“กลายเป็นผู้นำตระกูลของตระกูลเย่งั้นเหรอ?”
เย่เฉินยิ้มอย่างไม่แยแส พร้อมกับพูดด้วยความรังเกียจเล็กน้อยว่า “ผมไม่ได้มีความสนใจ กับการเป็นผู้นำตระกูลของตระกูลเย่หรอก”
ถังซื่อไห่พูดอย่างเร่งรีบว่า “คุณชายครับ คุณชายอย่าลืมนะครับว่าตระกูลเย่เป็นตระกูลที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเย่นจิงและแม้แต่ของทั้งประเทศเลยนะครับ ถ้าคุณชายสามารถยึดตระกูลเย่ได้ระยะห่างระหว่างคุณชายกับตระกูลซูก็จะใกล้กันมากขึ้น!
เย่เฉินโบกมือและพูดว่า “พ่อบ้านถังครับ สักวันหนึ่ง ผมจะใช้มือทั้งสองของตัวเอง เอาชนะตระกูลซูและตระกูลอื่น ๆ ทั้งหมดที่เนรคุณพ่อของผม! ผมจะพึ่งพากำลังของตัวเอง ทำให้พวกเขาคุกเข่าและสำนึกผิดต่อหน้าหลุมศพของพ่อแม่ผม!”
ถังซื่อไห่ถอนหายใจ “คุณชายครับ ถ้าคุณชายยึดตระกูลเย่ได้วันนั้นก็จะมาถึงเร็วกว่านะครับ!”
เย่เฉินพูดอย่างเย็นชา “ที่ผมไม่อยากกลับไปที่ตระกูลเย่ก็เป็นเพราะว่าเมื่อวันนั้นมาถึง แม้ว่าคนตระกูลเย่ ก็ต้องคุกเข่าเช่นกัน!”
ถังซื่อไห่ตกใจกับท่าทีที่แน่วแน่และพลังที่แข็งแกร่งของเย่เฉิน
ในขณะนี้เขาก็เห็นเงาของเย่ฉางอิง บนตัวเย่เฉิน
และในขณะนี้เองเขาก็ล้มเลิกแผนการที่จะเกลี้ยกล่อมเย่เฉินให้กลับไปยังตระกูลเย่ และสู้กับแผนการผู้นำตระกูลของตระกูลเย่แทน
เพราะเขารู้ว่า ตระกูลเย่มันไม่คู่ควร!
และในปีนั้นตระกูลเย่ก็ไม่คู่ควรกับเย่ฉางอิงอยู่แล้วด้วยและในตอนนี้พวกเขาก็ไม่คู่ควรกับลูกชายของเย่ฉางอิงด้วยเช่นกัน!
ดังนั้น เขาจึงแสดงความคิดเห็นกับเย่เฉินทันที “คุณชายครับ ตั้งแต่นี้ไป ทุกอย่างต่อจากนี้ของผมขึ้นอยู่กับคำสั่งของคุณชายถ้าคุณชายต้องการ ผมสามารถออกจากตระกูลเย่ได้ทุกเมื่อ และผมจะอยู่คอยติดตามอยู่ข้างๆ คุณชายไปทุกที่!”
เย่เฉินยิ้ม พร้อมกับพูดว่า “ตอนนี้ยังไม่ต้องรีบหรอก แต่ในอนาคตผมอาจต้องการให้พ่อบ้านถังออกจากตระกูลเย่ มาช่วยผม”
เย่เฉินยังอยากพาโคบายา ชิอิจิโร่ไปเที่ยวญี่ปุ่นสักครั้ง ก่อนช่วงปีใหม่มาถึง และยึดบริษัทผลิตยาโคบายาไว้ในมือตัวเองอย่างสิ้นเชิง จากนั้นก็ปล่อยให้บริษัทผลิตยาโคบายาช่วยตัวเขาเองผลิตยากระเพาะเก้าเสวียนอย่างทุ่มสุดตัว แล้วทำการวิจัยและพัฒนายาป้องกันตับด้วยตัวเองและทำการยึดตลาดค้าไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว
อุตสาหกรรมยาเกี่ยวข้องกับสุขภาพของมนุษย์ ดังนั้นตราบใดที่มีเทคโนโลยีหลักความสามารถในการทำกำไรจะไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย ทั้งยังสามารถกลายเป็นกลุ่มบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ได้อย่างง่ายดาย
ถ้าตัวเองสามารถพัฒนาจิ่วเสวนเภสัชกรรมให้กลายเป็นบริษัทยาชั้นนำของโลก ไม่ว่าจะเป็นตระกูลเย่ หรือตระกูลซู คงจะไม่สามารถตีเสมอกับตัวเขาได้
บริษัทผลิตยาโคบายามีฐานการผลิตหลายแห่งในญี่ปุ่นซึ่งมันมีกำลังการผลิตสูงมาก และการจะย้ายฐานการผลิตทั้งหมดกลับไปยังประเทศจีนคงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีบุคคลที่น่าเชื่อถือคอยช่วยเขาจับตามองที่ญี่ปุ่น และทำหน้าที่เป็นประธานของบริษัทผลิตยาโคบายา
เมื่อถึงตอนนั้น บริษัทผลิตยาโคบายาจะต้องเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่ให้คนที่ไม่มีความสามารถอย่างโคบายา ชิอิจิโร่มาเป็นประธานคณะกรรมการได้
ดังนั้น ถังซื่อไห่จึงกลายเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในสายตาของเย่เฉิน
แม้ว่าถังซื่อไห่จะไม่รู้ว่าเย่เฉินต้องการให้ตัวเองทำอะไรกันแน่แต่เขาก็พูดอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ผมจะฟังสั่งให้ไปทำของคุณชายทุกเมื่อ!”
เย่เฉินพยักหน้า พร้อมกับเอ่ยปากพูดว่า “วันนี้ก็แค่นี้ก่อนเถอะพ่อบ้านถัง ผมจะกลับไปกับหนานหนานก่อน เพราะพรุ่งนี้ผมต้องกลับจินหลิง”
ถังซื่อไห่ถามด้วยความประหลาดใจว่า “คุณชายครับ ทำไมคุณชายรีบกลับขนาดนี้ล่ะครับ?”
เย่เฉินพูดว่า “ผมยังมีเรื่องต้องทำอีกเยอะ ถ้ายังไม่กลับไปกลัวว่ามันจะไม่ทันน่ะครับ”
ถังซื่อไห่พูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมไปส่งคุณชายและคุณกู้เองครับ!”
เย่เฉินพูดว่า “อ้อใช่แล้ว ใบชาที่คุณทำก็ไม่เลวนะ ให้ผมบ้างสิ ผมจะนำกลับไปฝากพ่อตาผมสักหน่อยเขาโดนหลอกให้ซื้อชาขยะกองหนึ่งจากคนขายชาในวีแชทมันไม่คุ้มค่าเลย”
ถังซื่อไห่พูดอย่างเร่งรีบว่า “คุณชายรอสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมจะจัดให้คนนำมาให้!”
ไม่นานผู้จัดการโรงน้ำชาก็นำกล่องของขวัญอันวิจิตรมาสองสามกล่องแล้วเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ถังซื่อไห่พูดกับเย่เฉินว่า “คุณชายครับ ในนี้มีชาหมิงเฉียนหลงจิ่งคุณภาพดี พร้อมด้วยคิ้วอาชาทองเกรดสูงและชาผู่เอ๋อร์สุก คุณชายนำกลับไปให้คุณเซียวลองชิมดูนะครับ ถ้าคุณชายชอบ เดี๋ยวผมจะกำหนดวันแล้วส่ไปรษณีย์ให้คุณชายนะครับ”
เย่เฉินรับชามาและขอบคุณพร้อมกับกับพูดว่า “รบกวนพ่อบ้านถังซะเปล่า แต่ก็ขอบคุณมากนะครับ”
ถังซื่อไห่โค้งคำนับอย่างรวดเร็วและพูดว่า “ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ…”
…
เขากล่าวคำลากับถังซื่อไห่จากนั้นเย่เฉินกับกู้ชิวอี๋ก็กลับไปยังวิลล่าตระกูลกู้ด้วยกัน