ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน – บทที่ 3264

บทที่ 3264

พูดแล้ว เขาก็นำหน้าไป ก้าวเดินไปยังซุ้มประตูของสุสานบรรพบุรุษตระกูลเย่ และในเวลานี้เย่เฉินก็ก้าวเดินมาถึงด้านล่างของซุ้มประตูสุสานแล้ว

สมาชิกตระกูลเย่นอกจากเย่โจงจั่ว และเย่ฉางซิ่วอาสาวคนเล็กของเย่เฉินแล้ว คนอื่นๆก็ไม่มีใครกล้าเดินไปหน้าเกินไป แต่ละคนต่างก็พยายามเดินถอยหลังทั้งนั้น

แต่ว่า ผู้คนเหล่านั้นที่มาช่วยเหลือเย่เฉิน ต่างก็ยืนอยู่ข้างเย่เฉิน แม้ว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงสามสี่คน ก็ไม่มีสีหน้าที่เกรงกลัวเลยสักนิด

ซูจือหยูแค่มองแวบเดียวก็จำได้ทันทีว่า ชายชราที่เสื้อชุดขาวไว้ทุกข์คนนั้นที่อยู่ในกองทัพทหารคือซูเฉิงเฟิงปู่ของตัวเอง ทันใดนั้นก็พูดถามอย่างตกใจว่า :  ปู่ คุณ……นี่คุณ…… 

ซูเฉิงเฟิงให้ฝันยังไงก็คิดไม่ถึงว่า หลานสาวของตัวเองจู่ๆจะอยู่ที่นี่ด้วย!

แล้วค่อยก้มมองดูชุดไว้ทุกข์ที่ตัวเองสวมใส่อีกครั้ง เขาแค่รู้สึกว่าใบหน้าแก่ๆร้อนผ่าว แทบอยากจะมุดดินหนีเข้าไปแล้ว

ตอนที่กำลังรู้สึกอึดอัด ทันใดนั้นก็เห็นตู้ไห่ชิงที่อยู่ข้างกายของซูจือหยู เมื่อเห็นตู้ไห่ชิงก็รู้สึกตกใจอย่างมาก ในขณะเดียวกันยังนำมาซึ่งสายตาที่ดูถูกเล็กน้อย ใบหน้าก็ยิ่งจะร้อนผ่าวขึ้นแล้ว

ซูเฉิงเฟิงเพิ่งคิดอยากจะหลบหลีกสายตาของตู้ไห่ชิง สุดท้ายกับพบเจอเงาร่างของอีกคนในกลุ่มคนที่ทำให้เขารู้สึกช็อกอย่างมาก!

คิดไม่ถึงว่าจะเป็นหลานสาวอีกคนของตัวเอง ลูกสาวนอกสมรสของซูโสว่เต้า ซูรั่วหลี!

ในเวลานี้ ในใจของซูเฉิงเฟิงรู้สึกช็อกอย่างมาก :  จู่ๆซูรั่วหลีก็ยังมีชีวิตอยู่…… 

 เธอแม่งทำไมถึงอยู่ที่นี่ด้วย?! 

 ยังมีเหอหงเซิ่ง!แม่ง ทำไมสมาชิกตระกูลเหอถึงมาช่วยเย่เฉินแล้ว?! 

ในใจของซูเฉิงเฟิงค่อนข้างโกรธอย่างมาก ลองเปลี่ยนความคิดดู ก็แอบคิดในใจว่า :  สมาชิกตระกูลเหอแล้วจะยังไง?พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสำนักว่านหลงเลยด้วยซ้ำ! 

เย่โจงจั่วในเวลานี้เห็นซูเฉิงเฟิงแล้ว ในใจก็โมโหมากเช่นกัน อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากพูดว่า :  ไอหยา ที่แท้ก็เป็นเพื่อนซูนี่เอง!แกอายุมากขนาดนี้แล้ว นี่ใส่ชุดไว้ทุกข์ให้ใครเหรอ?หรือว่าแกอายุมากขนาดนี้ หาที่พึ่งพิงคนใหม่เจออีกแล้วงั้นเหรอ? 

ใบหน้าของซูเฉิงเฟิงโกรธอย่างมาก โพล่งพูดว่า :  เย่โจงจั่ว แกสนใจเรื่องตัวเองดีกว่านะ!หลังจากวันนี้ไป ตระกูลเย่ของแกมีแค่หนทางแห่งความตายอย่างเดียว!ยังไม่รีบสวมใส่ชุดไว้ทุกข์ คุกเข่าขอความเมตตาอีก ระวังสุสานบรรพบุรุษตระกูลเย่ของแกล้วนแต่ถูกขุดทิ้งจนเกลี้ยง!  

เย่โจงจั่วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมและเฉียบขาดว่า :  ซูเฉิงเฟิงแกมันก็แค่หมาแก่ๆ!ที่ใกล้จะตายแล้ว จู่ๆยังจะมาสวมชุดไว้ทุกข์ให้คนอื่นอีก!ไม่มีความละอายแม้แต่น้อยจริงๆ!ฉันเย่โจงจั่วไม่มีทางเป็นเหมือนหมาแก่ๆอย่างแกหรอกนะ เพื่อผลประโยชน์แล้วจะต้องคอยประจบประแจงอย่างไม่รู้สึกละอายต่อหน้าคนอื่น! 

ซูเฉิงเฟิงลนลาน :  พวกแซ่เย่อย่างพวกแกสุดยอดกันมาก ในเมื่อสุดยอดกันมากขนาดนี้ งั้นก็หาความสุขจากความสามารถตัวเองแล้วกัน! 

ในเวลานี้ ว่านพั่วจวินก้าวมาถึงพร้อมหยุดเดินในระยะสามเมตรตรงหน้าเย่เฉิน

เขสมองไปยังเย่เฉินและคนอื่นๆที่อยู่ตรงหน้า กัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า :  คนแซ่เย่ เมื่อวานฉันให้คนไปบอกพวกแกแล้ว อยากจะมีชีวิตรอด วันนี้จะต้องสวมขาวไว้ทุกข์ คุกเข่าต้อนรับโลงศพพ่อแม่ของฉัน คิดไม่ถึงว่า พวกแกไม่มีใครยอมทำตามสักคน!ดูเหมือนว่าพวกแกแต่ละคนจะไม่กลัวตายกันเลย! 

ในเวลานี้เย่เฉินยิ้มอย่างราบเรียบ:  คนอื่นๆกลัวตายหรือไม่นั้นฉันไม่รู้ ฉันรู้แค่ว่า ฉันไม่กลัว! 

สมาชิกในตระกูลเย่ส่วนใหญ่ต่างก็ตึงเครียดจะตายแล้ว เย่ฉางโคงถึงขั้นกับพูดกับเย่เฟิงด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า :  เร็วเข้า!แอบไปเอาชุดไว้ทุกข์มา! 

เย่เฟิงรีบพยักหน้าแล้ว ค้อมตัวแล้ววิ่งถอยไป หยิบชุดไว้ทุกข์สองชุด ออกมาจากในข้าวของเครื่องใช้ของพิธีกราบไหว้บรรพบุรุษ หลังจากนั้นเขาก็ยัดไว้ในอ้อมแขนอย่างกับเป็นขโมยเลย

สิ่งที่ทำให้เขาไม่คาดคิดก็คือ เย่เห้าก็หยิบชุดไว้ทุกข์สามสี่ชุดออกมาจากกล่องเหล็กที่ใส่ธูป มาไว้ในอ้อมแขนเช่นกัน เหมือนหญิงตั้งครรภ์เลย

สองคนมองตากัน ต่างก็เห็นความตกใจในแววตาของกันและกัน และก็มองเจตนาของอีกฝ่ายออก ทันใดนั้นทั้งสองคนก็ไม่มีใครสนใจใครอีก พร้อมทั้งเบือนหน้าเดินเข้าไปในกลุ่มคนแล้ว

 

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

Status: Ongoing

เย่เฉินเป็นเขยแต่งเข้าบ้านหญิงที่ใครๆก็ดูถูกเหยียดหยาม แต่ไม่มีใครรู้ว่าฐานะแท้จริงของเขาเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลอันดับต้นๆ พวกที่เคยดูถูกเขาสุดท้ายก็ต้องคุกเข่าต่อหน้าเขาและเรียกเขาด้วยความเกรงกลัวว่าท่านชาย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท