วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – บทที่ 5 หยุดเพื่อป้องกันการสูญเสีย

บทที่ 5 หยุดเพื่อป้องกันการสูญเสีย

บทที่ 5 หยุดเพื่อป้องกันการสูญเสีย

จิ่งหนิงเอนตัวไปที่กระจกรถอย่างไร้เรี่ยวแรง เธอมอง ออกไปด้านนอก เป็นภาพของค่ำคืนที่กำลังนับถอยหลัง แล้วกะพริบตาลง

คำพูดของมู่ยั่นเจ๋อเมื่อครู่ยังคงดังก้องอยู่ในหัวของเธอ เธอรู้สึกว่ามันช่างไร้สาระจริงๆ

กี่ครั้งต่อกี่ครั้งการที่จึงเสี่ยวหย่ารังแกเธอโดยไม่ให้คน อื่นรับรู้ แต่เธอก็เงียบไว้ไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอคิด ว่าการทำเช่นนั้นจะแลกมาได้กับชีวิตที่เรียบสงบสุข คิดไม่ ถึงจริงๆว่าอีกฝ่ายกลับทำให้สถานการณ์แย่ลงแบบนี้

เธอไม่ใช่คนอ่อนแอตั้งแต่เกิด เมื่อเธอรู้สึกว่าถูกเอา เปรียบแน่นอนว่าเธอจะต้องสู้กลับ ในสายตาของมู่ยั่นเจ๋อ กลายเป็นว่าเธอรังแกจิ่งเสี่ยวหย่าอย่างนั้นเหรอ?

จึงหนิงถูกขับไล่ออกจากตระกูลจีน ในเมืองจิ้นทุกคน ล้วนรับรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวที่ตระกูลจิ่งไม่ต้องการ โดย เฉพาะอย่างยิ่งคุณนายมู่

เพื่อไม่ให้เขาต้องรู้สึกอึดอัดใจ เธอพยายามหลีกเลี่ยงตัว เองทุกวิถีทาง พยายามไม่ไปปรากฏต่อหน้าสาธารณชน พร้อมกับเขา แต่ในสายตาของเขากลับกลายเป็นว่าเธอไม่ ยอมไปเข้างานเลี้ยงสังสรรค์เป็นเพื่อนเขา!

เรื่องที่ขายของใช้ผู้ใหญ่..
หากไม่ได้เกิดเรื่องนั้นขึ้น หากไม่ใช่เพราะตระกูลจิ่งเห็น แก่ตัวและลำเอียง ชีวิตเธอจะเดินมาถึงจุดที่พังพินาศแบบ นี้ได้เหรอ?

ทั้งหมดนี้ทำไมถึงกลายเป็นความผิดของเธอไป

ได้! ! !

จึ่งหนิงหลับตาแล้วรู้สึกว่าชีวิตช่างตลกและไร้สาระสิ้นดี

ทันใดนั้นเสียงของผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆก็ดังขึ้น “มันคุ้มค่า ไหมที่คุณจะมานั่งร้องไห้เสียใจให้กับผู้ชายแบบนี้ ? ”

จิ่งหนิงตกตะลึงและหันกลับไปมอง แม้เธอจะมองไม่ค่อย ชัดเจนเท่าไหร่แต่ก็ดูออกว่าชายที่นั่งอยู่ตรงนี้มีความเป็น สุภาพบุรุษ ดวงตาของเขาแฝงไปด้วยความเย็นชา

เธอจึงนึกขึ้นมาได้ว่าเหมือนกับเธอจะถูกชายคนหนึ่งทุ่ม เข้ามาในรถ คนๆนั้นช่วยเธอออกมาจากผับ

เมื่อนึกได้ว่ามีคนอื่นอยู่ เธอก็ไม่ได้แสดงท่าทางอ่อนแอ เมื่อสักครู่ออกมาอีก จึงหนิงยกมือขึ้นปาดน้ำตาแล้วพูดว่า “ใครบอกว่าฉันร้องไห้เสียใจเพราะเขา? ”

ลู่จิ่งเซินมองไปที่เธอ สายตาของเขาจ้องไปที่ดวงตา กลมโตและแกล้มสีแดงเรื่อนั้น

จิ่งหนิงรีบอธิบายต่อว่า “ฉันไม่ได้ร้องไห้เพราะเขา แต่

เพราะตัวฉันเอง..”

เธอร้องไห้ให้กับชีวิตในวัยรุ่นของตัวเองที่ใช้อย่างสิ้น เปลืองกับขยะนั่นในหลายปีที่ผ่านมา
ลู่จิ่งเซินพยักหน้าเห็นด้วย

“คุณรู้วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับความล้มเหลวสำหรับ การลงทุนไหม?

“อะไรคะ?

“ต้องหยุดเพื่อไม่ให้สูญเสียมากกว่าเดิม”

ริมฝีปากเรียวบางเขาพูดออกมาทำให้ใจของเธอสั่น

สะท้าน

เธอหันหน้าไปทางเขา ภายใต้แสงไฟสลัว ชายผู้นี้นั่ง หลังตรงสง่า แม้จะเห็นเพียงแค่ครึ่งใบหน้าแต่ก็รู้ได้ว่าเขา หน้าตาดีทีเดียว

ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยเห็นผู้ชายหน้าตาดีมาก่อน เพราะมู่ยั่น เจ๋อก็จัดว่าเป็นคนประเภทนี้

แต่เมื่อเทียบกับชายที่อยู่ตรงหน้าเธอ เขายังห่างไกลอีก มากนัก

เขาที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ช่างแพรวพราวราวกับ ดวงดาวบนสวรรค์ แข็งแกร่งยิ่งกว่านกอินทรีที่อยู่บน ท้องฟ้า สูงส่งเสียจนแทบเอื้อมไม่ถึง

อีกทั้งใบหน้าของเขาทำให้สาวๆกรี๊ดออกมาได้อย่างไม่ ต้องสงสัย

เธอสายหัวสลัดความคิดไร้สาระเมื่อสักครู่ออกไป แล้วจ้องมองไปที่ใบหน้าของเขา กลืนน้ำลายแล้วพูดว่า “ฉันเข้าใจแล้ว”
เธอครุ่นคิดแล้วถามเขาออกไปว่า “คุณคิดยังไงกับคนที่ ขายของใช้ผู้ใหญ่?

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วตอบกลับไปว่า “ก็เป็นอาชีพปกติ ไม่ได้ผิดกฎหมายนี้ ไม่มีอะไรพิเศษ”

จิ่งหนิงหัวเราะออกมาเบาๆ

รอยยิ้มของเธอแฝงไปด้วยฤทธิ์เหล้าแต่ก็ยังมีสติอยู่บ้าง แววตาของเธอนั้นงดงามดุจสายน้ำ “ฉันก็คิดว่าอย่างนั้น นะ”

กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆลอยมาแตะที่จมูก ลู่จิ่งเซินเอียงศีรษะ เล็กน้อยและเห็นว่าเธอลุกขึ้นทันกะทันหันจากนั้นเอนตัวมา ทางเขาถามขึ้นว่า

“คุณคิดว่าฉันสวยไหม? %3D

ลู่จิงเซินนั่งหลังตรง ยืดตัวขึ้น

ผู้หญิงตรงหน้าเขาสวยอย่างไม่ต้องสงสัย

ไม่เพียงแต่สวยอีกทั้งยังเซ็กซี่จนน่าทึ่ง

แม้ว่าในวันนี้เธอเพียงจะสวมเสื้อคลุมสีเบจที่เรียบง่าย ด้านในเป็นเสื้อสายเดี่ยวสีขาว แต่ก็ยังไม่อาจบดบังความ เย้ายวนใจที่เปล่งประกายจากภายในสู่ภายนอกได้

ในสมองของเขามีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาว่า ไม่มีคำไหน จะอธิบายออกมาได้

เขากลืนน้ำลายลงคอและไม่ได้พูดอะไรออกมา จิ่งหนิงจึงโน้มตัวเข้าไปใกล้เขา ริมฝีปากแดงของเธอพูดข้างๆหูเขาด้วยเสียงอันแผ่วเบาว่า “ฉันอยากนอนกับคุณ คุณจะยอมนอนกับฉันไหม?

“พระเจ้า!

ซูมู่ที่กำลังขับรถอยู่ อดไม่ได้ที่จะอุทานออก

วินาทีต่อมา เขาก็รู้สึกถึงสายตาอันเยือกเย็นจ้องมาด้าน

หลัง

เขารีบเก็บเสียงหัวเราะและรอยยิ้มนั้นอย่างรวดเร็วแล้ว

ขับรถต่อไปเงียบๆ

จิ่งเซินจึงได้หันกลับมามองผู้หญิงที่อยู่ข้างๆเขา

เขาหรี่ตาลงมองแล้วพูดกับเธอว่า คุณนอนกับผมต้องมี ค่าตอบแทนนะ คุณแน่ใจเหรอ?

จิ่งหนิงหัวเราะแล้วพูดว่า เงินเหรอ? ฉันมี! ”

เมื่อพูดจบก็หยิบเงินจากกระเป๋าควักออกมาแล้วส่งให้

เขาดู

“คุณนับดูนะ ถ้าไม่พอฉันโอนให้อีกก็ได้

ลู่จิ่งเซินจึงได้พบว่าคำพูดของเธอเมื่อสักครู่ไม่ได้ล้อเล่น

แต่เธอพูดจริง

เขาขมวดคิ้วแล้วถามต่อว่า

“คืนนี้ใครก็ได้ที่นั่งอยู่ข้างคุณ คุณก็นอนกับเขาได้หมด

เหรอ? ”

จึ่งหนิงหน้า
เธอหัวเราะเหอะๆแล้วเอื้อมมือมาจับใบหน้าของเขา

“ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะ ที่ฉันจะนอนกับคุณก็เพราะว่า คุณหน้าตาดี พวกเขาดูถูกฉันไม่ใช่เหรอ? ถ้าฉันจะหาใคร สักคนก็ต้องหาที่หน้าตาดีกว่าเขาสิ! ให้พวกเขาสองคน โมโหและอิจฉาฉันจนตายไปเลย!

ลู่จิ่งเซินคิดไม่ถึงจริงๆว่าเขาจะได้คำตอบแบบนี้ เขาทำตัวไม่ถูกและตกตะลึงเล็กน้อยกับคำพูดที่จริงจัง

ของเธอ

และในขณะนั้นเองรถก็หยุดลงกะทันหัน

จิ่งหนิงเดิมทีก็ดื่มเหล้าเสียจนเมามาย แรงเบรกเมื่อสัก ครู่ทำให้ลู่จิ่งเซินเอื้อมมือไปคว้าเธอเอาไว้

“เกิดอะไรขึ้นกัน? ” เขาถาม

ซูมู่ตอบกลับมาว่า “ขอโทษครับท่านประธาน ถึง คฤหาสน์บ้านลู่แล้ว”

“กลับไปได้แล้ว”

“ครับ!

เมื่อประตูรถด้านหน้าถูกปิดลง ลู่วิ่งเซินก็ก้มลงมองดูผู้ หญิงในอ้อมแขนของเขา เธอเมามากและใบหน้าของเธอ แดงระเรื่อ เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น

“ถึงแล้ว ลงรถเถอะ”

ผู้หญิงในอ้อมอกของเขากลับไม่ขยับแม้แต่น้อย เธอพิง ร่างกายมาที่เขาแล้วเงยหน้าขึ้นมองดูใบหน้าอันหล่อเหลา
ใบหน้าที่เรียบเฉยและเย็นชา ริมฝีปากบางเซ็กซี่ช่างเย้า

ยวนใจจริงๆ

ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้สมองของเธอหุนหันพลัน

แล่น

เธอเอื้อมมือไปโอบคอของเขาไว้แล้วจุมพิตลงไป ลู่จิ่งเซินตัวแข็งที่อ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง จากนั้นรีบ

ถอนริมฝีปากออก

เมื่อจิ่งหนิงเห็นท่าทางของเขาก็หัวเราะออกมา

“สุดหล่อคะ จูบคุณหวานมากจริงๆ”

ลู่วิ่งเซิน “…..”

เขาผลักเธอออกแล้วพูดว่า “ปล่อยมือซะ”

จิ่งหนิงไม่ยอมขยับตัว เธอกะพริบตามองเขา ดวงตาของ เธอแดงขึ้นในทันใด

“คุณก็รังเกียจฉันใช่ไหม? ที่ฉันมันไม่ใช่คนขี้อ้อน ฉัน มันไม่น่าสนใจเลยไม่ยอมนอนกับฉันใช่ไหม? ”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วขึ้นแล้วพูดว่า “ไม่ใช่”

“ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณถึงไม่ตกลง? ”

เธอทำท่าทางน่าสงสารออกมา น้ำตาไหลร่วงเป็นสาย

แปดเปื้อนใบหน้าอันขาวผ่องของเธอ ลู่วิ่งเซินตกตะลึงและรู้สึกเจ็บที่หัวใจเล็กน้อย

น้ำตาของหญิงสาวคนนั้นไหลลงมาราวกับก๊อกน้ำและเปียกปอนเสื้อเขา

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Status: Ongoing

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม? ”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ? ”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่ แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่

นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุก สิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะ กลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขา ต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวาย ส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่นนอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของ ขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้น เดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านใน ถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตา เป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตั้ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไป กระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ….ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จึงหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้ ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย? รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้า ขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ? ”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “.

หนิง?

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียก ปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟ เหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและ ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาด

ใจ อีกทั้ง ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิงหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ปั่นเจ๋อ ใครคะ? ”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมาจาก นั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไป อย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?

จึงหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้า

เหนิงซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่อง ตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของ ตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอา

ไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือ

ออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความ ว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่.”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนัก ข่าวและช่างกล้องเดินตามมา เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทาง เพศ จริงหรือไม่คะ? ”

“นายมู ในฐานะผู้สืบทอดมู่ชื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำ เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มี

ข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ? ” “นายมู..”

มู่ยั่นเจ่อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้ เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น? ” นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตา ของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จึ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

“คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและ

ตำรวจ

11 เพียะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ่อถูกตบ เสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ.

%3D

%3D ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ่อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วย น้ำเสียงเยือกเย็นว่า

กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุน ที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ่อตื่นตระหนก อะไร! ทุนอะไร !!” จึ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้น

ความจำคุณ

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหีๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือ เป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้ เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตาม

ไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จึงหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึง ได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแวว ตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัด ทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็น หลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีก ทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคล ที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้

ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูก ตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายขอ งมู่ชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคน เมื่อกี้”

“ครับ? ” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน? ”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมา ว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบ เดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออก ไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานี ตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็ พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ? ”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่น คือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้น เหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง? ”

จิงหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่ อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ? คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า? ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิงรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่อง หรือไง? ”

จึงหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง….ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหน รีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง? “

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท