วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – บทที่ 1038 ในใจเกิดความสงสาร

บทที่ 1038 ในใจเกิดความสงสาร

เพราะฉะนั้นในใจเธอเกิดความสงสารขึ้นมา

แต่ก็รู้ดีว่าผู้หญิงตรงหน้าคนนี้มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตของเขา ดังนั้นจึงไม่กล้าปล่อยเธอไป

แต่ก็ไม่สามารถให้เธอไม่กินอะไรเลย พอเป็นแบบนี้แล้ว เธอจึงคิดวิธีนี้ที่ยังถือว่าพอใช้ได้

เปลี่ยนหน้าแกล้งเธอ เพื่อให้เธอได้ยิ้มได้อารมณ์ดีหน่อย

ดีใจแล้ว อารมณ์ก็ดีแล้ว อารมณ์ดีแล้ว ไม่แน่ก็อยากจะกินข้าวแล้ว

ยังไงเฉียนเฉียนก็ขาดอารมณ์ความรู้สึกความปรารถนาแบบปุถุชนทั่วไป ฉะนั้นความคิดของเธอก็ง่ายกว่าด้วย

ถึงแม้เนื่องจากเวลาอยู่ที่นี่นานมากแล้ว เธอค่อยๆ เข้าใจความรู้สึกของมนุษย์ได้แล้ว

แต่พูดตามตรงก็ไม่ได้เข้าใจทั้งหมด

ตอนที่เธอลองเปลี่ยนรูปร่างครั้งแรกก็ตกใจเหมือนกับหนานจิ่น ยิ่งกว่านั้นยังคิดว่าตัวเองเจอเห็นปีศาจ

แต่หลังจากนั้นเห็นเธอเปลี่ยนกลับมาเป็นใบหน้าน้อยๆ ที่ใจดีไม่มีความอันตราย ใสๆ นุ่มๆ นั้น ทำให้คนชอบใจและสบายใจมากเลยจริงๆ

บวกกับระยะเวลาอันยาวนานที่น้องสาวของพระราชินีถูกจับมาถึงที่นี่ นอกจากครั้งแรกสุดเจอหนานจิ่นครั้งหนึ่ง วันหลังๆ ตัวเองก็เห็นแค่หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เพียงคนเดียว

ตกลงเธอเป็นคนในวังจริงหรือไม่ ถึงแม้รู้แล้วว่าตัวเองเป็นใคร ในใจก็แอบมีความคิดจะเข้าวังแก้แค้นให้พี่สาว

แต่เธอยังไงก็ร่อนเร่อยู่ในพื้นบ้าน ยังไม่เข้าใจพวกกลอุบายในท้องพระโรงเหล่านั้นอย่างลึกซึ้ง

ดังนั้นไม่นานเธอก็ชอบสาวน้อยที่หาทางทำให้ตัวเองอารมณ์ดีทุกวันคนนี้แล้ว

เฉียนเฉียนก็ชอบเธอมากเช่นกัน แม้เธอจะไม่เข้าใจเรื่องในท้องพระโรง และไม่ชัดเจนทำไมหนานจิ่นถึงต้องจับเธอไว้ไม่ปล่อย แต่เธอกลับรู้สึกว่าสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ไม่ใช่คนไม่ดีอะไร เธอไม่ชอบคนไม่ดี ชอบคนดี ดังนั้นเธอก็ชอบน้องสาวของพระราชินี

แบบนี้เธอถึงยอมทำให้เธออารมณ์ดีอย่างเต็มใจ

หลังจากฟังคำอธิบายของเธอจนจบ หนานจิ่นเงียบกริบไปเลย

เขาไม่ได้โทษเฉียนเฉียน และไม่ได้พูดอะไร หลังจากเงียบไปแล้วช่วงหนึ่งก็ให้เธอลงไปพักผ่อน

ถึงแม้เฉียนเฉียนจะรู้สึกประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก หลังจากกลับถึงห้องนอนก็นอนหลับแล้ว

แต่ในคืนนั้น บ้านรองที่ขังน้องสาวของพระราชินีกลับอยู่ๆ ก็ไฟไหม้ขึ้นมา ไฟไหม้ใหญ่ครั้งหนึ่งไม่เพียงเผาทั้งบ้านรองเสียหายหมดแล้ว และยังเผาน้องสาวของพระราชินีกลายเป็นขี้เถ้ากองหนึ่ง

เธอตกใจจนตื่นขึ้นมาในกลางดึก เมื่อเห็นสถานการณ์หลังจากดับไฟแล้ว เห็นน้องสาวของพระราชินีถูกเผาเป็นขี้เถ้ากองหนึ่ง ใจเธอแตกสลายในขณะนั้นทันที

เธอไม่กล้าเชื่อ และไม่ยอมเชื่อ คนตัวเป็นๆ ที่ยังหัวเราะพูดคุยกับตัวเองเมื่อวินาทีที่แล้วอยู่ ขณะนี้เสียชีวิตไปแล้ว

เธอตามถามหนานจิ่นไม่หยุดว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมเธอถึงตาย

หนานจิ่นแค่พูดประโยคอย่างเฉยชา เขาก็คาดคิดไม่เหมือนกัน แต่คืนนั้นที่นี่ไม่มีคนอื่นอยู่ ในบ้านมีแค่น้องสาวของพระราชินีเพียงคนเดียว และไม่มีคนอื่นรู้ว่าเธอถูกขังไว้ที่นี่ด้วย ดังนั้นทุกอย่างชี้ไปได้เพียงเหตุผลเดียว นั่นก็คือ เธอฆ่าตัวตาย

เธอเห็นไม่มีความหวังที่จะหนีออกไปพ้น ดังนั้นตัวเองทำตะเกียงน้ำมันก๊าดตกลงไปเองและฆ่าตัวตายแล้ว

ขณะนั้นเฉียนเฉียนพูดไม่ออกว่าเป็นอารมณ์อะไร แม้ในใจจะยังคงเสียใจอยู่ และยังมีความรู้สึกแปลกประหลาดอย่างหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ยอมรับคำอธิบายของเขาแล้ว

เพราะยังไงแล้ว เธอไม่เข้าใจพวกกลอุบายเหล่านั้นเลย

แต่เวลาต่อมา ความเห็นที่หนานจิ่นเสนอออกมากลับทำให้เธอหัวเสียมาก

เขาบอกว่าให้เธอปลอมตัวเป็นน้องสาวของพระราชินี เข้าวังไปเป็นกษัตริย์

พระราชินีราชวงศ์ที่แล้วก็คนหนึ่งที่ฉลาดมาก อำนาจที่นอกวังของตัวเองอ่อนมากอยู่แล้ว ดังนั้นเธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองยังมีน้องสาวอีกหนึ่งคน และวางแผนไว้เรื่องที่จะเรียกน้องสาวคนนี้กลับเข้าวังสืบราชบัลลังก์สามารถปิดบังหนานจิ่นไว้ได้

ดังนั้น ก่อนที่เธอจะเสียชีวิต ก็ได้ปูทางข้างหลังให้ตัวเองกับน้องสาวไว้แล้ว

นั่นหมายถึงประกาศให้โลกรู้ว่าน้องสาวของเธอยังมีชีวิตอยู่ และปล่อยข่าวที่จะสืบราชบัลลังก์ให้เธอ และยังประกาศภาพวาดของเธอก่อนที่หนานจิ่นจะหาเจอน้องสาวของเธออีกด้วย

เพราะฉะนั้น ถึงแม้เหล่าอำมาตย์ยังไม่เคยเห็นพระราชินีในอนาคตคนนี้ แต่อันที่จริงรู้หน้าตาของเธอเป็นยังไงก่อนแล้ว

ทำแบบนี้เพื่อกันหนานจิ่นจับน้องสาวของเธอได้ ให้อีกคนไปปลอมตัวเป็นน้องสาวของเธอ เพื่อแทนตำแหน่งในการสืบราชบัลลังก์ในอนาคต

ถึงอย่างไรถ้าเปลี่ยนเป็นอีกคน ยังไม่ต้องพูดถึงเหล่าอำมาตย์ต้องจับผิดที่หน้าตาของคนนั้นไม่เหมือนน้องสาวของเธอ

แม้กระทั่งหนานจิ่นเองยังไม่สามารถอธิบายได้สมบูรณ์มากเช่นกัน

แม้อำนาจของหนานจิ่นจะใหญ่หลวงแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถปิดปากทุกคนไว้ได้ ดังนั้นสุดท้ายแล้วเขาก็จำเป็นต้องปล่อยน้องสาวของตนออกมา

แต่เธอคิดยังไงก็คิดไม่ถึงเลยว่าบนโลกใบนี้จะมีคนแบบนี้อย่างเฉียนเฉียน

เป็นคนหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนหน้าตาเป็นคนไหนก็ได้บนโลกใบนี้ตามอารมณ์ของตัวเอง นี่เป็นเรื่องที่น่ากลัวเกินไปจริงๆ

ไม่เพียงแค่พระราชินีที่คิดไม่ถึงคนเดียว ไม่มีใครคนไหนเลยที่คิดถึงเรื่องแบบนี้ได้

แม้กระทั่งหนานจิ่นก่อนหน้านี้ก็คิดไม่ถึงเลยจริงๆ

แต่ตอนนี้เขาคิดได้แล้ว และยังเสนอเรื่องนี้ให้กับเฉียนเฉียนอีกด้วย

ตอนแรกสุดเฉียนเฉียนปฏิเสธ ยิ่งกว่านั้นยังโมโห โกรธเคืองมาก

เพราะไม่ว่าเธอจะใสซื่อแค่ไหน งมงายแค่ไหน ไร้ความรู้แค่ไหน แต่ในจิตใต้สำนึกก็รู้ดีว่าเรื่องที่หนานจิ่นเสนอให้เธอในตอนนี้เป็นเรื่องที่ไม่ดีมาก

เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผิด ถ้าเป็นสิ่งที่ผิดเธอก็ไม่ควรทำ

แต่หนานจิ่นเป็นคนแบบไหนล่ะ

ต่อสู้ด้วยอุบายจิต อำมาตย์คนสำคัญในท้องพระโรงที่ถนัดด้านการวางแผนและกลอุบาย ราชครูแห่งประเทศ

ความคิดเล็กๆ น้อยๆ ของเฉียนเฉียนนั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาแล้วไม่ถือเป็นเรื่องอะไรเลย

ดังนั้น ไม่นานเขาก็โน้มน้าวเฉียนเฉียนได้แล้ว ถ้าเฉียนเฉียนไม่ยอมออกไปช่วยเขา งั้นทุกสิ่งทุกอย่างก่อนหน้านี้ก็จะถูกเปิดเผย และเขาก็จะตาย เฉียนเฉียนสามารถเห็นเขาตายไปอย่างนี้เลยเหรอ

ตอนนี้พระราชินีกับน้องสาวของพระราชินีเสียชีวิตแล้ว ไม่มีกษัตริย์ใหม่ปรากฏตัวออกมา ประเทศก็จะวุ่นวาย พอประเทศวุ่นวายปุ๊บ ประชาชนก็จะตกอยู่ในความเดือดร้อน

ถ้าเฉียนเฉียนรู้สึกผิดต่อน้องสาวของพระราชินีจริงๆ คิดว่าตัวเองไม่ได้ดูแลเธอให้ดี ถึงทำให้เธอฆ่าตัวตายได้

งั้นเธอก็ยิ่งสมควรออกมาแบกรับหน้าที่ที่น้องสาวของพระราชินีควรแบกรับอย่างกล้าหาญ

ก็มีแค่เธอออกมาถึงสามารถช่วยเหลือประชาชนจากความเดือดร้อนและช่วยเหลือเขาได้

ในที่สุดเฉียนเฉียนก็ถูกโน้มน้าวจนยอมทำแล้ว แม้ลึกๆ ในใจของเธอจะยังคงรู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกๆ เหมือนจะมีเหตุมีผล แต่ความเป็นจริงแล้วมีบางจุดไม่ปกติ

แต่ความคิดของเธอยังคงใสซื่อเกินไปแล้ว แม้สัญชาตญาณรู้สึกไม่ถูก แต่ก็อธิบายออกมาไม่ถูก สุดท้ายแล้วก็ได้แต่ยอมรับแล้ว

ดังนั้นเธอเปลี่ยนเป็นหน้าตาเป็นน้องสาวของพระราชินี เข้าวังสืบราชบัลลังก์เป็นกษัตริย์ และยังประกาศพระราชินีราชวงศ์ที่แล้วเสียชีวิตจากการป่วยหนัก ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับราชครูใหญ่ต่อหน้าอำมาตย์ทุกคน

ทีนี้เหล่าอำมาตย์ถึงโล่งใจให้หมด คุกเข่าลงด้านล่างท้องพระโรงและตะโกนอายุมั่นขวัญยืน

ต่อจากนั้นไป เฉียนเฉียนก็กลายเป็นพระราชินีที่อยู่บนหมื่นคน

ส่วนหนานจิ่นยืนอยู่ด้านล่างท้องพระโรงมองขึ้นไปที่เธอ มุมปากโค้งขึ้น

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Status: Ongoing

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม? ”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ? ”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่ แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่

นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุก สิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะ กลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขา ต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวาย ส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่นนอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของ ขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้น เดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านใน ถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตา เป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตั้ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไป กระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ….ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จึงหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้ ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย? รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้า ขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ? ”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “.

หนิง?

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียก ปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟ เหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและ ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาด

ใจ อีกทั้ง ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิงหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ปั่นเจ๋อ ใครคะ? ”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมาจาก นั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไป อย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?

จึงหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้า

เหนิงซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่อง ตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของ ตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอา

ไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือ

ออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความ ว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่.”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนัก ข่าวและช่างกล้องเดินตามมา เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทาง เพศ จริงหรือไม่คะ? ”

“นายมู ในฐานะผู้สืบทอดมู่ชื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำ เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มี

ข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ? ” “นายมู..”

มู่ยั่นเจ่อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้ เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น? ” นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตา ของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จึ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

“คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและ

ตำรวจ

11 เพียะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ่อถูกตบ เสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ.

%3D

%3D ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ่อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วย น้ำเสียงเยือกเย็นว่า

กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุน ที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ่อตื่นตระหนก อะไร! ทุนอะไร !!” จึ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้น

ความจำคุณ

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหีๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือ เป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้ เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตาม

ไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จึงหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึง ได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแวว ตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัด ทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็น หลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีก ทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคล ที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้

ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูก ตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายขอ งมู่ชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคน เมื่อกี้”

“ครับ? ” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน? ”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมา ว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบ เดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออก ไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานี ตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็ พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ? ”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่น คือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้น เหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง? ”

จิงหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่ อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ? คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า? ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิงรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่อง หรือไง? ”

จึงหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง….ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหน รีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง? “

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท