บทที่ 2038
นั่นก็คือ ภารกิจที่สำคัญที่สุดตลอดชีวิตนี้ของเธอ ก็คือพยายามรับใช้พ่อซูโสวเต้าผู้ให้กำเนิดของเธอรวมทั้งตระกูลซูทั้งหมดจนถึงที่สุด
ความเชื่อนี้ เป็นแบบนี้นานมาแล้ว กลายเป็นความเชื่อที่ไม่เปลี่ยนแปลงในชีวิตของเธอ
ซูรั่วหลีถูกแม่ของเธอล้างสมองตั้งแต่ยังเด็ก และล้างมายี่สิบปีเต็มๆ
ดังนั้น ตราบใดที่เป็นประโยชน์ต่อตระกูลซู แม้ว่าจะให้เธอเป็นศัตรูกับโลกทั้งใบ เธอก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อย
หากมีใครกล้าทำให้ตระกูลซูเสียเปรียบ ถ้าอย่างนั้นก็สะกิดต่อมมโหของเธออย่างเฉียบขาด!
นี่ก็เป็นเหตุผลว่า ทำไมเธอถึงได้ฆ่าล้างตระกูลตระกูลมัตสิโมโตะทั้งหมด!
เธอกับเย่เฉินไม่เพียงแต่มีความแค้นใจเท่านั้น ก็มีความแค้นของตระกูลด้วย!
เป็นเพราะเย่เฉินหลอกเธอรวมทั้งยอดฝืมือคนอื่นอีกห้าสิบกว่าคน ถึงได้ทำให้ปราณต้นทุนแต่กำเนิดของตระกูลซูได้รับบาดเจ็บสาหัส
และสูญเสียอย่างหนัก
ดังนั้น ตอนนี้เธอไม่เพียงจะต้องแก้แค้นเพื่อตัวเอง และก็ต้องเพื่อแก้แค้นตระกูลชู!
ในเวลานี้ ระยะห่างระหว่างเรือทั้งสองลำนั้นเหลือเพียงสองร้อยเมตรเท่านั้น
แม้จะไม่ต้องพึ่งพากล้องส่องทางกล ซรั่วหลีก็สามารถที่จะมองเห็นใบหน้าของเย่เฉินได้อย่างชัดเจน รวมทั้งรอยยิ้มแปลกประหลาดบน
ใบหน้านั้นของเขา
รอยยิ้มนี้ ทำให้ตอนนี้เธอรู้สึกว่าเคยเห็นมาก่อน!
ตอนนั้นท่าอากาศยานโอซาก้า ตอนที่ตัวเองกับยอดฝีมือคนอื่นของตระกูลซุถูกกองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดินญี่ปุ่นจับขึ้นรถบัสแล้ว
พาตัวไป เย่เฉินยืนอยู่ในห้องนักบินของเครื่องบินส่วนตัว ตอนที่มองตัวเอง บนใบหน้าก็มีรอยยิ้มแบบนี้อยู่!
ในขณะนี้ ซูรั่วหลีถึงตระหนักได้ว่า เย่ฉินกำลังมองตัวเองอยู่ตลอดเวลาจริงๆ
ตั้งแต่เริ่มแรกก็ใช่แล้ว ตอนนี้ก็ใช่อยู่
ในใจของเธออดไม่ได้ที่จะแปลกใจ ไอ้หมอนี่ หรือว่ารับรู้ได้ว่าตัวเองกำลังสังเกตการณ์เขาอยู่เหรอ?!
ในทะเลอันกว้างใหญ่นี้ ยิ่งไปกว่านั้นก็อยู่ในกลางดึก ห่างออกไปหลายพันเมตร หรือว่าเขาก็ค้นพบว่าตัวเองแล้วเหรอ?!
อันที่จริงแล้ว เธอไม่รู้ว่า เย่เฉินไม่เพียงแค่รับรู้ได้ว่าเธอกำลังสั่งเกตการณ์ตัวเอง ถึงขนาด ยังรับรู้ตัวตนของเธอด้วย!
ตอนที่ซูรั่วหลีตกตะลึงเป็นอย่างมาก ระยะห่างระหว่างเรือทั้งสองลำยิ่งอยู่ก็ยิ่งใกล้เข้ามากเรื่อยๆ!
หนึ่งร้อยเมตร ห้าสิบเมตร สามสิบเมตร!
ดวงตาของซูรั่วหลีแดงก่ำ และตะโกนใส่กัปตันเรือว่า: “เร่งความเร็วต่อไป! ชนเดี่ยวนี้!”
กัปต้นตะโกนเสียงดังว่า: “คุณหนูชู แรงขับของเครื่องยนต์ถูกขับไปถึงขีดสุดแล้ว!”
ซูรั่วหลีตะโกนว่า: “ยังมีอีกยี่สิบเมตรสุดท้าย ทุกคนเตรียมพร้อมที่จะลุยได้เลย!”
ทันทีที่เสียงของทางซูรั่วหลีนี้ลดลง เย่เฉินก็พูดเสียงดังด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าว่า: “เฮ้ย เรือก็ซื้อด้วยเงิน ชนบ้าอะไรชน! ชนพังไม่ต้องใช้
เงินซ่อมเหรอ?”
ข้างใน
ซูรั่วหลีตะลึงจนตาค้างในทันที และอ้าปากพูดว่า: “เขา…เขาได้ยินคำพูดของฉันได้ยังไง?!”
ชูรั่วหลีในเวลานี้ อยู่ในสะพานเดินเรือ
กั้นด้วยประตูหน้าต่างกระจก รวมทั้งเสียงลมและเสียงคลื่นข้างนอก ต่อให้ยืนอยู่หน้าประตู ก็ไม่เป็นไปไม่ได้ที่จะได้ยินคนพูดอะไรอยู่
ยิ่งไปกว่านั้น นี่ยังอยู่ห่างออกไปยี่สิบเมตร
กัปตันยังตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดโดยไม่รู้ตัวว่า: “คุณหนูซู คลื่นลมช้างนอกใหญ่ขนาดนี้ ยังห่างไกลขนาดนี้ ทำไมเสียงที่เขาพูด
พวกเราสามารถได้ยินอย่างชัดเจน?!”
เมื่อชูรั่วหลีได้ยินคำพูดนี้ ก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก! และแอบพูดในใจว่า: “นั่นนะสิ! เมื่อกี้นี้เขาพูดก็เหมือนราวกับว่าอยู่ข้างหู นี่มันทำได้ยั่ง
ไงกันแน่?!”
ในเวลานี้ กัปตันเห็นว่าเธอไม่ตอบสนอง และอดไม่ได้ที่จะอ้าปากถามว่า: “คุณหนูซู ตอนนี้ทำยังไงกันดี?!”
ซูรั่วหลีไม่รู้จะทำยังไงในทันที
ระยะห่างระหว่างเรือทั้งสองลำ เหลือเพียงสิบเมตรกว่าเท่านั้นแล้ว
ในเวลานี้เย่เฉินยังคงพูดด้วยรอยยิ้มต่อไปว่า: “ฉันเตือนพวกแกคิดให้มากๆ เกิดเรื่อทั้งสองลำชนเข้าหากันทุกคนก็จะถูกทิ้งให้อยู่ในทะเล
อันกว้างใหญ่ เป็นไปได้มั้ยว่าจะโทรศัพท์หากองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดินญี่ปุ่นมาช่วยเหรอ?”
พูดแล้ว เย่ฉินก็พูดเสริมว่: “แต่ว่าฉันไม่กลันะ แต่พวกแกล่:? บนเรื่อมีนักโทษร้ายแรงคนหนึ่งที่กำลังหลบหนีอยู่ ถ้าหากถูกกองกำลัง
ป้องกันตนเองภาคพื้นดินญี่ปุ่นจับตัวไว้ได้ คงจะถูกยิงตายในทันทีหรือเปล่านะ”