เซวหย่าฉินภรรยาของอู๋ตงไห่ เป็นจอมช่วยเหลือน้องชายของแท้
ด้วยฐานะและภูมิหลังทางครอบครัวของเธอ เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะเข้าไปอยู่ในบ้านตระกูลอู๋
แต่ในตอนแรกที่อู๋ตงไห่พาเธอแต่งเข้าบ้านตระกูลอู๋ ล้วนแล้วก็เพราะอู๋ตงไห่รักเธอจริงๆ
หลังแต่งเข้าบ้านตระกูลอู๋แล้ว เซวหย่าฉินก็เริ่มทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยเซวหนานซานน้องชายของเธอ
ตัวเซวหนานซานเองไม่ได้มีความสามารถอะไร เรียนหนังสือไม่เก่ง ความสามารถก็ไม่พอ ตอนที่ยังหนุ่มก็เอาเงินในมือเซวหย่าฉินไปทำธุรกิจมหาศาล แต่โดยปกติถก็ถูกเขาทำจนล้มเหลวเกือบหมด
ช่วยไม่ได้ เซวหย่าฉินเพิ่งจะไปขอร้องสามี หวังให้แบ่งส่วนหนึ่งของธุรกิจตระกูลอู๋ให้กับน้องชาย ก็ถือว่าเป็นการช่วยดึงน้องสักครั้ง
แม้ว่าอู๋ตงไห่จะดูถูกเซวหนานซาน แต่เห็นแก่หน้าภรรยา ก็ยังช่วยเขาอยู่สองสามครั้ง
แต่เซวหนานซานคนนี้ก็ไม่แยกแยะดีชั่ว ตัวเองไม่มีความสามารถก็พอแล้ว ตอนที่คนอื่นพาเขาไปหาเงิน แต่เขาต้องการใช้กลอุบายบางอย่างจากมันแทน ท้ายที่สุดdHทำจนอู๋ตงไห่เองก็เบื่อหน่าย แล้วก็ขี้เกียจพาเขาไปด้วยโดยปริยาย…
แต่เซวหย่าฉินก็ไม่ต้องการให้น้องชายของเธอเป็นคนธรรมดาไปทั้งชีวิต เมื่อเห็นว่าตัวน้องชายเองไม่ได้มีความสามารถมากนัก แต่ความอดทนในการต่อสู้นั้นถือว่ายังมี เธอจึงชี้นำให้เธอเดินไปบนทางของธุรกิจ
ยังไงซะเซวหนานซานก็เป็นน้องชายภรรยาของอู๋ตงไห่ อิทธิพลของตระกูลอู๋ในภาคใต้นั้นใหญ่มาก ดังนั้นมีความสัมพันธ์แบบนี้อยู่ ต่อให้เขาทำเรื่องผิด ทุกคนก็ยังต้องให้เกียรติเขา
หลังจากทำงานมาสองสามปี เซวหนานซานก็ได้ควานสำรวจเจอธุรกิจสำนักขอทานด้วยตัวเขาเอง
ที่บอกว่าเป็น “สำนักขอทาน” นั่น ที่จริงก็คือการยืมชื่อหนึ่งมาจากคนในยุทธจักร สิ่งที่พวกเขาทำไม่ใช่เรื่องความกล้าหาญหรือกระทำการโดยชอบธรรมเพื่อประเทศชาติและประชาชนอะไรหรอก พวกเขาก็แค่จัดกลุ่มขอทานปลอมๆกลุ่มใหญ่ เพื่อแสร้งทำเป็นขอทาน แล้วเที่ยวหลอกลวงไปทุกหนแห่ง
ยิ่งไปกว่านั้น ระหว่างขอทานกับขอทานด้วยกัน ก็มักจะเกิดเรื่องขัดแย้งต่างๆ
อย่างเช่นในสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ และถนนการค้าที่มีผู้คนชุกชุม นี่อาจเป็นทำเลทองที่ขอทานชอบมากที่สุด ถ้าสามารถสร้างแผงขายของที่นี่ได้ล่ะก็ ในหนึ่งวันจะต้องทำเงินได้ไม่น้อยแน่
แต่ว่าขอทานของเมืองเมืองหนึ่ง ลองคำนวณรวมดูง่ายๆแล้ว ก็หลายพันหลายหมื่นคน ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะรวมตัวกันในทำเลทองไม่กี่แห่งนี้
ดังนั้น การที่พวกเขาต่อสู้อย่างดุเดือด จัดตั้งกลุ่มและยึดครองดินแดนระหว่างกันกับสำนักขอทานกลุ่มอื่นๆในชีวิตประจำวัน ก็ได้กลายเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของพวกเขา นอกเหนือไปจากการขอทาน
เพราะว่ามีเสาหลักใหญ่อย่างตระกูลอู๋ เซวหนานซานได้พัฒนาอยู่ในกิจการของสำนักขอทานอย่างรวดเร็ว
สำนักขอทานไหนที่กล้าต่อกรกับเขา ก็จะถูกเขาเหยียบมิดไปในทันที ถ้าเขาเหยียบไม่มิด เขาก็จะขอร้องพี่สาวของเขา ให้พี่สาวไปขอร้องสามีของเธอ หรือก็คือให้อู๋ตงไห่ออกหน้าช่วยเหลือ
ยังไงซะอู๋ตงไห่ก็เป็นทายาทของตระกูลใหญ่อันดับต้นๆ โดยธรรมชาติแล้วเขาย่อมไม่ดูถูกธุรกิจสีเทาแบบนี้ และแน่นอนว่าเขาไม่ต้องการที่จะเข้าแทรกแซง
แต่เขาคงอดทนไม่ได้ที่ภรรยาจะใช้สายสัมพันธ์มาพูดจาข่มเขาทุกวัน งอนเขาไปซะทุกอย่าง หรือใส่อารมณ์ แสร้งทำเป็นรู้สึกน้อยใจ งั้นเขาก็ไม่รู้จะทำยังไงดี
