วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – บทที่ 967 ของที่ระลึกคุณยาย

บทที่ 967 ของที่ระลึกคุณยาย

อานอานพยักหน้า หยิบมีดคัตเตอร์ แกะกล่องตรงหน้าหลายกล่องรวดเดียวดังฉึบฉับ

เด็กผู้หญิงให้ความสนใจกับสิ่งของอย่างกล่องของขวัญเป็นพิเศษอย่างที่คิดไว้

ในวันปกติ เด็กผู้หญิงที่อ่อนโยนอ่อนแอแค่ไหน ตอนที่แกะของขวัญก็สามารถกลายเป็นกรรไกรซึ่งหาที่เปรียบไม่ได้ ทั้งเร็วและแม่นยำ ทำรวดเดียวจนสำเร็จ

อานอานแกะของขวัญเสร็จแล้ว ก็พอใจในที่สุด

จิ่งหนิงอยู่เป็นเพื่อนเธออีก สอนวิธีเก็บเรียงของขวัญของตัวเองเสร็จแล้ว จากนั้นก็พาเธอออกจากห้องเก็บของไป

“แม่ หนูแกะของขวัญเสร็จแล้ว แม่ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนหนูแล้วก็ได้ แม่ไปทำงานเถอะค่ะ”

จิ่งหนิงพยักหน้า มองดูเวลา เพิ่งสิบโมงครึ่ง ไม่ถือว่าสายเกินไป

เธอกำชับอานอานไม่กี่ประโยค กำลังเตรียมออกไป จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงดัง “กริ๊ง” สิ่งของสีขาวหล่นพื้น

อานอานอุทานออกมา “อ่า จี้หยกของหนู!”

จิ่งหนิงหันศีรษะกลับไป เห็นเธอเก็บจี้หยกวงหนึ่งขึ้นมาจากพื้น ก็รีบเข้าไปดูใกล้ๆ

แค่เห็นหยกชิ้นนั้นที่ลู่หลันจือมอบให้เธอ

เมื่อคืน จิ่งหนิงไม่ได้มองจี้หยกชิ้นนี้อย่างละเอียด แค่มองผ่านแสงไฟสลัวเท่านั้น รู้สึกว่าคุ้นตา เหมือนของที่ระลึกของโม่ไฉ่เวยแม่ตัวเองก่อนเสียชีวิต

แต่ในตอนนั้น เธอมีแค่ความคิดหนึ่งเคลื่อนผ่านไปเท่านั้น ไม่ได้จริงจัง

อย่างไรแล้ว โม่ไฉ่เวยก็เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว ไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ จะมีจี้หยกที่เป็นของเธออยู่ในมือลู่หลันจือได้อย่างไร?

ด้วยเหตุนี้ ตอนนั้นเธอแค่คิด ก็รับมันมา

แต่ตอนนี้ เมื่อเห็นจี้หยกชิ้นนี้อีกครั้ง เห็นลายดอกบัวชัดเจนใสสะอาดด้านบน ใจก็สั่นอย่างช่วยไม่ได้

ความรู้สึกคุ้นเคยนั้นยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เธออดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปหยิบจี้หยกในมืออานอานมา

“แม่คะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”

อานอานตกตะลึง ไม่ค่อยเข้าใจ

แต่จิ่งหนิงไม่ตอบ เธอลูบลายบนจี้หยกอย่างระมัดระวัง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า มองดูอย่างละเอียดนานมาก สุดท้ายก็ยืมแสงที่ส่องเข้ามาในประตู ตรงกลางดอกบัว เห็นตัวอักษรจีนขนาดเล็กหนึ่งตัวชัดๆ

แค่เห็นว่านั่นคือตัวอักษรคำว่าโม่

เธออดไม่ได้ที่จะตกใจอย่างรุนแรง!

น-นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?

คนนอกอาจจะไม่รู้ แต่จิ่งหนิงรู้ดีเป็นอย่างยิ่ง ในปีนั้นตระกูลโม่เป็นตระกูลแรกในเมืองจิ้น ท่านปู่โม่คุณตาของเธอในเมืองจิ้นนั้นสามารถกล่าวได้ว่าเป็นผู้มีอำนาจอิทธิพล โม่ไฉ่เวยในฐานะลูกสาวเพียงคนเดียวของท่านปู่โม่ แน่นอนว่าอยู่ดีกินดีมาตั้งแต่เล็ก

เพราะอยากให้ลูกสาวตัวเองดูแตกต่าง ท่านปู่โม่จึงปลูกฝังฝีมือและความสนใจงานอดิเรกหลายประเภทให้เธอตั้งแต่เล็ก วัตถุทั้งหมดที่โม่ไฉ่เวยใช้ส่วนตัว จะทำสัญลักษณ์พิเศษเอาไว้ เพื่อแสดงว่านี่เป็นของของเธอเพียงผู้เดียว

และสิ่งที่เรียกว่าสัญลักษณ์ จริงๆ แล้วมันก็เรียบง่ายมาก ก็คือการสลักคำว่าโม่ขนาดเล็กไว้

สิ่งของขนาดเล็กอย่างชามตะเกียบ ปากกาคัดลายมือ จนของขนาดใหญ่เท่าอัญมณี เสื้อผ้า พาหนะรถยนต์ทั้งหมดก็ถูกสลักด้วยคำนี้

จิ่งหนิงเคยคิดว่า ตัวเองอาจจะไม่เห็นตัวอักษรนี้อีกแล้วตลอดชีวิตนี้ แต่ในปัจจุบัน กลับเห็นมันบนจี้หยกอันเล็กๆ

สีหน้าเธอค่อนข้างซีดเซียวอย่างคลุมเครือ ทั้งร่างจมอยู่กับความทรงจำในอดีต

อานอานตกใจมาก เห็นเธอยืนตรงนั้นเหมือนคนโง่ ไม่ขยับไปไหน ร้อนรนใจจนแทบร้องไห้

ดึงแขนเสื้อเธอไปด้วย ตะโกนไปด้วย “แม่ แม่เป็นอะไร? แม่อย่าทำให้อานอานตกใจกลัวสิ”

น้ำตาร้อนผ่าวหยดลงบนหลังมือเธอ

จิ่งหนิงตกใจกับความร้อน สุดท้ายก็ได้สติกลับมา มองอานอานอย่างเหม่อลอย

ความเย็นยะเยือกบนใบหน้าผ่านไป เธอถึงได้รู้ตัวอีกทีก็ตอบสนอง ไม่รู้ว่าเมื่อไร ตัวเองร้องไห้ออกมาจริงๆ

คงเพราะเห็นเธอร้องไห้ ลูกก็ตกใจกลัว อานอานจึงร้องไห้ออกมา

จิ่งหนิงรีบเช็ดน้ำตา ย่อตัวลงพูดปลอบ “แม่ไม่เป็นอะไร อานอานไม่ต้องกังวลนะ เมื่อกี้แม่แค่นึกถึงบางเรื่อง”

อานอานยู่ปาก น้ำตาร่วงเหมือนลูกปัดที่แตกกระจาย

“แม่ แม่อย่าเสียใจเลยนะ แม่เสียใจอานอานก็จะเสียใจตามแม่ แม่ไม่ร้องไห้แล้วนะ”

ขณะที่พูด มือเล็กนุ่มนิ่มก็ช่วยเธอเช็ดน้ำตา

จิ่งหนิงแสบจมูก ยิ่งอยากร้องไห้

เธอฝืนยิ้ม “ได้จ้ะ แม่ไม่ร้องไห้ และไม่เสียใจ อานอานของเราก็ไม่ร้องไห้แล้วนะ อานอานเป็นเด็กผู้หญิงที่สวยที่สุดบนโลกใบนี้ เด็กผู้หญิงสวยเขาไม่ชอบร้องไห้”

อานอานพยักหน้า

จิ่งหนิงมองจี้หยกในมือ แล้วถอนหายใจ

อานอานถามขึ้น “แม่ แม่ร้องไห้เพราะจี้หยกนี้เหรอคะ?”

จิ่งหนิงพยักหน้า “ใช่ มันทำให้แม่นึกถึงแม่ของแม่ ก็คือคุณยายของลูก ลูกเห็นไหม บนนี้มันมีตัวอักษรคำว่าโม่ขนาดเล็กอยู่”

ขณะที่เธอพูด ก็นำทางอานอานไปยืนใต้แสงแดด แล้วพลิกจี้หยกให้เธอดู

อานอานตะโกนด้วยความประหลาดใจ “มีจริงๆ ด้วย!”

จิ่งหนิงยิ้มพูดขึ้น “นี่คือสัญลักษณ์พิเศษที่คุณยายลูกมีไว้บนของทุกอย่างที่ใช้ แม่คิดมาตลอดว่าบนโลกใบนี้น่าจะไม่มีของของเธอแล้ว แต่ตอนนี้พบว่าที่แท้ก็ยังมีอยู่”

อานอานกะพริบตา ไม่ค่อยเข้าใจนัก “แต่คุณยายแซ่จี้ ทำไมถึงสลักคำว่าโม่ล่ะคะ?”

จิ่งหนิงหายใจไม่ออก

เธอถึงนึกขึ้นได้ว่า อานอานไม่รู้เรื่องที่เมื่อก่อนเธอถูกแอบสับเปลี่ยน เร่ร่อนมาโตที่เมืองจิ้น

ตั้งแต่อานอานสามารถเข้าใจความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนเหล่านี้ได้ เธอและจี้หยุนซูก็ยอมรับกัน และกลับไปรู้จักกับจี้หวั่นแม่ตัวเอง ถ้าอย่างนั้นในสายตาอานอาน คุณแม่ของเธอหรือคุณยายของตัวเองก็คือจี้หวั่นแน่นอน

จิ่งหนิงยิ้มเยาะเย้ยตัวเอง พูดอธิบาย “นั่นคุณยายอีกคนของลูก เป็นผู้หญิงที่เลี้ยงแม่ของลูกตั้งแต่เล็กจนโต มอบชีวิตครั้งที่สองกับแม่”

อานอานเหมือนเข้าใจแต่ไม่เข้าใจ แต่ก็ยังพยายามอย่างมากที่จะเข้าใจมัน

“หนูเข้าใจแล้ว ยังไงก็เป็นคุณยายทั้งหมด ในเมื่อเป็นของของคุณยาย เราก็ต้องเก็บรักษามันไว้ให้ดี ต้องไม่ทำหายอีกอย่างเด็ดขาด”

จิ่งหนิงยิ้ม “ใช่ ดังนั้นอานอานต้องเก็บของให้ดี ทำหายไม่ได้นะ”

เมื่ออานอานได้ยิน ก็รู้สึกประหม่าทันที

“แต่……แต่หนูขี้หลงขี้ลืมง่ายมากเกินไป ถ้าหนูทำหายจะทำยังไงคะ?”

เธอขมวดคิ้วสวยละเอียดอ่อน ทันใดนั้นดวงตาก็เปล่งประกาย

“เอ๋ หรือแม่ช่วยหนูเก็บได้ไหม? หนูยังไม่เคยเจอคุณยายท่านนี้เลย ถ้าหนูเก็บมันไว้ วันไหนหนูเจอคุณยายแล้วค่อยเอาออกมาให้หนูอีกที หนูจะเอามันไปเจอคุณยาย ถึงตอนนั้นคุณยายก็จะยิ่งดีใจใช่ไหมล่ะคะ?”

จิ่งหนิงตกตะลึง ทันใดนั้นหัวใจก็เกิดความทุกข์

เธอไม่รู้ว่าจะอธิบายกับอานอานอย่างไร ว่าเธอไม่มีทางได้เจอคุณยายอีกแล้ว

เพราะคุณยายเสียชีวิตไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน

จิ่งหนิงสูดจมูก แล้วฝืนยิ้ม

“ได้สิ แม่จะช่วยหนูเก็บ คราวหน้าตอนที่หนูไปเจอคุณยาย หนูค่อยใส่มันอีกครั้ง ถึงตอนนั้นคุณยายเห็นหนูใส่ของของเธอ ก็จะยิ่งชอบหนูแน่ๆ”

“งั้นก็เอาตามนี้ค่ะ”

อานอานนำจี้หยกที่ชื่นชอบยื่นไว้ในมือเธอ จากนั้นก็กลับห้องไปอ่านหนังสืออย่างมีความสุข

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Status: Ongoing

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม? ”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ? ”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่ แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่

นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุก สิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะ กลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขา ต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวาย ส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่นนอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของ ขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้น เดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านใน ถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตา เป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตั้ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไป กระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ….ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จึงหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้ ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย? รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้า ขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ? ”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “.

หนิง?

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียก ปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟ เหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและ ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาด

ใจ อีกทั้ง ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิงหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ปั่นเจ๋อ ใครคะ? ”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมาจาก นั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไป อย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?

จึงหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้า

เหนิงซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่อง ตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของ ตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอา

ไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือ

ออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความ ว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่.”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนัก ข่าวและช่างกล้องเดินตามมา เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทาง เพศ จริงหรือไม่คะ? ”

“นายมู ในฐานะผู้สืบทอดมู่ชื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำ เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มี

ข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ? ” “นายมู..”

มู่ยั่นเจ่อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้ เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น? ” นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตา ของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จึ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

“คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและ

ตำรวจ

11 เพียะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ่อถูกตบ เสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ.

%3D

%3D ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ่อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วย น้ำเสียงเยือกเย็นว่า

กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุน ที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ่อตื่นตระหนก อะไร! ทุนอะไร !!” จึ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้น

ความจำคุณ

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหีๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือ เป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้ เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตาม

ไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จึงหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึง ได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแวว ตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัด ทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็น หลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีก ทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคล ที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้

ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูก ตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายขอ งมู่ชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคน เมื่อกี้”

“ครับ? ” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน? ”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมา ว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบ เดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออก ไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานี ตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็ พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ? ”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่น คือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้น เหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง? ”

จิงหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่ อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ? คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า? ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิงรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่อง หรือไง? ”

จึงหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง….ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหน รีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง? “

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท