TB:บทที่ 274 สำหรับเขานี่เป็นเรื่องน่าผิดหวัง
ในเมืองหลวง ข่าวแพร่สะพัดไปอย่างว่องไว การล้มเลิกพลังที่เฉินหลงทำต่อซ่งจิวเทียนและคงหวันเต๋าเป็นเรื่องที่อู๋ห่าวและหวังหงรู้ พวกเขามีพลังระดับหลอมรวมธรรมชาติ
เมื่อพวกเขารู้เรื่องนี้ อู๋ห่าวและหวังหงมีสีหน้าอย่างเดียวกัน คือสับสน
พวกเขายังไม่อาจเข้าใจได้ว่าทำไมพลังของเฉินหลงจึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ในเวลาแค่สองปี
เขาทำลายความสำเร็จของของซ่งจิวเทียนและคงหวันเต๋า และนั่นหมายความว่าเขาไม่อาจจะได้ประโยชน์ดีๆจากมือเฉินหลงได้หรือ ในท้ายที่สุดแล้วพลังของเขาก็ไม่ได้ต่างไปจากซ่งจิวเทียนมากมายนัก และอย่างไรเสียพวกเขาก็ดีใจด้วยที่เฉินหลงอยู่ข้างเขา ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่ต้องกังวลเรื่องที่ว่าเฉินหลงจะเป็นภัยต่อพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นด้วยความช่วยเหลือที่ทรงพลังของเฉินหลง หลายๆอย่างจะดีขึ้น
ทว่าตอนนี้อู๋ห่าวมีแผนร้ายต้องทำ เขาต้องการคนที่มีความสามารถแข็งแกร่งเพื่อทำเรื่องนี้
ดังนั้นแล้ว เขาต้องไปพบเฉินหลงเป็นการส่วนตัวเพื่อมอบของขวัญ เขาไม่ได้กลับมาที่นี่กว่าสองปี ในตอนนี้เขาต้องจัดการธุระต่างๆเพื่อเฉินหลง มีสิ่งเดียวที่เขาทำได้ตอนนี้ คืออู๋ห่าวต้องดึงใบหน้าเก่าออกไปและเชิญเฉินหลงมา
“เสี่ยวเฉินเห็นไหมว่าในกลุ่มซีโร่มีเพียงนายและฉันที่มีความสามารถจะทำให้สำเร็จได้ ฝ่ายอเมริกาเฝ้ามองฉันมานานมากแล้ว หากว่าฉันจะไปพวกอเมริกาคงเฝ้าสังเกตกาณ์ฉันตั้งแต่ตอนลงเครื่อง ดังนั้นแล้วนายคงจะเหมาะสมที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นสหายฟางได้ทำลายแผนซุปเปอร์แมนไปหมดแล้ว และนั่นได้สร้างคุณประโยชน์อย่างใหญ่หลวงแก่ประเทศเรา พวกเราจะต้องพาเขากลับมาอย่างปลอดภัย”
ตอนแรก เขาบอกอู๋ห่าวเรื่องของฟางเจ่อเจี่ย แล้วเขาจึงบอกเรื่องที่จะร้องขอต่อ
“โครงการซุปเปอร์แมนหรือ พวกเขากล้าที่จะคิดรวมยีนส์ของเอเลี่ยนและยีนส์ของมนุษย์เข้าด้วยกันจริงๆ แล้วอีกอย่างเรื่องโง่ๆแบบนี้ยังสำเร็จได้จริงอีก สหรัฐอเมริกามีคนมากพอให้มารวมตัวกันแล้วนี่ยังต้องการจะรวมเอเลี่ยนเข้ามาด้วยหรือ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นปัญหาของเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมด ผมจะรับช่วงต่อภารกิจนี้เอง” หลังจากที่ฟังสิ่งที่อู๋ห่าวว่าแล้ว เฉินหลงก็ตกลง
“แผนการซุปเปอร์แมน” ของสหรัฐอเมริกานี้สามารถจะเป็นกำลังทหารที่แข็งแกร่งได้อย่างแน่นอน แต่ว่าจะนับอะไรเช่นนั้นเป็นมนุษย์ได้หรือ ยิ่งไปกว่านั้น หากว่าฟางเจ่อเจี่ยโดนพวกนั้นจับได้จริงๆแล้ว เขาจะสามารถใช้ “เลือดของซุปเปอร์แมน” ได้อีกครั้ง ดังนั้นแล้วเพื่อมวลมนุษย์เฉินหลงจะต้องจัดการภารกิจนี้ให้ได้
เขาเห็นคำโต้แย้งของเฉินหลง อู๋ห่าวจึงบอกเฉินหลงว่าฟางเจ่อเจี่ยหน้าตาเป็นอย่างไรและเขาต้องทำอย่างไรต่อในตอนนี้ และเขาได้มอบรหัสการร่วมมือของ “ทำลายล้างซุปเปอร์แมน”ให้เฉินหลง
ด้วยการทำเช่นนั้น ไม่นานหลังจากที่เขากลับมาจากอังกฤษ เฉินหลงก็ขึ้นเครื่องบินไปยังอเมริกาอีกครั้ง
สองวันต่อมาเฉินหลงและคาวบอยสองคนปรากฏตัวภายนอกภูเขาป่าไม้ที่ซึ่งฟางเจ่อเจี่ยเข้าไปเมื่อไม่กี่วันก่อน
ในตอนนั้นเอง เฉินหลงกลายมาเป็นคาวบอยอย่างชาวตะวันตกตัวจริงด้วย “หน้ากากร้อยหน้า”
และขณะนั้นเฉินหลงพบว่ามีพวกทหารอเมริกันแก่ๆที่ป้องกันภูเขาป่าไม้อยู่ และมีทหารบางคนที่เข้าป่าไปเพื่อตามหาร่องรอยของฟางเจ่อเจี่ย
สิ่งที่ทำทั้งหมดที่ทำไปเพื่อจับตัวฟางเจ่อเจี่ยเป็นเพียงเรื่องไร้ประโยชน์ เนื่องจากเฉินหลงตรวจสอบได้ว่าฟางเจ่อเจี่ยนอนเล่นเกม “นิวเวิร์ล” อยู่บนเตียง ในถ้ำขุดด้วยมือบนภูเขาป่าไม้
เขามองสิ่งที่อยู่ในถ้ำแล้ว ฟางเจ่อเจี่ยคงซ่อนอยู่ในถ้ำมาอย่างน้อยสองสามเดือนโดยไม่ได้มีปัญหาอะไร
ดูเหมือนว่าเขาเตรียมตัวจะหนีเอาไว้
สำหรับวิธีที่เขาติดต่อกับจีน โดยปกติแล้ว จะเป็นการติดต่อจาก “นิวเวิร์ล” และด้วยสาเหตุว่าเครือข่ายประเภทที่ “นิวเวิร์ล”ใช้นั้นเป็นเครือประเภทข่ายใหม่ล่าสุด และการทำงานของเครือข่ายนี้ขึ้นอยู่กับผู้จัดการใน “ตึกเหว่ยหลง” ดังนั้นแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นใน “นิวเวิร์ล” จะไม่มีใครคนอื่นรู้ได้นอกจากคอมพิวเตอร์ที่ควบคุม
ในตอนนี้เขาที่รู้ว่าฟางเจ่อเจี่ยอยู่ที่นั่น เฉินหลงหยุดทำอะไรเรื่อยเปื่อยแล้วตรงไปที่ภูเขาทันที
เมื่อเหล่าทหารเห็นว่าเฉินหลงกำลังตรงมา พวกเขาเตรียมการเพื่อจะไล่เขาไป
แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะมีเวลาได้พูดอะไร พวกเขาก็พบว่าร่างของตนโดนกักไว้ด้วยพลังที่พวกเขาไม่รู้จัก พวกเขาพูดไม่ได้ด้วยซ้ำ
เฉินหลงเดินไปผ่านพวกเขาและเดินช้าๆสู่ภูเขา
หลังจากที่เฉินหลงเดินเข้าไปในภูเขาแล้ว พวกทหารก็ล้มลงไปทีละคน
เพราะพลังของเฉินหลงไม่ได้ทำให้พวกเขามึนงง แม้จะเป็นทำเพื่อฆ่าพวกเขา นี่เป็นเพียงความนึกคิดเท่านั้น
แม้ว่าเฉินหลงจะไม่ใช่พวกกระหายเลือด แต่เขาก็เป็นทหารที่กินอาหารชั้นยอดและเชื่อฟังคำสั่งอยู่ดี
แน่นอนว่าหาก “นักรบซุปเปอร์แมน” นี้มาแทนที่แล้ว เฉินหลงคงฆ่าไปโดยทันที สัตว์ประหลาดอย่างพวกนั้นไม่ควรจะมีบนโลก
ระหว่างทางเฉินหลงเจอกับทหารอเมริกันแก่ๆคนหนึ่ง เขาทำให้เขามึนงง
ก่อนที่เฉินหลงจะไปถึงด้านนอกของถ้ำที่ฟางเจ่อเจี่ยอยู่
ในทันทีที่เฉินหลงเตรียมจะก้าวลงไปในหลุม เขาพลันรู้สึกได้ว่ามีคนสามคนเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว
และหลังจากที่เขารู้สึกได้ถึงความเร็วของคนทั้งสาม คำว่า “นักรบซุปเปอร์แมน” ได้วาบเข้ามาในความนึกคิดของเฉินหลง
เมื่อเดาได้แล้วว่า “นักรบซุปเปอร์แมน” คือคนที่กำลังมาทางเขา เฉินหลงไม่รีบร้อนจะตามหาฟางเจ่อเจี่ยต่อ เขายืนรอการมาของคนทั้งสามเพื่อจะดูว่านักรบซุปเปอร์แมนนั้นเป็นอย่างไร
นาทีต่อมา นักรบยอดมนุษย์ทั้งสามที่มีพลังระดับ “ลมปราณ” ก็ปรากฏต่อหน้าเฉินหลง
“คุณเป็นใครแล้วทำไมจึงมาอยู่ที่นี่” หนึ่งในทหารผิวดำที่มีตาสีฟ้าราวกับเป็นร่องรอยของปิศาจมองเฉินหลงและถามไป
“ไม่เห็นหรือว่าผมเป็นคาวบอย” เฉินหลงตบชุดคาวบอยบนตัวเขาแล้วพูดไปด้วยสำเนียงแบบแท้ๆ
“ภูเขาป่าไม้นี้เป็นที่ปิดตาย คุณขึ้นมาได้อย่างไร” ทหารผิวดำว่าต่อ
“ผมขึ้นมาได้อย่างไรหรือ แน่นอนว่าผมค่อยๆขึ้นมา ผมจะบินด้วยปีกขึ้นมาได้ไหมละ” เฉินหลงกางมือออก
“คุณน่าสงสัย กลับไปกับพวกเราและยอมให้สอบสวนเสีย” ทหารผิวดำเดินมาข้างๆเฉินหลง มีดฟันไปที่คอของเฉินหลง
เมื่อทหารผิวดำฟันคอเฉินหลงด้วยมีด เขาไม่ได้ทำให้เฉินหลงบาดเจ็บเลยแม้แต่ปลายผม
พลังของทหารผิวดำมีระดับถึงเพียง “พลังลมปราณ” เท่านั้น เช่นเดียวกับพวกสัตว์ป่าในอาณาจักรคุนหลุน การโจมตีของเขาจึงไม่อาจทำอะไรเฉินหลงได้
“ทำได้แค่นี้หรือ นี่ทำผมผิดหวังมากเลยนะ” หลังจากลองพลังของทหารผิวดำ เฉินหลงกล่าวไปด้วยความผิดหวัง
หากว่าพวกทหารเหนือมนุษย์ที่ผลิตขึ้นมาโดย “เลือดซุปเปอร์แมน” เพื่อเป็น “ทหารซุปเปอร์แมน” ที่มีพลังแบบนี้แล้ว เฉินหลงคนเดียวอาจจะทำลายคนพวกนี้ได้
เมื่อเห็นว่าเฉินหลงมีท่าทีสบายๆ ใบหน้าของทหารผิวดำก็เปลี่ยนไป เขาฟันคอของเฉินหลงอย่างดุร้าย
เฉินหลงปล่อยให้เขาทำไป แม้ว่าการฟาดฟันจะเป็นสิ่งที่เขาเสพติดแล้วเขาก็ยังต้องหารให้ฟาดหันลงมาอีก แต่เฉินหลงไม่เห็นด้วย เฉินหลงโจมตีหัวของทหารผิวดำด้วยหมัดหมัดเดียว สำหรับพวกที่ไม่ใช่มนุษย์เช่นนี้ แน่นอนว่าเขาจะต้องตัดมันออก อย่างเร็วด้วย