการฆ่าคนเมื่อครู่นี้ เป็นสุนัขข้างถนนจริง ๆ ต่งรั่งหลินนั่งแถวหลัง ดวงตาที่งดงามทั้งสองของเธอจ้องมองเย่เฉินอยู่เงียบ ๆ
ดวงตาของเธอ มีแรงปรารถนาที่เปล่งประกายระยิบระยับ พินิจอย่างละเอียด ภายในดวงตานั้นเป็น แววตาที่ทั้งรักและชื่นชม!