I Am A Prodigy ฉันนี่แหละอัจฉริยะ! – ตอนที่ 31

ตอนที่ 31

เขตอนุรักษ์เสิ่นหนงเจี้ยที่ไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่มีความไม่แน่นอนมากเกินไปและเป็นสถานที่ที่ไม่สามารถคาดเดาได้

ความตกใจจากก่อนหน้านี้ทำให้ทุกคนบอบช้ำ พวกเขาไม่กล้าอยู่ที่นี่นานเกินไป ทุกคนรีบเก็บข้าวของและเดินทางกลับเมืองหลวงทันที

“เหย่หลิงเฉิน มาตั้งชื่อให้พวกเขากันเถอะ”

ระหว่างการเดินทางดวงตาของเสี่ยวเฟยเฟยจับจ้องไปที่ลูกหมาป่าทั้งสองตัวและพูดว่า “หนึ่งในนั้นเป็นสีดำ อีกตัวเป็นสีเทา ทำไมเราไม่ตั้งชื่อพวกเขาว่า เกรย์ กับ แบล็ค ล่ะ? เป็นที่จับใจและจำง่ายด้วย”

“ได้สิ” เหย่หลิงเฉินตอบพร้อมกับพยักหน้า

“เหย่หลิงเฉิน เธอต้องระวังด้วยนะ หมาป่ากับสุนัขไม่เหมือนกัน” หลินเตือนเขา “เธอยังจำเรื่องราวของมิสเตอร์ตงกั๋วกับหมาป่าได้ไหม”

“จริงสินะ การมีหมาป่าเป็นสัตว์เลี้ยงดูเหมือนจะค่อนข้างอันตรายและพวกเรากับมันแทบจะไม่รู้จักกันเลย” เสี่ยวเฟยเฟยเริ่มกังวลเช่นกัน “หรือ…เราจะปล่อยพวกมันคืนสู่ธรรมชาติ?”

เหย่หลิงเฉินหัวเราะ “ไม่ต้องกังวลไปน่า ถ้ากลับไปถึงแล้วผมจะทบทวนความรู้ในการเลี้ยงดูสัตว์ ไม่เป็นไรหรอกนะ”

ด้วยระบบอัจฉริยะ เหย่หลิงเฉินเชื่อว่าเขาสามารถทำให้สัตว์ทุกตัวแม้กระทั่งสิงโตเชื่องได้

ในขณะนั้นผู้กำกับหลี่ก็พูดว่า

“น้องเหย่ ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ”

“ครับ เชิญทางนี้ได้เลย”

“เราได้ถ่ายวิดีโอของเธอตอนที่ต่อสู้กับหมาป่ามา ฉันว่าจะแชร์มันลงบนออนไลน์” เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวเสริมว่า “และแน่นอน เราจะตรวจสอบให้แน่ใจว่าจะไม่มีการรั่วไหลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของย้องเหย่”

“ผมขอดูวิดีโอก่อนได้ไหม”

“แน่นอน!”

ในวิดีโอเหย่หลิงเฉินยังคงแต่งตัวเป็นคนร้ายโดยสวมชุดหนังคลุมด้วยเสื้อคลุมสีดำและสวมหน้ากาก เนื่องจากอุปกรณ์วิดีโอระดับมืออาชีพการบันทึกจึงชัดเจนมาก ทุกรายละเอียดของการต่อสู้ระหว่างเหย่หลิงเฉินและหมาป่าถูกจับภาพอย่างเต็มที่

เพียงแค่ดูวิดีโอนี้ ก็จะทำให้ผู้ชมรู้สึกประหม่าได้ไม่น้อย

“น้องเหย่ น้องคิดยังไง?”

ผู้กำกับหลี่มองไปที่เหย่หลิงเฉินอย่างใจจดใจจ่อ หากต้องอัปโหลดวิดีโอนี้จะส่งผลให้คนทั้งอินเทอร์เน็ตคลั่งไคล้แน่

นั่นเป็นการต่อสู้ระหว่างคนที่ไม่มีอาวุธกับหมาป่า! วิดีโอนี้จะต้องเป็นไวรัลและไม่เคยมีคนลงมาก่อน!

ถ้าจะให้พูดโดยตรงซีรี่ส์เรื่อง Legend of the Heroine ก็จะมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

“โอเค ตกลงครับ” เหย่หลิงเฉินดูวิดีโอทั้งหมดและเห็นว่าเขาแต่งตัวเป็นคนร้ายในละครทีวี เขาไม่มีความกังวลว่าจะมีคนสามารถระบุตัวตนของเขาได้

ด้วยความเห็นชอบของเหย่หลิงเฉิน ใบหน้าของผู้กำกับหลี่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “น้องเหย่ เธอไม่สนใจที่จะเข้าสู่วงการบันเทิงจริง ๆ เหรอ?”

หลังจากการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดนี้ หากประกาศตัวตนของเขาต่อสาธารณะล่ะก็ แฟนคลับ ผู้ติดตาม และผู้คลั่งไคล้จะต้องหลั่งไหลมาจำนวนนับไม่ถ้วน! เมื่อถึงเวลานั้นเขาก็จะได้รับการยกระดับให้เป็นซุปเปอร์สตาร์กังฟูและเพิ่มมูลค่าตัวของเขาอย่างทวีคูณ!

เหย่หลิงเฉินส่ายหัว

กลับมาที่ Capital City พวกเขาพักผ่อนกันหนึ่งคืน จากนั้นก็ไปถ่ายทำต่อในวันรุ่งขึ้นที่กองถ่าย

สามวันต่อมา ฉากทั้งหมดในละครทีวีที่เกี่ยวข้องกับเหย่หลิงเฉินได้ถ่ายทำเสร็จแล้ว

อีกเพียงสองวันก็จะเปิดเทอมใหม่แล้ว เหย่หลิงเฉินเตรียมที่จะมุ่งหน้าไปมหาวิทยาลัยเพื่อลงทะเบียน

“น้องเหย่ จะให้ฉันใส่ชื่อเธอว่าอะไรในรายชื่อนักแสดง?” ผู้กำกับหลี่ถาม

“ แค่ใช้… ตัว Y ก็พอครับ” เหย่หลิงเฉินตอบอย่างไม่เป็นทางการ

ผู้กำกับหลี่พยักหน้าพร้อมบันทึกชื่อแล้วถามว่า “แล้วเรื่องค่าจ้างของเธอ…ฉันคิด 50,000 หยวนต่อตอน น้องเหย่คิดว่ายังไง โอเคไหม”

50,000 หยวนต่อตอนเป็นราคาสำหรับคนดัง C-list อยู่แล้ว

ด้วยมูลค่าปัจจุบันของตัวเหย่หลิงเฉินเอง การจ่ายเงินครั้งนี้ถือว่าเหลือเชื่อ

หลังจากที่เห็นว่าเหย่หลิงเฉินเห็นด้วยกับสิ่งนี้ ผู้กำกับหลี่ก็ยิ้มได้ทันที “ซีรีส์ทางทีวีเรื่องนี้มีทั้งหมด 35 ตอน น้องเหย่ร่วมแสดงทั้งหมด 28 ตอน ซึ่งมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น… 400,000 หยวน เดี๋ยวฉันจะโอนเงินให้เธออีกทีนะ”

“ขอบคุณครับผู้กำกับการหลี่”

หลังจากที่เขาปฏิเสธอย่างสุภาพกับเสี่ยวเฟยเฟยและผู้กำกับหลี่ที่จะอาสาขับรถไปส่งเขาที่มหาวิทยาลัยแล้ว เหย่หลิงเฉินก็ขึ้นรถบัสที่มุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยปักกิ่งทันที

Hengdian Studios ตั้งอยู่ที่ชานเมือง Capital City ดังนั้นคงจะใช้เวลาอีกสองชั่วโมงกว่าจะถึง

เหย่หลิงเฉินนั่งถัดจากหญิงสาวที่สวมชุดสีเขียวอ่อนผมยาวคลุมไหล่ จากด้านข้างใบหน้าของเธอดูบอบบางและน่าพึงพอใจ กลิ่นหอมอันน่าหลงใหลของหญิงสาวที่ลอยมาโดยไล่กลิ่นเหม็นอับในรถบัส

เธอกอดกระเป๋าเป้ไว้ในอ้อมแขน บนกระเป๋ามีตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง

นี่อาจจะเป็นรุ่นพี่?

“คุณเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งเหรอครับ? ผมชื่อเหย่หลิงเฉิน เป็นน้องใหม่ในภาคการศึกษานี้” เหย่หลิงเฉินกล่าวทักทาย

อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายไม่ได้มองข้ามและตอบกลับด้วยเสียงฮึดฮัดเล็กน้อย

เสียงของเธอเย็นชาเป็นน้ำแข็ง

ในที่สุดเหย่หลิงเฉินก็สามารถเห็นความงามที่น่าเบื่อหน่ายของเมืองได้ในที่สุด

เขาไม่ได้ใส่ใจ และหันหน้านั่งชมวิวข้างทาง

ในไม่ช้าความสงบเงียบนี้ก็ถูกรบกวนด้วยเสียงเด็กร้องไห้…

เสียงร้องดังขึ้นข้างหลังเหย่หลิงเฉิน เป็นหญิงชราคนหนึ่งนั่งอยู่ ถัดไปเป็นชายวัยกลางคน และเขาเห็นหญิงชราอุ้มทารกไว้ในอ้อมอก

เสียงร้องไห้ดังอยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมง ผู้โดยสารเริ่มหงุดหงิด แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้

เหย่หลิงเฉินไม่สามารถต้านทานการมองไปที่ด้านหลังด้วยการขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาเพียงแค่เห็นหญิงชรายังคงอุ้มทารกไว้ในอ้อมแขนของเธออย่างไม่ใส่ใจราวกับว่าเธอได้ลืมไปเสียงร้องของเด็กไปแล้ว

อย่างไรก็ตามชายวัยกลางคนมองซ้ายขวาตลอดเวลาอย่างหวาดระแวง

“นี่คุณ ทำอะไรสักอย่างได้ไหมครับ? ช่วยปิดปากเด็กได้ไหม” เหย่หลิงเฉินกล่าวอย่างเย็นชาพร้อมกับหันศีรษะไปที่หญิงชรา ดวงตาของเขาเผยให้เห็นถึงความรำคาญ

“ฉันขอโทษค่ะ เด็กคนนี้แค่หิว แม่ของเขาไม่อยู่ที่นี่ด้วย” หญิงชราตอบ

“อย่ามาไร้สาระ ปิดปากเด็กคนนั้นเดี๋ยวนี้!” เหย่หลิงเฉินเรียกร้องอย่างไร้ความปราณี

“ทำไมคุณถึงเป็นคนแบบนี้? ไม่ใช่เรื่องปกติเหรอที่เด็กจะร้องไห้? ใครบ้างที่จะไม่ร้องไห้ในขณะที่พวกเขายังเป็นทารก” ชายวัยกลางคนมองเขาอย่างคุกคาม

“แล้วผมได้ไปรบกวนคุณตอนที่ผมร้องไห้ไหม” เหย่หลิงเฉินตอบด้วยใบหน้าที่อดทนไม่ท้อถอย

ด้วยความขัดแย้งนี้ผู้โดยสารทุกคนเปลี่ยนวิธีที่พวกเขามองไปที่เหย่หลิงเฉิน พวกเขาทั้งหมดจ้องมองเขาอย่างไม่เป็นมิตร

ข้างเขาหญิงสาวส่งเสียงฮึดฮัดด้วยความรังเกียจจากนั้นก็ขยับร่างกายของเธอโดยย่อตัวห่างจากเหย่หลิงเฉิน

“ผมถามว่าเด็กคนนี้เป็นหลานของคุณหรือเปล่า? คุณจะออกมาได้อย่างไรถ้าไม่ต้องเอานมมาด้วย” เหย่หลิงเฉินยังคงบ่นอย่างไม่อดทน

การแสดงออกของหญิงชราและชายวัยกลางคนเปลี่ยนไปเล็กน้อยโดยแลกเปลี่ยนสายตาซึ่งกันและกัน เลิ่กลั่ก ๆๆ

“ฉัน.. ฉันขอโทษ เราจะลงจากรถบัสเอง” หญิงชราอุ้มทารกและเตรียมที่จะลงจากรถ

อย่างไรก็ตามเหย่หลิงเฉินลุกขึ้นยืนขวางเส้นทางของพวกเขา “คุณจะออกไปแบบนี้หลังจากที่มีปัญหากับผมงั้นเหรอ?”

“แล้วคุณต้องการอะไร” ชายวัยกลางคนทำให้เหย่หลิงเฉินมองเห็นแววตาของการฆาตกรรม

“ชดใช้ฉัน! เป็นค่าธรรมเนียมการบาดเจ็บ!”

กรี๊ดดดดดดดด!

ในทันใดนั้นผู้โดยสารมองไปที่เหย่หลิงเฉินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชิงชัง

“นี่ไอ้น้อง ทำไมนายถึงไม่มีเหตุผลแบบนี้ล่ะ? ทำไมต้องไปทะเลาะกับเด็กด้วย”

“เธอดูเหมือนนักศึกษามหาวิทยาลัยนะ นักศึกษาสมัยนี้นี่มาตรฐานคุณภาพตกต่ำได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ”

ชายหนุ่มที่ถูกยั่วยวนลุกขึ้นยืน เขาสวมแว่นตากรอบดำแต่งตัวเหมือนชนชั้นสูง “เพื่อนเอ๋ย เราทุกคนก็ล้วนแต่ลำบากด้วยกันทั้งนั้น พวกเขาเป็นเพียงแค่หญิงชรากับเด็ก ถ้าเธอขืนจะทำแบบนี้ต่อ ความเป็นมนุษย์ของคุณอยู่ที่ไหน”

“นี่ไม่ใช่เรื่องของนาย หุบปากซะ!” เหย่หลิงเฉินไม่ได้มองเขาด้วยซ้ำ “ไหนใครมีปัญหาอีกไหม มา มาเจอกับฉันนี่!”

“พอได้แล้ว!!!!”

หญิงสาวข้าง ๆ เขาลุกขึ้นทันที เธอจ้องมองไปที่เหย่หลิงเฉิน “ที่เธอทำแบบนี้ก็เพื่อเรียกร้องความสนใจจากฉัน อยากโชว์แมนเพื่อดึงดูดความสนใจจากฉันสินะ?!”

มุมริมฝีปากของเธอโค้งขึ้นเล็กน้อยและแสดงรอยยิ้มที่เย็นชา “ฉันจะบอกเธอให้เอาบุญนะ การกระทำของเธอมันน่ารังเกียจ กลั่นแกล้งผู้ที่อ่อนแอกว่า เธอมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย น่าขยะแขยง!”

I Am A Prodigy ฉันนี่แหละอัจฉริยะ!

I Am A Prodigy ฉันนี่แหละอัจฉริยะ!

ตอนที่ 1-20 คลิก

“เหย่หลิงเฉิน” เด็กมัธยมธรรมดาๆ คนนึงที่ต้องพยายามอย่างหนักกับการสอบและแบกรับความคาดหวังจากพ่อแม่ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปหลังจากการตื่นขึ้นจากความฝันแปลกๆ ของเขาคือ เขาได้รับ “ระบบอัจฉริยะ” จากจุดเริ่มต้นนี้ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป เขาสามารถอ่านหนังสือและเข้าใจในเนื้อหาได้อย่างทันที ฟังและเข้าใจเนื้อหาการบรรยายได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงได้รับรู้เทคนิคการใช้แผงควบคุมระบบอัจฉริยะของตัวเองอีกด้วย การเรียนรู้สำหรับฉันมันไม่เคยง่ายขนาดนี้มาก่อน นี่สินะที่เขาพูดกันว่าความรู้คือพลัง! ตอนนี้ฉันสามารถเข้าถึงพลังที่ไร้การควบคุมได้อย่างมากมายเต็มไปหมด! ความรู้สึกจะเป็นอย่างไรกันหากได้กลายเป็น “อัจฉริยะ” ในชั่วข้ามคืน มาร่วมติดตาม “เหย่หลิงเฉิน” ในการเดินทางครั้งนี้เพื่อค้นหาความสามารถที่ไร้ขีดจำกัดกันเถอะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท