เย่เฉินมองเขาอย่างเหยียดหยาม กล่าวอย่างไม่พอใจว่า “คุณเรียกผมว่าคุณชายเย่ก็ได้แล้ว”
ซุนเต๋อวั่งค่อนข้างตกใจ นี่มันยุคไหนแล้ว ยังมีคนเรียกตัวเองว่าคุณชายอีก?
หรือจะเป็นคุณชายตระกูลใหญ่ที่มีเบื้องหลังสูงส่ง?
ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นก็ได้เจอเข้ากับเทพเจ้าจริงๆแล้วล่ะ!
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงประจบประแจงด้วยความตื่นเต้นอย่างที่สุด “อุ๊ยคุณชายสวัสดีครับ! ผมทำธุรกิจเกี่ยวกับแป้ง มีโรงงานแป้งที่เมืองจินหลัง ไม่แน่คุณอาจจะเคยกินแป้งของเราก็ได้นะครับ แบรนด์แป้งของเราคือจินเฝิ่นซื่อเจีย!”
เย่เฉินขมวดคิ้ว ถาม “จินเฝิ่นซื่อเจีย (The Story of a Noble Family) เป็นชื่อของซีรี่ย์เค้าไม่ใช่เหรอ?”
ซุนเต๋อวั่งกล่าวอย่างไม่ค่อยสู้ดี “เราก็แค่อยากฉวยโอกาสความโด่งดังนี้ เค้าคือผงทอง ของเราคือแป้ง ความจริงก็ไม่ต่างกันมาก”
เย่เฉินดูแคลน ถามเขา “เฒ่าแก่ซุน วันนี้เป็นวันที่คุณแต่งลูกสะใภ้เข้าบ้าน ทำไมไม่มีขบวนรถไปรับเจ้าสาวล่ะ?”
ซุนเต๋อวั่งและภรรยามองหน้ากัน ด้วยสีหน้าอับอาย ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี
เงียบไปสักครู่ ซุนเต๋อวั่งจึงได้รีบยิ้มพลางกล่าว “โธ่คุณชายเย่ คุณไม่รู้อะไร เดิมทีพวกเราได้จัดขบวนรถที่ทันสมัยมากไว้แล้ว แต่ขบวนรถนั้นจู่ๆก็มีปัญหาขึ้นมา ดังนั้น……”
“เกิดปัญหากะทันหัน?” เย่เฉินขมวดคิ้วถาม “ต่อให้ขบวนรถจะมีปัญหา แล้วครอบครัวคุณไม่มีรถสักคนเลยเหรอ?”
ซุนเต๋อวั่งกล่าวด้วยสีหน้าเสียใจ “ต้องขอโทษคุณชายเย่จริงๆ ผมก็ยุ่งๆ เอาไม่ทัน เมินเฉยต่อเสี่ยวม่าน ต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ!”
พูดจบ จึงได้รีบให้คำมั่นสัญญาว่า “คุณชายเย่สบายใจได้ ต่อไปเสี่ยวม่านแต่งเข้ามาแล้ว พวกเราจะชดเชยให้เธออย่างดี!”
ซุนหงเหว่ยที่อยู่ข้างๆได้ยินคำพูดนี้ ก็ดีใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ขึ้นมาทันที
เดิมทีไม่ว่าจะยังไงพ่อแม่ก็ไม่ยอมรับการแต่งงานของตนและจางเสี่ยวม่าน ถึงกระทั่งเช้าตรู่ของวันนี้พวกเขาก็ยังคงจู้จี้จุกจิกต่างๆนานากับตน ถึงขั้นข่มขู่ตน ต่อให้จางเสี่ยวม่านแต่งเข้ามา ก็ไม่มีทางให้เธอมีความสุข
ไม่คาดคิดว่าตอนนี้ เซียวชูหรันและสามีของเขา ขับรถซูเปอร์คาร์มาสองคัน แล้วท่าทีของพ่อจะเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้!
เมื่อนึกถึงจุดนี้ เขาก็ดีใจมาก รู้สึกซาบซึ้ง ต่อเย่เฉินและเซียวชูหรันอย่างมากมาย
ในขณะเดียวกันนี้ แม่ของซุนหงเหว่ยสวีลี่ฉิน ลากซุนเต๋อวั่งมาข้างๆ แล้วพูดเบาๆว่า “คุณพูดมั่วอะไร? เมื่อก่อนพวกเราตกลงกันว่ายังไง คุณลืมไปแล้วเหรอ? ห้ามผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในตระกูลเราอย่างเด็ดขาด!”
ซุนเต๋อวั่งรีบกล่าว “คุณไม่เห็นเหรอว่าจางเสี่ยวม่านมีเพื่อนที่เก่งขนาดนี้” ถ้าเราเมินเฉยต่อเค้า ถ้าเค้าต่อว่าขึ้นมาจะทำยังไง?
“ต่อว่าบ้าอะไรล่ะ!” สวีลี่ฉินกล่าวอย่างโมโห “ฉันไม่สนว่าคุณชายแซ่เย่จะยิ่งใหญ่มาจากไหน แต่ฉันรู้เพียงเรื่องเดียว ว่าแซ่เย่คนนี้ไม่มีทางให้เงินครอบครัวเราแม้แต่แดงเดียว ถ้าลูกชายเราแต่งกับจางเสี่ยวม่านจริงๆ แซ่เย่คนนี้ก็ไม่มีทางญาติดีกับเรา แล้วเราจะให้เกียรติเขาขนาดนี้ทำไม? หรือเพราะจางเสี่ยวม่านรู้จักเขา เราก็ต้องยินยอมพร้อมใจ ให้จางเสี่ยวม่านเป็นลูกสะใภ้ของเรางัั้นหรือ?”
ซุนเต๋อวั่งอดที่จะถามไม่ได้ว่า “งั้นคุณหมายความว่าไง? ตอนนี้เธอก็มาแล้ว เราจะดำเนินงานแต่งต่อไปมั้ย?”
“ไม่ดำเนินการต่อแล้วแน่นอน!” สวีลี่ฉินด่าอย่างเกรี้ยวกราด “ครอบครัวแซ่เย่บ้าไปแล้วหรือเปล่า พวกเราดูถูกพวกเขาขนาดนี้ พวกเขายังให้จางเสี่ยวม่านแต่งเข้ามาอีก ไม่ได้เรื่องจริงๆ!”
พูดพลาง เธอรีบกล่าวอีกว่า “เดี๋ยวคุณพูดน้อยๆหน่อย ดูฉันแล้วกัน วันนี้ฉันไม่มีทางให้จางเสี่ยวม่านคนนี้เข้ามาในตระกูลซุนของเราแน่นอน!”
———-