เดิมทีซูเฉิงเฟิงคิดว่า ไหม้เฉิงซินอาจจะรู้ล่วงรู้เหตุการณ์อันตราย ดังนั้นจึงหนีไปก่อน แต่เขาคิดไม่ถึงว่า คนที่โทรมาจะเป็นบุคคลลึกลับที่ตัวเขาเองเฝ้าตามหาอย่างยากลำบาก!
คนที่อยากตามหามาตลอด อีกทั้งอยากกำจัดอีกฝ่ายทิ้งซะ แต่จู่ๆกลับถูกอีกฝ่ายล่วงรู้ และถูกอีกฝ่ายโทรหา มันเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย
วินาที่นี้ ซูเฉิงเฟิงถามอย่างประหม่าว่า“คะ……คุณตั้งใจจะทำอะไรกันแน่?”
เย่เฉินหัวเราะฮ่าๆ“ผมตั้งใจจะทำอะไรน่ะหรอ?ถึงยังไงผมก็ได้ชื่อว่าเป็นคนช่วยชีวิตหลานสาวแท้ๆของคุณไว้ แถมยังช่วยชีวิตลูกสะใภ้ของคุณไว้อีก ถือได้ว่าเป็นผู้มีพระคุณของตระกูลซู ผมจะมีความคิดชั่วร้ายอะไรได้ล่ะ?นอกเสียจากอยากหาโอกาสจังหวะเหมาะๆนั่งดื่มเหล้าพูดคุย สรวลเสเฮฮากับคุณท่านใหญ่ซูก็เท่านั้นเอง”
“คุณ……”ซูเฉิงเฟิงรู้สึกกระวนกระวายใจ อดที่ถามขึ้นมาไม่ได้ว่า“ผมกับคุณไม่เคยพบเจอกันมาก่อน ต้องทำอย่างไรคุณถึงจะยอมจบ?”
เย่เฉินหัวเราะ“คุณท่านใหญ่ซู จะให้จบน่ะไม่มีวันหรอกครับ ที่ผมโทรมา ไม่ได้อยากมาคุยเจรจาสงบศึกกับคุณ แต่เพื่อมาบอกคุณว่า ก่อนหน้าวันนี้ คุณต่อกรกับผมก่อนนะ พยายามเจตนาตามหาผม”
“แต่หลังจากวันนี้ไป กติกาเกมจะเปลี่ยนไปแล้วล่ะ!”
“ตอนนี้ ตาผมเป็นคนไปหาคุณบ้าง!”
“หวังว่าคุณจะซ่อนตัวในซูหางให้ดีล่ะ อย่าให้ผมตามหาเจอง่ายๆแล้วกัน เพราะถ้าเป็นแบบนั้น เกมมันจะไม่สนุกเอาได้”
พูดจบ เย่เฉินก็วางสายไป แล้วจัดการปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือของไหม้เฉิงซินอีกครั้ง
เย่เฉินพึ่งปิดเครื่องเสร็จ ซูจือหยูที่อยู่ข้างๆถึงกับตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก
แต่เฉินจื๋อข่ายก็อดที่ถามไม่ได้ว่า“คุณชายครับ คุณวางแผนจะจู่โจมก่อน เพื่อคิดบัญชีกับซูเฉิงเฟิงหรอครับ?”
“จะเป็นไปได้ยังไง……”เย่เฉินหัวเราะ แล้วพูดอย่างหยอกล้อว่า“ถ้าผมไปคิดบัญชีกับซูเฉิงเฟิงในตอนนี้ มันจะเป็นการยกผลประโยชน์ให้ลูกหลานคนที่เหลือของเขากับคนตระกูลเย่ไม่ใช่หรอ?”
พูดจบ เย่เฉินก็พูดขึ้นมาอีกว่า“ถ้าผมฆ่าซูเฉิงเฟิงไป แทนที่ผมจะได้รับผลประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย กลับกันจะเป็นการทำให้ฝันของคนในตระกูลซูที่อยากแบ่งมรดกของตระกูลซูเป็นจริงน่ะสิ ถึงเวลานั้นตระกูลเย่เองก็สามารถนั่งเก็บแหได้อย่างราบรื่น เป็นผมที่จะไม่ได้อะไรเลย ผมไม่มีทางทำเรื่องโง่ๆแบบนั้นหรอก”
เฉินจื๋อข่ายถามอย่างไม่เข้าใจ“แล้วเมื่อกี้ทำไมคุณต้องพูดกับซูเฉิงเฟิงแบบนั้นด้วยครับ?”
เย่เฉินหัวเราะแล้วพูดว่า“แค่ขู่เขาเท่านั้นเอง ไอ้หมาแก่หงำเหงือกตัวนี้วันๆเอาแต่ชักใยหุ่นเชิดอยู่เบื้องหลัง เมื่อหุ่นเชิดมีปัญหา เขาก็คิดจะตัดใยเพื่อป้องกันความเสี่ยง จากนี้เป็นต้นไปเรื่องดีๆแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”
พูดจบ เย่เฉินก็พูดแกมหยอกว่า“คุณเชื่อไหม ตาแก่นี่มีแนวโน้มจะตกใจจนขวัญเสีย”
“ผมเชื่อครับ!”เฉินจื๋อข่ายหัวเราะ“ซวนเฟิงเหนียน ไหม้เฉิงซินหายตัวไป แถมคุณยังบอกว่าจะจู่โจมเขาก่อน เขาจะต้องกลัวแทบแย่แน่!”
เย่เฉินหัวเราะ“ผมโทรหาเขา เพื่ออยากจะตีกระทบเขาเสียหน่อย จะได้ให้ความกดดันกับเขา”
เฉินจื๋อข่ายพยักหน้าแล้วหัวเราะ“ผมคาดว่าวันนี้เขาน่าจะเก็บหางแล้วรีบหนีจากซูหางแล้วล่ะ”
เย่เฉินกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า“ผมคิดว่าตอนนี้ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของเขา น่าจะเป็นการที่ไม่รู้จะหนีไปไหน ถ้าอยู่ในประเทศต่อไป ไม่ว่ายังก็จะต้องถูกพบเข้าได้ง่าย ออกนอกประเทศถึงแม้จะปลอดภัย แต่เขาจะต้องไปกล้าไปแน่”
เฉินจื๋อข่ายถามอย่างไม่เข้าใจ“เพราะอะไรครับ?”
เย่เฉินถามเขากลับ“ถ้าคุณเป็นฮ่องเต้ในอดีต คุณกล้าหนีออกจากประเทศของตัวเองไหม?”