เย่เฉินยิ้ม “ไม่เป็นไร ถ้าเสียหายต่อเศรษฐกิจ มากสุดฉันชดใช้ให้แก ฉันชิลล์ๆอยู่แล้ว ก็แค่เงินป้ะ?แกลองถามที่เมืองจินหลิงดู ว่าอาจารย์เย่ขาดแคลนเงินเมื่อไหร่กัน?”
Walterยังอยากคิดหาข้ออ้างปฏิเสธ แต่เย่เฉินได้เอากล้องหน้าจ่อไว้ที่หน้าเขาแล้ว
จะว่าไป ระบบการจดจำใบหน้าของมือถือใช้ดีมากจริงๆ
แม้แก้มของWalterจะบวมเปล่ง มือถือยังคงปฏิบัติการปลดล็อกผ่านใบหน้าของเขาได้อยู่ดี
มือถือของWalterเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด แต่สำหรับเย่เฉินแล้ว ไม่ได้เป็นปัญหาใดๆเลย
แม้เข้าไม่เคยเรียนมหาวิทยาลัย แต่ตอนเด็กๆเข้าได้รับการศึกษานานาชาติขั้นสูง เหมือนกับโรงเรียนนานาชาติในตอนนี้ เติบโตมากับการเรียนในสภาพแวดล้อมหลายภาษาตั้งแต่เด็ก
โดยเฉพาะแม่ของเย่เฉิน โดยส่วนตัวเป็นคนเชื้อสายจีนของสหรัฐอเมริกา ภาษาอังกฤษเป็นหนึ่งในภาษาแม่ของเธอ และเธอได้รับการศึกษาผู้ดีขั้นสูงตั้งแต่ยังเด็ก แต่เพียงชำนาญภาษาอังกฤษและภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาฝรั่งเศสอีกทั้งภาษาสเปนล้วนเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
ที่หัวเซี่ย คนหนึ่งได้หลายภาษาเหมือนจะเจอได้น้อยมาก นี่หลักๆเป็นเพราะแต่เดิมหัวเซี่ยไม่ได้เป็นประเทศลี้ภัย ประชากรพันกว่าล้านคนโดยส่วนใหญ่ล้วนพูดภาษาจีน
แต่สหรัฐอเมริกาไม่เหมือนกัน
แต่เดิมสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศลี้ภัยประเทศหนึ่ง มีคนยุโรปที่พูดภาษาอังกฤษเยอะ และมีคนหัวเซี่ยที่พูดภาษาจีนมากเช่นกัน เพราะอยู่ใกล้กับแม็กซิโกมาก ดังนั้นคนที่พูดภาษาสเปนก็เยอะมาก
นอกจากนี้ ประเทศญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนามของเอเชีย เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลีของยุโรป ในช่วงสองร้อยปีมานี้ ล้วนมีผู้อพยพจำนวนมากเดินทางลงหลักปักฐานที่สหรัฐอเมริกา
ใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบนี้ ข้อดีที่สุดก็คือได้เจอกับภาษาและวัฒนธรรมของแต่ล่ะพื้นที่ของโลก
ดังนั้น เย่เฉินจึงได้ประโยชน์จากแม่ ได้พื้นฐานภาษาที่ดีมากมาตั้งแต่เด็ก
เปิดมือถือของWalter เรื่องแรกที่เย่เฉินทำคือเปิดข้อความและวีแชท
แม้จะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด แต่ดูๆแล้ว ก็ไม่ยากอะไรเลย
Walterตกใจจนหน้าซีด เขากล่าวอย่างเกือบสิ้นหวังว่า “คุณดูข้อความของผมไม่ได้! นี่มันผิดกฎหมายนะ!”
เย่เฉินพลางเปิดดู พลางพูดเย็นชาว่า “หุบปากของแกไปซะ มิเช่นนั้น ฉันจะหักมืออีกข้างของแกด้วย!”
Walterตื่นตระหนกสุดๆ
ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีแล้ว
ถ้าหุบปากตอนนี้ เย่เฉินต้องเจอหลักฐานที่ตนวางยาพ่อของหวังตงเสวี่ยนจากบันทึกสนทนาแน่ๆ
แต่ ถ้าตนไม่หุบปาก แล้วผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรกัน?
มากสุดก็แค่โดนเย่เฉินหักมืออีกมืออีก จากนั้นก็รอให้เย่เฉินเอาหลักฐานออกมา…
เมื่อนึกถึงจุดนี้ เขาเสียใจสุดๆ ในใจคร่ำครวญว่า “กูแม่งเป็นนักสู้ที่โง่จริงๆ!ทำไมกูต้องมาโรงพยาบาลตอนนี้ด้วยวะ… ทำไม!ถ้าคืนนี้กูไม่มา บางทีก็ไม่ต้องเจอกับไอ้เหี้ยนี่!ถ้าไม่เจอไอ้เหี้ยนี่ ก็ไม่ต้องถูกทรมานอย่างอนาถแบบนี้!”
“ถูกทรมานก็ว่าแล้ว!ถ้ามันเจอหลักฐานที่กูสั่งกานให้คนอื่นวางยาพ่อของหวังตงเสวี่ยนล่ะ งั้นกูก็จบเห่นะสิ!ตำรวจของหัวเซี่ยจะต้องฟ้องกูในคดีฆ่าโดยไตร่ตรองแน่ๆ…”
“ถ้าเป็นแบบนั้น ไม่ใช่ว่ากูต้องเผชิญติดคุกอย่างน้อยเจ็ดแปดปี ถึงขั้นหลายสิบปีเหรอวะ?!”