ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน – บทที่ 2005

บทที่ 2005

บทที่ 2005

เมืองจินหลิง ตระกูลซ่ง

ทันทีที่ซ่งเทียนหมิงกลับมา ก็แกล้งทำเป็นว่าหาคุณท่านซ่งถามโน่นถามนี่ สีหน้าหน้าเต็มไปด้วยความเป็นห่วงต่อซ่งหวั่นถึง

มื่อคุณท่านซ่งเห็นลูกชายคนโตของตัวเอง ส่วนลึกภายในใจก็มีความสงสัยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

เขาไม่อยากที่จะเชื่อเลยจริงๆว่า ลูกชายคนโตที่ตัวเองเลี้ยงมาเป็นเวลาห้าสิบปื ต้องการที่จะคิดร้ายกับตัวเอง

หากคำพูดนี้ออกมาจากปากของคนอื่นๆ คุณท่านซ่งตายก็ไม่มีวันเชื่อ

แต่ทว่า แต่เมื่อคำพูดนี้ออกมาจากปากของเย่เฉิน ต่อให้คุณท่านซ่งไม่อยากจะเชื่อ ก็จำเป็นต้องให้ความสำคัญขึ้นมา

เพราะว่า ในใจของเขารู้ดีว่า ความสามารถของเย่เฉินอาจารย์เนั้นทะลวงา ยิ่งไปกว่านั้นด้วยอุปนิสัยของเขา ไม่มีทงที่จะพูดอะไรก็ตามที่ไม่รับผิดชอบ

และในเมื่อเขาพูดแบบนี้แล้ว ก็ต้องมีหลักฐานที่แน่นอนแล้ว!

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เขามองซ่งเทียนหมิงลูกชายคนโตไปด้วย และคิดในใจไปด้วยว่า: “ดูเหมือนว่า ฉันจะต้องระมัดระวังจริงๆด้วย! ตั้งแต่นี้
เป็นต้นไป จะต้องตื่นตัวเป็นอย่างมากแล้ว”

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็ลุกขึ้น และพูดกับซ่งเทียนหมิงว่า: “โร่ เทียนหมิง เรื่องของหวั่นถึงทำให้ฉันเหนื่อยล้าทั้งใจและกายมาโดยตลอด

ร่างกายของฉันค่อนข้างไม่สบาย ในเมื่อแกกลับมาแล้ว ก็ช่วยฉันดูแลสถานการณ์โดยรวมไปก่อน ฉันต้องพักผ่อนก่อนแล้ว ร่างกายจะรับไม่
ไหวแล้วจริงๆ”

ซ่งเทียนหมิงรีบพูดว่า: “พ่อครับ งั้นผมประคองพ่อกลับไปที่ห้องนะ”

คุณท่านซ่งโบกมือ และพูดว่า: “ไม่ต้อง แกรีบติดต่อหาซ่งหรงวี่สักหน่อย ถามความคืบหน้าของทางด้านประเทศญี่ปุ่นดู หาข่าวคราวของ
ซ่งหวั่นถิงได้หรือยัง มีข่าวคราวแล้ว บอกฉันทันที”

หลังจากที่พูดจบ คุณท่านซ่งมองไปทางพ่อบ้านลุงวี และเอ่ยปากพูดว่า: “เหล่าวี นายประคองฉันกลับห้องเถอะ”

ลุงวีรีบพยักหน้า ก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดด้วยความเคารพว่า: “คุณท่าน เชิญครับ!”

คุณท่านซ่งลุกขึ้นมา มองไปทางซ่งเทียนหมิงแวบหนิ่ง และกำชับว่า: “เทียนหมิง หลังจากที่น้องชายของแกจากไปแล้วก็เหลือหวั่นถิงที่
เป็นสายเลือดคนเดียว ไม่ว่ายังไงก็ตาม แกก็ต้องให้เธอมีชีวิตกลับมา ไม่ย่างนั้นฉันตายไป ก็ไม่มีหน้าไปเจอพวกเขาสองสามีภรรยา แกเข้าใจ
มั้ย?”

ในแววตาของซ่งเทียนหมิงประกายด้วยความกระอักกระวนเล็กน้อย แล้วก็กลับมาป็นปกติในทันที และพูดอย่างจริงจังว่า: “พ่อครับพ่อ
วางใจได้ ผมจะทำทุกอย่างให้เต็มที่แน่นอน!”

คุณท่านซ่งพยักหน้าเบาๆ ในใจก็ทอดถอนหายใจเป็นพักๆ

เหตุผลที่เขาพูดแบบนี้ คืออยากจะดูว่า ถ้าหากเรื่องนี้ซ่งเขียนหมิงเป็นคนทำจริงๆ ถ้าอย่างนั้นเขาจะยังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเล็กน้อย
สุดท้ายหรือเปล่า

ถ้าหากเขายังความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่เล็กน้อย ก็น่าจะปล่อยหลานสาวแท้ๆของเขาไป เหลือเลือดเนื้อเชื้อไขของน้องชายไว้

แต่ถ้าหากตัวเองพูดถึงขนาดนี้แล้ว เขายังไม่แยแส ถึงกับยังคิดร้ายกับตัวเองต่อไป ถ้าอย่างนั้นสำหรับตัวเอง ลูกชายคนนี้สามารถที่จะละทิ้งได้อย่างสมบูรณ์

ลุงวีประคองคุณท่านซ่งที่ค่อนข้างเหนื่อยสายตัวแทบขาด กลับไปถึงที่ห้องของเขา

ทันทีที่เข้ามา คุณท่านซ่งก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน คนทั้งคนแสดงความสามารถที่มีอยู่ออกมาให้เห็น ร่างกายก็ไม่ได้อ่อนแอเหมือนเมื่อกี้
นี้ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชากับลุงวีว่า: “เหล่าวี ปิดประตู มาในห้องหนังสือ ฉันมีเรื่องจะคุยกับนายหน่อย!”

ห้องของคุณท่านซ่ง อันที่จริงแล้วเป็นห้องชุดขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก

ห้องนั่งเล่นกับห้องนอนและห้องหนังสือ ทั้งหมดอยู่ในนั้น มีความเป็นส่วนตัวสูงมาก

โดยเฉพาะห้องหนังสือ ซึ่งอยู่ตรงกลางของห้องชุดทั้งหมด ทุกๆด้นมีห้องอื่นเป็นกันชน ไม่มีหน้าต่างที่เปิดอยู่ และการพูดคุยก็ยากที่จะดักฟังได้

เมื่อลุงวีเห็นคุณท่านซ่งจริงจังขึ้นมาในทันที ก็มีความรู้สึกคุ้นเคยอย่างหนึ่งที่หายไปนาน

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

Status: Ongoing

เย่เฉินเป็นเขยแต่งเข้าบ้านหญิงที่ใครๆก็ดูถูกเหยียดหยาม แต่ไม่มีใครรู้ว่าฐานะแท้จริงของเขาเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลอันดับต้นๆ พวกที่เคยดูถูกเขาสุดท้ายก็ต้องคุกเข่าต่อหน้าเขาและเรียกเขาด้วยความเกรงกลัวว่าท่านชาย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท