เย่เฉินตกใจกับคำพูดของกู้ชิวอี๋
แต่งงานกับชายที่หย่าร้างแล้ว นี่กำลังพูดถึงเขาเหรอ?
ลูกสาวตระกูลกู้นี้โง่เกินไปไหม? มันเป็นแค่ข้อตกลงกับปากระหว่างพ่อแม่ตอนยังเป็นเด็ก นี่มันสมัยไหนแล้ว ใครยังจะสนอีก?
เห็นว่าเธอยังเด็กและสวย เย็นชาและหยิ่งผยอง ต้องเป็นเด็กผู้หญิงที่มีความคิดสุดๆอย่างแน่นอน ทำไมความคิดของเธอถึงยึดมั่นประเพณีเก่าแก่เช่นนี้?
คิดอย่างนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า:”หนานหนานฟังฉันนะ เรื่องตอนเด็กๆของพวกเรานั้น อย่าไปจริงจัง เธอห้ามคิดสั้นเด็ดขาด แล้วเสียเวลาหาความสุขให้ตัวเอง!”
กู้ชิวอี๋พูดอย่างจริงจัง:”เย่เฉิน! พี่มันผู้ชายเลวที่ไร้จิตสำนึก
“ฉันรอมาสิบกว่าปีแล้ว ตอนนี้พี่มาบอกฉันว่าอย่าไปจริงจัง? เชื่อรึเปล่าพรุ่งนี้ฉันจะจัดงานแถลงข่าว แล้วเอาการหมั้นของเราประกาศออกไปเลย?”
ขณะที่พูด กู้ชิวอี๋ย่นจมูกใส่เขาเพื่อขู่ว่า:”บอกให้นะ ฉันมีแฟนคลับเยอะ ถึงเวลาอย่ามาโทษฉันที่ยั่วยุให้แฟนๆพุ่งเป้าหมายไปที่พี่! ทำให้พี่กลายเป็นผู้ชายที่ชอบล้อเล่นกับความรู้สึกของผู้หญิงอันดับหนึ่งของโลก และปล่อยให้พี่ถูกคนเป็นหมื่นเป็นพันชี้หน้าด่ากราด!”
เย่เฉินแพ้แล้ว
เขารู้ว่า กู้ชิวอี๋ทำจริงแน่นอน ไม่อย่างนั้นเธอกับพ่อของเธอคงไม่ตามหาตัวเองมาหลายปี
หากเขายังพูดว่าไม่ต้องจริงจังแบบนี้ต่อไป มันคือการลบล้างและปฏิเสธความพากเพียรและความพยายามเป็นเวลานานกว่าสิบปีของอีกฝ่าย
ดังนั้น ด้วยความเคารพกู้ชิวอี๋ เขาจึงพูดอย่างจริงจังว่า:”หนานหนาน เธอกับฉันเพิ่งกลับมาพบกันอีกครั้งหลังจากแยกทางกันมานานหลายปี หลายๆเรื่องควรค่อยๆคิดค่อยๆไป ถือว่าเธอไว้หน้าพี่สักหน่อย วันนี้เรามาจัดการเรื่องร่วมมือกัน และทานอาหารเย็นกับภรรยาของฉัน หรือพี่สะใภ้ของเธอก่อน! ”
“แล้วเรื่องที่เหลือ เราสองคนสามารถค่อยๆคุย คุยช้าๆ อีกอย่าง ฉันสัญญากับเธอแล้วนี่ อีกไม่กี่วันฉันจะไปเยี่ยมลุงกู้ที่เย่นจิงไม่ใช่เหรอ?”
สีหน้าของกู้ชิวอี๋ผ่อนคลายลงเล็กน้อย และเธอก็พึมพำว่า:”ก็ได้! ฉันจะไว้หน้าพี่! เรื่องที่พี่แต่งงาน รอพี่ไปเย่นจิง และอธิบายให้พ่อของฉันฟังด้วยตัวเองแล้วกัน! จากนั้นก็รอดูว่าพ่อของฉันจะทุบพี่ไหม!”
พูดจบ เธอมองเย่เฉินอย่างชั่วร้าย แล้วพูดว่า:”ไปล่ะๆ รีบเตรียมอาหารให้ฉันสิ หิวจะแย่แล้ว”
อันที่จริงกู้ชิวอี๋ไม่ได้รู้สึกหิว สาเหตุที่เธออยากรีบไปกินข้าว ก็เพราะว่าเธออยากเห็นภรรยาคนปัจจุบันของเย่เฉินเร็วๆ
ไม่นึกเลยว่า ภรรยาของเย่เฉินยังเป็นแฟนคลับตัวยงของตน โชคชะตามันชอบเล่นตลกกับคนจริงๆ
เย่เฉินรีบเตือนเธอว่า:”ตอนนี้เพิ่งกี่โมงเอง? ยังไม่ห้าโมงเย็นเลย จะกินข้าวแล้วเหรอ?”
กู้ชิวอี๋:”ฉันหิวแล้วไม่ได้รึไง?”
เย่เฉินพูดว่า:”เดี๋ยวฉันยังมีเรื่องต้องจัดการ แล้วฉันจะไปรับพี่สะใภ้ของเธอ ถ้าเธอหิว ฉันจะให้เว่ยเลี่ยงพาพวกเธอไปที่ป๋ายจินฮ่านกงก่อน พวกเธอกินอะไรรองท้องก่อน รอฉันทำธุระเสร็จ รับพี่สะใภ้เธอแล้วมาด้วยกัน แต่เธอต้องจำสิ่งที่ฉันบอกเธอไว้ด้วย พอเจอพี่สะใภ้ อย่าเผลอพูดออกมาเป็นอันขาด”
“โอ๊ย ฉันรู้แล้ว!”สีหน้าของกู้ชิวอี๋ ค่อนข้างหงุดหงิด เธอไม่อยากยอมรับว่าภรรยาของเย่เฉินเป็นพี่สะใภ้ของเธอ ทั้งๆที่ควรจะเป็นศัตรูหัวใจถึงจะถูก!
ในขณะนี้ มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เย่เฉินบอกให้เข้ามา เว่ยเลี่ยงเปิดประตูและพูกด้วยความเคารพว่า:”อาจารย์เย่ ผมทำสัญญากับคุณเฉินเสร็จแล้วครับ”
เย่เฉินพยักหน้า:”เว่ยเหลียง นายเตรียมรถสองคน พาสองคนนี้ไปที่ป๋ายจินฮ่านกงก่อน ทางประธานเฉินคงจัดการให้แล้ว พวกเธอนั่งรอตรงนั้นสักครู่ รอฉันก่อน ฉันมีเรื่องต้องจัดการ”
เว่ยเลี่ยงพูดด้วยความเคารพ:”ครับอาจารย์เย่!”
……
หลังจากให้เว่ยเลี่ยงพากู้ชิวอี๋และเฉินตัวตัวไปที่ป๋ายจินฮ่านกงก่อน เย่เฉินขี่จักรยานไฟฟ้า และไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจินหลิงเพียงลำพัง
ในตอนนี้ในใจของเขา มีคำถามมากมายที่อยากจะรู้
เขารู้สึกว่าคนแรกที่เขาจะหา ก็คือป้าหลี่จากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
ในเมื่อในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามีคนจงใจปกปิดตัวตนของเขา งั้นป้าหลี่คงจะควรทราบรายละเอียดบางอย่าง
เมื่อเขามาถึงสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เย่เฉินก็ตรงไปที่ห้องทำงานของป้าหลี่