บทที่ 2131
เมื่อได้ยินการจัดเตรียมของคุณท่าน ซูโสว่เต้าเกือบจะกระอักเลือดเก่าออกมาจากปาก!
“ทั้งๆที่คุณท่านแมร่งทำส่งเดชทำเรื่องใหญ่โตออกมา ผลปรากฏว่าฉันกลับต้องไปที่ออสเตรเลียเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์หน้าสิ่วหน้า
ขวานเหรอ? นี่แมร่งเรียกว่าเรื่องอะไรกันเนี่ย?”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขารีบเอ่ยปากพูดว่า: “อ ช่วงนี้พ่อให้ผมไม่ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณะ ผมยอมรับได้หมด แต่ไม่มีความจำเป็นต้องให้
ผมไปออสเตรเลียมั้ง? บริษัทยั่งมีงานอีกหลายสิ่งหลายอย่าง ทางด้านของไห่ชิงนั้นผมยังต้องคิดหาทางไกล่เกลี่ยขอคืนดีอยู่นะ!”
คุณท่านใหญ่ชูพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “แกอยู่ที่นี่ ปาปารัสซี่จะคอยจับตาดูทุกย่างก้าวของแก ยิ่งไปกว่านั้นแกอย่าลืมนะ ตอนนี้ไม่รู้ว่ามี
ตระกูลมากเท่าไหร่ที่จ้องจะฉวยโอกาสมาสูบเลือดพวกเรามากินเนื้อพวกเรา แก่ก็เป็นจุดพัฒนาของพวกเขา!”
“ดังนั้น ในความคิดของฉัน แกหลบไปที่ออสเตรเลียดีกว่า พวกเรามีคฤหาสน์ริมทะเลอยู่ในคนส์แลนด์ไม่ใช่เหรอ? แกไปพักผ่อนที่นั่น
ดีๆ เรื่องของทางนี้ ฉันจะช่วยแกจัดแจงให้ดี”
ซูโสว่เต้าแทบจะอกแตกแล้ว
เขาแอบพูดในใจด้วยความโกรธเคือง: “ในเวลานี้ให้ฉันไปออสเตรเลีย นี่เห็นได้ชัดว่าให้ฉันเป็นเป้าเคลื่อนที่ดึงดูดแรงกระสุนไม่ใช่เหรอ?
ถ้าฉันไม่ไปยังจะดีกว่า อยู่กายใต้การรับรู้ของโลกภายนอกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่ยังเป็นคุณท่านขายหลานสาว ถ้าฉันหนีไปแล้ว งั้นก็ยังไม่รู้ว่าคน
พวกนี้จะเล่นงานฉันยังไง!”
“ยิ่งไปกว่นั้น ตอนนี้ฉันเป็นรองประธานบริหารของบริษัท เป็นรองประธานมาตรฐานของบริษัท ถ้าฉันหนีไปแล้ว ใครจะมารับงานของ
ฉัน? หรือว่าให้ซูโสว่เต๋อมารับงั้นเหรอ? ถ้ไอ้สารเลวซูโสว่เต้านี้มารับงานของฉัน งั้นรอตอนที่ฉันกลับมา รองประธานกรรมการบริหารก็เป็นของ
เขาแล้ว งั้นฉันก็จะถูกปล่อยลอยนวลไม่ใช่เหรอ?!”
ขณะที่ซูโสว่เต้าพยายามคิดหาทางอยากจะปฏิเสธการจัดเตรียมกรนี้ของคุณท่าน ซูเฉิงเฟิงเอ่ยปากสั่งกรในทันทีว่า: “โสว่เต่อ แก
ช่วยจัดเตรี่ยมเครื่องบินให้พี่ชายแกด้วย ก็ให้เขารีบออกเดินทางในคืนนี้ งานของเขาในบริษัท ต่อไปมีแกมาจัดการดูแลชั่วคราวไปก่อน”
เมื่อซูโสว่เต๋อได้ยินคำพูดนี้ ภายในใจตื่นเต้นจนแทบจะไชโยโห่ร้องขึ้นมา
แต่ทว่า เขายังยังคงระงับความตื่นเต้นภายในใจ และพูดด้วยความเคารพว่า”พ่อครับพ่อวางใจได้ ผมจะไปจัดเตรียมเครื่องบินเดี่ยวนี้!”
ซูโสว่เต้าพูดอ้อนวอนว่า: “พ่อ ต่อให้พ่อให้ผมไป พ่อได้โปรดผ่อนผ้นให้ผมสักสองวัน อย่างน้อยให้ผมได้พูดคุยกับไห่ชิงดีๆค่อยว่ากัน
นะ!”
ซูเฉิงเฟิงโบกมือㆍ “ไม่มีอะไรต้องคุยกัน ด้วยความเข้าใจที่ฉันมีต่อตู้ไห่ชิง เธอไม่มีทางที่จะคืนดีกับแก ดังนั้นแกรีบตัดปัญหายุ่งเหยินก่อน
จะดีกว่า หย่ากับเธอซะ!”
“ผม….น้ำเสียงของซูโสว่เต้าแทบจะร้องไห้แล้ว
นี่ถ้าจำเป็นต้องไปจริงๆ ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่ล่าช้าก็มากเกินไปแล้ว
ไม่เพียงแค่เรื่องของภรรยา ยังมีเรื่องตำแหน่งของทายาทบริษัทด้วย ยิ่งไปกว่านั้นเขายังอยากจะตามที่อยู่ของซูรั่วหลีดีๆ เนื่องจากว่า
เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง ตอนนี้เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้ ก็ต้องคิดหาทางตามหา ถ้าเกิดเธอยังมีชีวิตอยู่ล่ะ?
ถ้าหากตัวเองตามหาเธอพบ ยังสมารถคิดหาทางแอบไปจัดการที่พักพิงให้เธอได้ ให้เธอไปที่มุมหนึ่งของโลกนี้และใช้ชีวิตด้วยการ
เปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามไม่ให้คนอื่นรู้
แต่ถ้าหากคนอื่นในตระกูลซุพบเธอ หรือว่าทางด้านประเทศญี่ปุ่นพบเธอ ถ้าอย่างนั้นเธอต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
ซูเฉิงเฟิงเห็นเขาไม่เต็มใจที่จะตกลง ก็ตะคอกด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมในทันที: “แกเป็นอะไร? หรือว่าแกถึงขนาดไม่ทำตามการจัดเตรียม
การของฉันงั้นเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ซูโสว่เต้าก็ตระหนักในทันทีว่า ตัวเองไม่มีช่องว่างให้ใกล่เกลี่ย เพื่อไม่ให้คุณท่านโกรธ เขาทำได้เพียงพยักหน้าเบาๆ
และพูดว่า: “ได้ครับพ่อ ผมจะฟังพ่อ ไปคืนนี้”
ซูเฉิงเฟิงถึงได้พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ และโบกมือพูดว่า: “เอาล่ะ แกกล้บไปเก็บข้าวของ บอกกล่าวกับจือเฟยกับจือหยู อีกหนึ่ง
ชั่วโมงออกเดินทาง”
ขณะที่ซูโสว่เต้าเพิ่งถูกพ่อบ้านเรียกออกไป ซูจือเฟยและซูจือหยู ยั่งอยู่ในห้องหนังสือ มองดูหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างไม่หยุดหย่อน
หลังจากที่ตู้ให่ชิงแม่ของพวกเขาจากไป ระหว่างทางที่ขับรถกลับไปที่บ้านแม่ ก็โทรหาพวกเราสองพี่น้อง
ในโทรศัพท์ ตู้ให่ชิงบอกเรื่องราวที่เกี่ยวกับซูรั่วหลีให้พวกเขาอย่างใจเย็นมาก ซูจือเฟยและซูจือหยูต่างตกใจกับข่าวนี้จนพูดอะไร่ไม่
ออก