I Am A Prodigy ฉันนี่แหละอัจฉริยะ! – ตอนที่ 60

ตอนที่ 60

ในขณะนั้นเอง ชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนเล็กน้อยก็เดินออกไป

เขามีเคราเป็นกระจุกเล็ก ๆ อยู่ที่คาง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มขณะที่เดินไปปิดม่านบังตา

หลี่ไท่เดินไปต้อนรับเขาอย่างกระตือรือร้น “เจ้านายเจิ้ง การวัดเรตติ้งผู้ชมเป็นอย่างไรบ้างครับ”

สถิติการวัดผู้ชมหลังการคัดกรองสามารถตรวจสอบได้บนโทรศัพท์เครื่องใดก็ได้ แต่หลี่ไท่เริ่มหมดความอดทนด้วยความตื่นเต้น เขารีบไปที่สถานีโทรทัศน์โดยตรงเพื่อรับข้อมูลแบบเรียลไทม์แทน

“ฮ่าฮ่าฮ่า คุณหลี่ นี่มันสุดยอดเลย!” เจิ้งปิงหัวเราะ “ก่อนที่ฉันจะออกมา การวัดผู้ชมเพิ่งผ่านระดับที่ 2 ไป!”

“ผ่านระดับที่ 2!?”

หลี่ไท่ตกตะลึง ใบหน้าของเขาเป็นประกาย “จริงเหรอครับ!?”

“แน่นอน! นอกจากนี้ มันขึ้นค่อนข้างเร็วด้วย! และตอนนี้ก็ยังไต่ขึ้นอยู่เรื่อย ๆ!” เจิ้งปิงพยักหน้ายืนยัน

“คุณหลี่ ขอแสดงความยินดีกับการก้าวไปข้างหน้าครั้งใหญ่ด้วย!”

เฮ้ออออ

หลี่ไท่ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก เมื่อความวิตกกังวลได้ผ่านพ้นไป ก็ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นที่ไม่สามารถควบคุมได้

ในยุคที่อินเทอร์เน็ตพร้อมใช้งาน ทุกคนใช้คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มากขึ้น และดูทีวีลดลง ดังนั้นการวัดระดับเรตติ้งผู้ชมได้ 2 จึงเป็นความสำเร็จที่น่ายกย่องอยู่

บันทึกของหลี่ไท่ที่ผ่านมามีเพียงระดับที่ 1.6 เท่านั้น!

‘เหย่! นายนี่ไม่ทำให้ฉันผิดหวังเลยสักนิด! เมื่อวานนี้การวัดผู้ชมอยู่ที่ 1.2 เท่านั้น เห็นได้ชัดว่าผู้ชมส่วนใหญ่เปิดซีรีส์นี้เพื่อรอดูเขา!‘ หลี่ไท่คิดกับตัวเอง

ปัจจัยหลักในการเพิ่มความนิยมของพวกเขาเป็นเพราะวิดีโอที่เขาต่อสู้กับหมาป่าด้วยมือเปล่าของเหย่หลิงเฉิน ถัดมาคือทักษะการแสดงของเขาที่เหนือชั้น อาจกล่าวได้ว่าเขาได้แบกทีวีซีรีส์เรื่องนี้ทั้งหมดด้วยตัวเอง!

“คุณหลี่ คน ๆ นี้ เอ่อ… Y นี่เขาเป็นคนแบบไหนกัน? คุณน่าจะรู้ใช่ไหม” เจิ้งปิงพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติม

*Y = ตัวย่อของชื่อเหย่หลิงเฉิน เหย่หลิงเฉินขอให้ไม่ใส่ชื่อของเขาในละคร เพียงแต่ให้ใช้ตัวอักษร Y แทนชื่อของเขาแทน

“เขาไม่อยากที่จะเปิดเผยตัวน่ะครับ ผมไม่สะดวกที่จะเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเขา”

“ไม่แม้แต่กับฉันเรอะ?” เจิ้งปิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “ผู้กำกับหลี่ คุณก็รู้ว่าฉันไม่ใช่คนปากโป้ง ตอนนี้การวัดจำนวนผู้ชมของเขามีการรับประกันบ้างแล้วว่าจำนวนนั้นเป็นเรื่องจริง สถานีของเรามีแผนที่จะเชิญเขาเข้าร่วมรายการวาไรตี้ของเราด้วย!”

หลี่ไท่หัวเราะอย่างขมขื่นในขณะที่เขาส่ายหัว “เจ้านายเจิ้ง ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากบอกคุณ แต่ผมไม่กล้า”

“นี่คุณกลัวเหรอ? เขามีแบคใหญ่สนับสนุนอยู่เหรอ?” เจิ้งปิงรู้สึกประหลาดใจ

การแสดงออกของหลี่ไท่นั้นจริงจังในขณะที่เขาชี้ไปที่ท้องฟ้าพร้อมพึมพำ “ใหญ่.. ใหญ่เท่าท้องฟ้าเลยล่ะ!”

กริ๊ง ๆๆๆๆ!

ในหอพักชาย เหย่หลิงเฉินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

“สวัสดีครับพี่เฟยเฟย”

“หลิงเฉิน เป็นคนดังแล้วรู้สึกยังไงบ้างจ๊ะ” เสียงของเฟยเฟยทางโทรศัพท์อาจบอกได้ว่าน้ำเสียงของเธอมีความอิจฉาเล็กน้อย “ตอนนี้นายดังกว่าฉันแล้วด้วยซ้ำ”

“พี่เฟยเฟย ได้โปรดอย่าล้อเลียนผมเลย ผมไม่มีอะไรเทียบกับพี่ได้” เหย่หลิงเฉินตอบด้วยรอยยิ้ม

“Weibo กับ Tieba เต็มไปด้วยหัวข้อเกี่ยวกับนายในตอนนี้ ตั้งแต่มวยปล้ำหมาป่า ช่วยชีวิตหญิงสาว ไปจนถึงทักษะการแสดงอันน่าทึ่งของนาย พวกเขาสรรเสริญนายไม่หยุดเลย”

เสี่ยวเฟยเฟยกล่าวต่อ “นายแน่ใจหรือว่าจะไม่เข้าร่วมวงการบันเทิง? หากนายเปิดเผยตัวตนของนายตอนนี้ นายจะดังเป็นพลุแตกเลยนะ งานโฆษณา งานละคร งานอีเว้นท์ต่าง ๆ ทั้งหมดนี้แค่ไม่กี่งานก็สามารถทำให้นายดังไปถึงจุดสูงสุดของวงการได้อย่างง่ายดายเลยล่ะ”

“ตอนนี้ผมยังไม่คิดแบบนั้นเลยครับ”

“งั้นนายอยากให้ฉันแนะนำให้คุณรู้จักกับสาว ๆ สวย ๆ ในวงการบันเทิงไหม? มีแต่คนมารบเร้าถามฉันเกี่ยวกับ Y ว่าเป็นใคร พวกเขาสิ้นหวังมากเลยล่ะเพราะไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับนายเลย ฮ่า ๆๆ” เสี่ยวเฟยเฟยหัวเราะ

“ได้โปรดอย่าเลยครับ”

“โอ้ ใช่แล้ว ฉันต้องขอบคุณสำหรับเรื่องต่าง ๆ ที่ผ่านมาด้วยนะ” เสี่ยวเฟยเฟยหยุดชั่วคราว จากนั้นลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามว่า “แล้ว… นายยังจะมานวดบำบัดให้ฉันอีกไหม”

“พี่เฟยเฟย วางใจได้ ผมจะไปหาทันทีที่พี่โทรมา”

อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เสี่ยวเฟยเฟยผ่อนคลายในที่สุด รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ “จริงนะ งั้นสุดสัปดาห์นี้นายว่างไหม”

เหย่หลิงเฉินคิดเกี่ยวกับมันแล้วตกลงอย่างรวดเร็วในขณะที่เขาค่อนข้างว่างในขณะนี้

**ขโมยมาจาก ThaiNovel / My Novel **

อ่านเรื่องนี้ที่ www.thai-novel.com หรือ mynovel.co ด้วยนะคะ ผู้แปลจะได้มีกำลังใจแปลต่อ ขอบคุณค่ะ 🙂

FB : June6 Translate นิยายแปลไทย

^ ^ มีกลุ่มลับอ่านนิยายราคาประหยัด ตอนที่ 61-110 ในเฟสบุ๊ค ^ ^

วันรุ่งขึ้น เหย่หลิงเฉินเริ่มชั้นเรียนคลาสแรกตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยมา

เขาเรียนเอกวรรณคดีจีน และคลาสแรกคือวิชาวรรณคดีร่วมสมัยของจีน

ครูผู้สอนเป็นหญิงวัยเกือบกลางคน

หลังจากแนะนำตัวง่าย ๆ พวกเขาก็เริ่มเข้าประเด็น

“พวกคุณรู้จักชื่อวรรณกรรมร่วมสมัยเรื่องใดบ้าง? ยกมือขึ้นแล้วตอบ”

“ความภาคภูมิใจและอคติครับ!”

“คนหลังค่อมแห่งน็อทร์-ดามค่ะ!”

“Les Misérables ครับ!”

“สายลมที่หายไปค่ะ!”

“ไม่เลว วรรณคดีที่พวกคุณพูดถึงล้วนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตาม คุณสังเกตเห็นสิ่งหนึ่งที่พวกเขามีเหมือนกันหรือไม่” อาจารย์ตามมาด้วยคำถามอื่น

สิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน?

ทุกคนต่างมองหน้ากันและพูดไม่ออกเหมือนกัน

ผลงานทั้งหมดนี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศต่าง ๆ และผู้แต่ง แม้แต่ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ของพวกเขาก็แตกต่างกันอย่างมาก จะมีบางอย่างที่เหมือนกันได้อย่างไร?

เหย่หลิงเฉินนั่งอยู่ในมุมที่ไม่เด่น เขาตอบอย่างใจเย็นว่า “สิ่งเหล่านี้… ล้วนแล้วแต่ไม่ใช่งานของจีนครับ!”

“ถูกต้อง!”

ครูผู้สอนมองไปที่เหย่หลิงเฉิน “นักศึกษาคนนี้ตอบถูกต้องตรงประเด็น!”

ในที่สุด คนที่เหลือในชั้นเรียนก็ตระหนักได้ราวกับตื่นจากความฝัน พวกเขาทั้งหมดรู้สึกถึงความล้มเหลวเล็กน้อย

พวกเขาค่อย ๆ ตระหนักว่าหลังจากตั้งชื่องานวรรณกรรมมากมายแล้ว ก็ไม่มีงานใดมาจากประเทศจีนเลย ‘ประเทศที่ยิ่งใหญ่ของเรามีประวัติศาสตร์อันยาวนานด้วยรากฐานทางวรรณกรรมที่ลึกซึ้ง เราไม่ได้ผลิตผลงานชิ้นเดียวให้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศได้อย่างไร’

“ภาษาเป็นรากฐานของประเทศ และวรรณกรรมคือการนำเสนอรากฐานของประเทศ เราสามารถแสดงรากฐานของประเทศของเราสู่โลกผ่านวรรณกรรม อย่างไรก็ตาม ในศตวรรษที่ผ่านมา เราล้มเหลวในการผลิตงานวรรณกรรมแม้แต่ชิ้นเดียวที่โลกยอมรับ นี่คือสิ่งที่เราควรไตร่ตรอง”

“ฉันฝันว่าจะเห็นวันนั้นมาถึง!” ด้วยเหตุนี้เธอจึงยืนบนแท่นและโค้งคำนับนักเรียน

เหย่หลิงเฉินรู้สึกถึงความเศร้าที่คืบคลานเข้ามาในหัวใจของเขา ประเทศจีนนั้นกว้างใหญ่และเต็มไปด้วยทรัพยากร ขนาดประชากรของมันจัดอยู่ในกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ในแง่ของวรรณกรรม มันก็ยังล้าหลังอยู่มาก

เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงงานวรรณกรรมที่ยิ่งใหญ่สี่เล่มของจีน Journey to the West ได้รับการแปลเป็น The Monkey’s Story ส่วน Water Margin ได้รับการแปลเป็น The Story of 105 Men and 3 Women ความโรแมนติกของสามก๊กถูกแปลเป็นประวัติศาสตร์สามก๊กแทน สุดท้ายนี้ Dream of the Red Chamber ได้รับการแปลเป็น Dreams Inside a Red House

ชื่อเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเรื่องตลก แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังทำให้อับอายอีกด้วย

วัฒนธรรมจีนไม่ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศเลย ไม่ว่าสินค้าจะออกมาเป็นอย่างไรก็ไม่สามารถโน้มน้าวให้ต่างชาติยอมรับได้

ถ้ามีโอกาสขนาดนี้ เขาคงอยากให้ฝรั่งเปลี่ยนทัศนคติที่เกี่ยวกับจีน!

สำหรับเหย่หลิงเฉินแล้ว นั่นไม่ใช่เรื่องยาก!

‘ปิ๊ง!’ เสียงที่ชัดเจนมาจากภายในหัวของเหย่หลิงเฉิน

‘ปลดล็อกแท็บภารกิจระบบอัจฉริยะแล้ว‘

‘รูปร่างหน้าตามหัศจรรย์ ใครจะเทียบชั้นได้!‘

‘ภารกิจกระแสหลักแบบพิเศษ— สร้างชื่ออัจฉริยะให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก!‘

‘ภารกิจทดลอง (ภารกิจบังคับพิเศษ): สร้างงานวรรณกรรมคลาสสิกภายในหนึ่งเดือนและรับคะแนนความนิยม 100,000 คะแนน‘

‘หากภารกิจล้มเหลว— ระบบอัจฉริยะจะถูกเพิกถอน | หากภารกิจสำเร็จ— ปลดล็อกความสามารถในการเพิ่มระดับความรู้!‘

‘(ปล: ความนิยมที่เพิ่มขึ้นนั้นเชื่อมโยงกับชื่อเสียงโดยรวมของผู้เล่น การเปิดเผย ความสำเร็จ ความเคารพ ความน่าเชื่อถือ และชื่อเสียงโดยรวม)

‘เชี่ย!’ เหย่หลิงเฉินเกือบจะกรีดร้องออกมาดัง ๆ ในชั้นเรียน

‘ระบบนี้… มีภารกิจ!‘

I Am A Prodigy ฉันนี่แหละอัจฉริยะ!

I Am A Prodigy ฉันนี่แหละอัจฉริยะ!

ตอนที่ 1-20 คลิก

“เหย่หลิงเฉิน” เด็กมัธยมธรรมดาๆ คนนึงที่ต้องพยายามอย่างหนักกับการสอบและแบกรับความคาดหวังจากพ่อแม่ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปหลังจากการตื่นขึ้นจากความฝันแปลกๆ ของเขาคือ เขาได้รับ “ระบบอัจฉริยะ” จากจุดเริ่มต้นนี้ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป เขาสามารถอ่านหนังสือและเข้าใจในเนื้อหาได้อย่างทันที ฟังและเข้าใจเนื้อหาการบรรยายได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงได้รับรู้เทคนิคการใช้แผงควบคุมระบบอัจฉริยะของตัวเองอีกด้วย การเรียนรู้สำหรับฉันมันไม่เคยง่ายขนาดนี้มาก่อน นี่สินะที่เขาพูดกันว่าความรู้คือพลัง! ตอนนี้ฉันสามารถเข้าถึงพลังที่ไร้การควบคุมได้อย่างมากมายเต็มไปหมด! ความรู้สึกจะเป็นอย่างไรกันหากได้กลายเป็น “อัจฉริยะ” ในชั่วข้ามคืน มาร่วมติดตาม “เหย่หลิงเฉิน” ในการเดินทางครั้งนี้เพื่อค้นหาความสามารถที่ไร้ขีดจำกัดกันเถอะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท