วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – บทที่ 920 มีเซอร์ไพรส์

บทที่ 920 มีเซอร์ไพรส์

ดังนั้น จิ่งหนิงจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอเพียงแค่ส่งเสียง “อืม” เท่านั้น

ลู่จิ่งเซินจึงถามขึ้นว่า “พวกคุณไม่ใช่กำลังเล่นไพ่กันอยู่เหรอ? คุณออกมาทำไม? ไม่เล่นกันแล้ว?”

จิ่งหนิงจึงตอบกลับไปว่า “ไม่เล่นแล้ว เกมจบไปแล้ว พวกเราหิวกันนิดหน่อย ก็เลยจะทำมื้อดึก ฉันเลยจะมาถามพวกคุณว่ากินไหม ถ้ากินจะได้ให้แม่ครัวทำเผื่อ”

ลู่จิ่งเซินไม่ได้ตอบในทันที เขาเหลือบมองไปทางกู้ซือเฉียนกับจี้หลินยวนก่อน

ส่วนกู้ซือเฉียนก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไรมา ตอนนี้บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ

เขาใช้ผ้าขนหนูเช็ดหน้า พลางตอบกลับว่า “ฉันกินนิดหนึ่ง”

ด้านจี้หลินยวนก็พยักหน้ารับ “ฉันก็เอาด้วยนิดหนึ่ง”

จิ่งหนิงเลยตอบกลับไปว่า “ได้ งั้นเดี๋ยวฉันไปบอกให้”

จากนั้น เธอก็หันหลังกลับแล้วก็เดินออกไป

คาดไม่ถึง เธอเดินออกไปเพียงไม่กี่ก้าว ก็ถูกกู้ซือเฉียนเรียกเอาไว้เสียก่อน

“เฮ้ รอก่อน”

จิ่งหนิงหันกลับมามองเขา “มีอะไรเหรอ?”

กู้ซือเฉียนตอบพร้อมรอยยิ้มว่า “คุณเข้าไปแล้ว เรียกเฉียวฉีออกมาหน่อยนะ บอกว่าฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ”

จิ่งหนิงขมวดคิ้วแน่น

เธอใช้สายตาตรวจสอบใบหน้าของกู้ซือเฉียนด้วยความสงสัย แต่ก็ยังดูไม่ออกอยู่ดีว่าเขาคิดจะทำอะไร สุดท้ายเลยทำได้แค่เพียงพยักหน้ารับ “ได้”

เมื่อจิ่งหนิงเดินออกไปแล้ว เธอก็ตรงไปที่ห้องครัวทันที

ขณะเดียวกัน เฉียวฉีก็กำลังจัดการให้สาวใช้ช่วยทำมื้อดึกให้

มื้อดึกวันนี้เป็นเกี๊ยวกุ้งน้ำแบบง่าย ๆ รสชาติค่อนข้างอ่อนแล้วก็สดชื่น พอดีกับฤดูกาลในปัจจุบัน

พอจิ่งหนิงเดินเข้าไป เฉียวฉีก็ถามขึ้นว่า “ว่าไง? พวกเขากินรึเปล่า?”

จิ่งหนิงพยักหน้า “อืม กินทุกคนเลย เธอให้เขาทำเยอะหน่อยก็ดีนะ”

เฉียวฉีพยักหน้ารับ “ตกลง”

ขณะที่พูด เธอก็หันหน้าไปสั่งแม่ครัวด้วย

ระหว่างที่เธอสั่งแม่ครัว จิ่งหนิงก็ยืนอยู่ข้าง ๆ ยังไม่ได้เดินออกไปไหน

รอจนเฉียวฉีจัดการเรียบร้อย เธอจึงพูดขึ้นมาอีกว่า “ใช่แล้ว กู้ซือเฉียนบอกว่าให้เธอไปหาเขาหน่อย เขามีเรื่องจะคุยด้วย”

เฉียวฉีชะงัก ก่อนจะมองเธออย่างประหลาดใจ

“คุยกับฉัน? คุยกับฉันทำไม?”

จิ่งหนิงเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม เธอตอบกลับว่า “ใครจะไปรู้ล่ะ”

ขณะที่พูด เธอก็เหมือนกับนึกอะไรบางอย่างออก ทันใดนั้นนัยน์ตาเธอก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

“ไม่แน่ว่าอาจจะมีอะไรเซอร์ไพรส์เธอก็ได้ เธอรีบไปเถอะ อย่าไปช้าเกินล่ะ” เฉียวฉีชะงัก ก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย

“เป็นไปไม่ได้หรอก เขาไม่ใช่คนโรแมนติกอะไรแบบนั้น”

ถึงแม้ปากจะพูดไปอย่างนั้น แต่เธอกลับก้าวเท้ามุ่งหน้าไปทางสวนดอกไม้ด้านหลังอย่างรวดเร็ว

ในใจจิ่งหนิงก็แอบสงสัย เลยเดินตามออกไปโดยปริยาย

ระหว่างทาง ก็เจอกับหัวเหยาพอดี หัวเหยาเห็นท่าทางของพวกเธอรีบร้อน จึงถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า “พวกเธอจะไปไหนกัน?”

จิ่งหนิงเลยตอบกลับว่า “ไปดูเรื่องสนุก”

เรื่องสนุก?

หัวเหยาชะงัก ก่อนจะรีบกระโดดลุกขึ้นมาจากโซฟาทันที

“เรื่องสนุกอะไร? ฉันดูด้วย!”

ดังนั้น จากตอนแรกที่มีกันเพียงแค่สองคน เพียงครู่เดียวก็กลายเป็นกลุ่มใหญ่ไปแล้ว

ทุกคนมาถึงลานกว้างในสวนด้านหลัง พวกเธอนึกว่ากู้ซือเฉียนจะรออยู่ที่นั่น ไม่คิดว่าพอมาถึงจะเจอแต่สวนที่ว่างเปล่า แล้วคนอยู่ไหนล่ะ?

ไม่ใช่แค่กู้ซือเฉียนที่หายตัวไป แต่ยังรวมถึงลู่จิ่งเซินกับจี้หลินยวนด้วย

จิ่งหนิงหยุดชะงัก รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

เฉียวฉีจึงถามขึ้นอย่างสงสัยว่า “หนิงหนิง เธอบอกว่าเขามีเรื่องจะคุยกับฉัน แล้วตัวเขาอยู่ไหนล่ะ?”

จิ่งหนิงส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ พร้อมกับตอบว่า “ฉันก็ไม่รู้ เมื่อครู่ยังอยู่ที่ระเบียงตรงนั้นอยู่เลย ทำไมตอนนี้ถึงไม่เห็นแล้วนะ”

ทันใดนั้นเอง อยู่ ๆ ภายในปราสาทก็มีเสียงก้องกังวานดังขึ้น

“เฉียวฉี เดินไปข้างหน้าอีกยี่สิบก้าว”

ทุกคนต่างหยุดชะงัก

พร้อมกับหันหน้าไปมอง ก่อนจะพบว่าเสียงนั้นดังมาจากชั้นสอง

ทุกคนมองขึ้นไปบนชั้นสอง เห็นเพียงกู้ซือเฉียนยืนอยู่บนระเบียงตามลำพัง เขามองลงมาด้านล่าง ในมือไม่รู้ว่าถือไมโครโฟนหรือลำโพงอยู่ แต่เสียงเมื่อครู่ดังออกมาจากสิ่งนั้น

ในตอนนั้นเอง ราวกับมีฟ้าผ่าลงมาที่หัวของจิ่งหนิง เธอเหมือนกับคิดอะไรบางอย่างออก นัยน์ตาเกิดเป็นประกายขึ้นมาทันที

ไม่ว่าเฉียวฉีจะเต็มใจหรือไม่ เธอผลักเฉียวฉีออกไปด้านหน้า ก่อนจะดึงหัวเหยากลับเข้าไปในระเบียงทางเดินอีกครั้ง

เฉียวฉียังไม่ทันได้ดึงสติกลับมา

บนระเบียงชั้นสอง สายตาของชายหนุ่มมองเธออย่างลึกซึ้ง เขาจ้องราวกับว่า สามารถมองทะลุผ่านนัยน์ตาลงไปถึงก้นบึ้งหัวใจเธอได้เลย

หัวใจของเธอเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม หัวใจมันถึงได้เต้นเร็วขนาดนี้

เฉียวฉีเม้มริมฝีปากแน่น แต่ก็ทำตามที่เขาบอก เธอก้าวออกไปข้างหน้าอีกยี่สิบก้าว

ตรงที่เธอยืนอยู่เป็นลานกว้าง รอบกายเธอไม่มีอะไรเลย ไม่ใช่แค่ไม่มีคน แต่แม้กระทั่งแสงไฟลอดออกมาสักนิดยังไม่มี

ซึ่งเธอก็เพิ่งจะรู้สึกตัวว่า ในสวนดอกไม้วันนี้ มีบางอย่างแปลกไป

เมื่อก่อนจะต้องมีการเปิดไฟตามทางเดินแทบทุกที่ แต่วันนี้กลับไม่มีไฟตรงไหนติดเลย ส่งผลให้เธอต้องมายืนอย่างโดดเดี่ยวอยู่ในความมืดแบบนี้

ในใจเฉียวฉีรู้สึกกลัวเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่นี่เป็นอย่างดี แต่โดยส่วนตัวแล้วเธอก็ค่อนข้างจะกลัวความมืดอยู่ ตอนนี้พอบวกกับความหวั่นไหวในใจ ที่รู้สึกเหมือนกับว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้น เธอก็ยิ่งรู้สึกกลัวขึ้นไปอีก

ทว่า อีกฝ่ายก็ไม่ได้ปล่อยให้เธอคอยนาน

เธอได้ยินกู้ซือเฉียนพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “เริ่มได้”

ทันทีที่พูดจบ ก็มีเสียง “วู้” ดังขึ้น จากนั้นรอบกายก็สว่างขึ้นมาทันที

ไม่ใช่แค่ดวงไฟดวงเดียว แต่เป็นดวงไฟที่นับไม่ถ้วน ทั้งหมดลอยขึ้นมาจากพื้นดินพร้อม ๆ กัน

มีหลายดวงที่บินผ่านตัวเธอไปก่อนจะลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า

เฉียวฉีตกตะลึง พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะเห็นว่ามีโดรนขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วน ลอยอยู่บนท้องฟ้า ก่อตัวเป็นภาพขนาดใหญ่

ภาพนั้นก็คือ…..

ในใจของเธอสั่นไหวอย่างรุนแรง!

เธอเห็นเพียงแค่ดวงไฟเล็ก ๆ หลากสี ยังกระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบ จนสุดท้ายก็ค่อย ๆ ก่อตัวเป็นภาพภาพหนึ่ง ซึ่งภาพนั้นคือฉากที่เธอพบกับกู้ซือเฉียนครั้งแรกเมื่อตอนอายุแปดขวบ

น้ำเสียงอันทุ้มต่ำและลึกซึ้งของกู้ซือเฉียนลอยมาจากด้านบนว่า

“ตอนที่คุณอายุแปดขวบ เราได้เจอกัน ตอนนั้นเราทั้งคู่ยังเด็ก ไม่เคยคิดเลยว่าในอนาคตเราจะต้องผ่านอุปสรรคผ่านความกังวลใจมากมายมาด้วยกันขนาดนี้”

“ผมยังจำวันที่ผมเจอคุณครั้งแรกได้ คุณถักเปียสองข้าง ตัวเล็กแต่การพูดเก่งไม่เบาเลย คุณใจกล้ามาก ๆ คุณบอกผมว่า คุณเป็นหลานสาวของท่านผู้อำนวยการ ส่วนผมนั้นเป็นลูกศิษย์ท่าน ไป ๆ มา ๆ เราก็เลยได้เป็นพี่น้องกันแต่ผมว่า ผมไม่ได้อยากเป็นแค่พี่น้องกับคุณ”

“ในตอนนั้นคุณทั้งเศร้าแล้วก็ร้องไห้หนักมาก ถึงแม้ภายนอกผมจะดูสงบนิ่งขนาดไหน แต่ความจริงในใจผม กลับสับสน นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้รู้ว่าผู้หญิงร้องไห้ง่ายมากแค่ไหน”

ชายหนุ่มยิ้มออกมาเบา ๆ ราวกับกำลังนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องราวในอดีต

ภาพอันสวยงามเหล่านั้น ก็เหมือนกับไวน์ที่กลมกล่อมที่สุดในโลก มันถูกเก็บเอาไว้ในความทรงจำเขามาโดยตลอด พอนานวันเข้า ก็ยิ่งหอมละมุนมากขึ้นเรื่อย ๆ

เธอได้ยินเสียง “วู้” อีกครั้ง จากนั้นดวงไฟเล็ก ๆ บนท้องฟ้าก็เปลี่ยนรูปร่างกะทันหัน จนกลายเป็นภาพอีกภาพหนึ่ง

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Status: Ongoing

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม? ”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ? ”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่ แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่

นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุก สิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะ กลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขา ต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวาย ส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่นนอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของ ขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้น เดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านใน ถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตา เป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตั้ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไป กระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ….ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จึงหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้ ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย? รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้า ขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ? ”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “.

หนิง?

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียก ปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟ เหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและ ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาด

ใจ อีกทั้ง ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิงหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ปั่นเจ๋อ ใครคะ? ”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมาจาก นั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไป อย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?

จึงหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้า

เหนิงซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่อง ตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของ ตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอา

ไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือ

ออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความ ว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่.”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนัก ข่าวและช่างกล้องเดินตามมา เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทาง เพศ จริงหรือไม่คะ? ”

“นายมู ในฐานะผู้สืบทอดมู่ชื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำ เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มี

ข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ? ” “นายมู..”

มู่ยั่นเจ่อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้ เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น? ” นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตา ของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จึ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

“คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและ

ตำรวจ

11 เพียะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ่อถูกตบ เสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ.

%3D

%3D ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ่อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วย น้ำเสียงเยือกเย็นว่า

กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุน ที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ่อตื่นตระหนก อะไร! ทุนอะไร !!” จึ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้น

ความจำคุณ

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหีๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือ เป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้ เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตาม

ไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จึงหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึง ได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแวว ตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัด ทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็น หลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีก ทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคล ที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้

ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูก ตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายขอ งมู่ชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคน เมื่อกี้”

“ครับ? ” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน? ”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมา ว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบ เดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออก ไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานี ตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็ พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ? ”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่น คือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้น เหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง? ”

จิงหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่ อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ? คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า? ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิงรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่อง หรือไง? ”

จึงหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง….ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหน รีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง? “

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน