กู้เย้นกางที่อยู่ข้างๆ กัดฟันด่าว่า “ทำไมคุณถึงมีข้อแก้ตัวมากมาย? ไม่ได้ก็คือไม่ได้สิ จะพูดให้เสียเวลาทำไม? ถ้าคุณทำไม่ได้ ก็รีบไสหัวออกไป แล้วหาคนที่ทำได้มาทำ!”
กู้เย้นเจิ้งห้ามกู้เย้นกางไว้ เขาขมวดคิ้วแน่น ครุ่นคิดเป็นเวลานาน
เขายังตระหนักได้ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องแปลกประหลาดจริงๆ เกรงว่าจะไม่ได้อยู่ในขอบเขตทางการแพทย์
ในขณะนั้นเอง กู้เหว่ยเลี่ยงผู้เป็นลูกชายของเขาก็ตะโกนขึ้นมาอย่างกะทันหันว่า “โอ๊ย! พ่อ! จะเป็นเพราะไอ้สารเลวของบ้านลุงใหญ่นั่นหรือเปล่า?!”
กู้เย้นเจิ้งโพล่งออกมา “แกหมายถึงเจ้าเด็กผู้ชายที่ลงมือกับฉันงั้นเหรอ!?”
“ใช่แล้ว!” กู้เหว่ยเลี่ยงกล่าว “ตอนนั้นเขาเอาแต่พูดถึงเรื่องทำหมันทิพย์ ยังบอกอีกว่าจะทำให้ฉันมีลูกไม่ได้ แถมยังบอกด้วยว่า ถ้าเรามีอะไรจะขอร้องเขา ก็ต้องไปคุกเข่าที่ประตูคฤหาสน์ของลุงใหญ่ เขาจะเล่นของใส่หรือเปล่า??”
หัวใจของกู้เย้นเจิ้งสั่นสะท้าน “บัดซบ! เรื่องนี้อาจจะเป็นเพราะเจ้าเด็กนั่นเล่นของก็ได้! อย่างไรเจ้าเด็กนั่นแค่กระดิกนิ้วก็ทำให้เทพสงครามและเจ้าถิ่นกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ ไม่แน่ว่าสภาพของพวกเราในตอนนี้ อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาก็ได้!”
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ กู้เย้นเจิ้งก็กัดฟันด่าทอ “บัดซบ! ถ้าเป็นไอ้สารเลวนั่นจริงๆ ฉันต้องฆ่าเขาให้ได้!”
กู้เย้นกางรีบพูดว่า “พี่ชาย เราจะฆ่าเขาได้อย่างไร? พี่ลืมไปแล้วเหรอว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน? แม้ว่าเราจะส่งเทพสงครามไปห้าคนและเจ้าถิ่นไปอีกห้าคน ก็เกรงว่าจะไม่สามารถเอาชนะเขาได้!”
กู้เหว่ยเลี่ยงยังบอกอีกว่า “ถูกแล้วครับพ่อ วันนี้เราไปที่บ้านลุงใหญ่ทำให้ลุงใหญ่รับมือไม่ทัน ตอนนี้ลุงใหญ่ต้องส่งคนมาคุ้มครองเขาอย่างใกล้ชิดแน่นอน แม้จะไม่มีเจ้าเด็กนั่น ก็เกรงว่าเราจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเช่นกัน…”
เมื่อกู้เย้นเจิ้งได้ยินเช่นนี้ ก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมาทันที
มันเจ็บปวดมากเหลือเกิน
รู้ว่ามันเป็นการเล่นของของเจ้าเด็กนั่น แต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้
จะจัดการอย่างไร?
พายอดฝีมือหลายสิบคนไป บางทีรอบๆ คฤหาสน์ของพี่ใหญ่อาจจะมียอดฝีมือซุ่มคุ้มกันอยู่เป็นร้อยแล้วก็ได้
บวกกับความแข็งแกร่งของเจ้าเด็กนั่นมันช่างเหลือเชื่อจริงๆ เขาไม่มีโอกาสชนะเลย!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็กัดฟันพูดอย่างเย็นชา “ดูเหมือนจะต้องมองการณ์ไกลหน่อย พวกเราต้องอดทนไว้ก่อน ให้ได้ตำแหน่งประธานในการประชุมคณะกรรมการวันพรุ่งนี้มาอยู่ในมือก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”
อีกสามคนต่างพยักหน้าเห็นด้วย
เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะไปต่อสู้กับกู้เย้นจงและเย่เฉิน แต่ต้องคิดหาทางช่วงชิงตำแหน่งประธานให้ได้ก่อน
เมื่อถอดอำนาจของเขาออกจากกลุ่ม สถานการณ์ก็จะพลิกผันอย่างมาก พอถึงเวลานั้น กู้เย้นจงก็จะถูกกัดเซาะไปเรื่อยๆ!
เมื่อตัดสินใจแล้ว กู้เย้นเจิ้งก็บอกกับหัวหน้าแผนกบุรุษเวชศาสตร์ว่า “ตอนนี้คุณไปจัดการ เอาสเปิร์มบางส่วนของพวกเราทั้งสี่คนออกมาแช่แข็งไว้ก่อน!”
“แช่แข็งสเปิร์ม?!” คนอื่นๆ ก็ประหลาดใจเช่นกัน กู้เย้นกางถามว่า “พี่ใหญ่ นี่พี่คิดจะทำอะไรน่ะ?”
กู้เย้นเจิ้งทำหน้าเย็นชา “ฉันกลัวว่าถ้าพวกเรารักษาไม่หายจริงๆ สายเลือดของทั้งสองครอบครัวและสายเลือดของตระกูลกู้จะถูกตัดขาด จึงให้แช่แข็งสเปิร์มเอาไว้ก่อน ถ้ารักษาไม่หายขึ้น เราจะได้ใช้การผสมเทียมเพื่อสืบสายเลือดได้!”
กู้เย้นกางตระหนักขึ้นมาทันทีว่าพี่รองกำลังวางแผนการที่เลวร้ายที่สุด เขาต้องการทิ้งเมล็ดพันธุ์ไว้ให้ทั้งสองครอบครัวก่อน
เขาอดไม่ได้ที่จะแอบทอดถอนใจอยู่ภายใน “ต้องบอกว่าความคิดของพี่รองนั้นมองการณ์ไกลเหลือเกิน มองเห็นสถานการณ์โดยรวม! ถ้าเปลี่ยนเป็นเขา ย่อมคิดไม่ได้เช่นนี้แน่นอน พอถึงเวลานั้นเกิดตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ตระกูลซูก็จะไม่มีลูกหลานไว้สืบสกุลใช่ไหม?”