วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – บทที่ 1067 ไม่มีทางอื่น

บทที่ 1067 ไม่มีทางอื่น

เธอไม่กล้าที่จะเชื่อเบิกตาโพลง เวลาเดียวกัน มองเห็นความตื่นตะลึงเล็กน้อยจากนัยน์ตาของผู้ชาย

ต่อจากนี้ ทั้งสองคนตกลงไปในทะเลพร้อมกัน

จิ่งหนิงล้วนไม่เคยรู้มาก่อน ที่แท้ แต่ก่อนนานมาแล้ว เธอก็เคยร่วมเป็นร่วมตายด้วยกันกับลู่จิ่งเซินมาแล้ว

แม้ว่าไม่ได้สมัครใจ แต่กระสุนลูกนั้นทะลุผ่านร่างกายของพวกเขาพร้อมกันจริงๆ

เธอไม่รู้ว่าคนที่ยิงเป็นใคร ลู่จิ่งเซินอาจจะรู้

เธอเพียงรู้ว่า อยู่ในวินาทีนั้น อยู่ดีๆเธอล้วนคิดอะไรไม่ออก

นึกถึงช่วงเวลานั้นที่พักอยู่ในอพาร์ตเม้นท์ เธอได้รับการดูแลจากลู่จิ่งเซิน เลื่อมใสศรัทธาผู้ชายคนนี้มานานแล้ว

เธอนึกถึงผู้ชายคนนั้น แม้ว่าเวลาส่วนมากล้วนเงียบมาก แต่ต่อเธอกลับมักจะอ่อนโยนมาก

อยู่ตอนดึกดื่นเที่ยงคืนเขาจะนั่งกับเธออยู่บนระเบียงด้วยกัน พูดถึงอุดมคติกับเลือดอันร้อนรุ่มของตนเองมากมาย

เขาพูดกับเธอเยอะมาก สิ่งที่เมื่อก่อนเธออยู่บนโลกใบนี้ไม่เคยรู้มาก่อน

อย่างเช่นเกี่ยวกับนิวเคลียร์ อย่างเช่นปีศาจตนหนึ่งที่มีชีวิตอยู่มาพันปีแล้วไม่ตาย อย่างเช่นอวกาศอีก……อื่นๆ

ในเวลานั้น เธอรู้สึกว่าตนเองเหมือนกับฟังนิทาน หรืออาจจะฟังคัมภีร์สวรรค์อยู่

เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่เลื่อมใสศรัทธาต่อเขา เคารพเลื่อมใสอย่างยิ่ง

ในใจจิ่งหนิงคิดอยู่ว่า อาจจะในเวลานั้น แท้ที่จริงตนเองยินยอม เสียสละเพื่ออุดมคติเหล่านั้นที่เขาพูดอยู่ในปากเขาล่ะ

ถึงยังไงอยู่ในปากเขา ถ้าหากไม่มีการเสียสละก็จะอยู่เย็นเป็นสุขไม่ได้ ไม่มีความสุขของประชาชนในโลกหล้า

แต่เรื่องบางเรื่อง ถึงยังไงก็ไม่ต้องให้เธอมาทำ

เธอถูกคนช่วยไว้ คนที่ถูกช่วยขึ้นมายังมีลู่จิ่งเซิน

แต่ว่า หลังจากครั้งนั้น ทั้งสองคนกลับไม่ได้พบเจอกันอีก

บนกายเธอโดนยิง บาดแผลรุนแรงมาก แทบจะเอาตัวไม่รอด

ระหว่างเลอะๆเลือนๆ ได้ยินมีคนพูดว่า “เธอรู้มากเกินไปแล้ว ให้เธออยู่บนโลกนี้ต่อไปอีกไม่ได้ เธอจำเป็นต้องตาย”

จากนั้น กลับมีอีกคนหนึ่งขัดขวางเขา

“ไม่ได้ ถ้าหากเธอตายแล้ว รอให้ลู่จิ่งเซินฟื้นขึ้นมาจะสืบหาอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้น ให้เขารู้ว่าเป็นพวกเราฆ่าคนของเขา พวกเราก็ไม่ได้เจอดีแน่”

“งั้นพวกคุณว่าจะทำยังไงดีล่ะ?”

“ลบความจำของเธอ โยนเธอทิ้งทะเล เป็นหรือตาย ขึ้นอยู่กับโชคชะตา”

“ได้ งั้นก็ทำตามนี้เถอะ”

ยังไงจิ่งหนิงก็นึกไม่ถึง ผลลัพธ์ที่ตนเองตามหานานขนาดนี้ กลับกลายเป็นแบบนี้

เธอมองเห็นน้ำตาของตนเองไหลลงจากหางตา อยู่ในสายตาที่ขมุกขมัว ผู้ชายคนนั้นยังนอนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ ล้วนไม่รู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นอยู่ข้างกายเลยสักนิด

ที่แท้เป็นเช่นนี้

ที่แท้ นี่ก็คือความเป็นจริงที่เธอต้องการ

ทั้งหมดไม่ใช่สิ่งที่เขาปรารถนาเลย กลับเกิดขึ้นเพราะว่าเขาจริงๆ

ดังนั้น หลังจากผ่านไปหลายปี เจอกันอีกครั้ง เขาจึงรีบร้อนอยากจะแต่งงานกับเธอขนาดนั้น ไม่ได้เพราะว่ารักแรกพบ เพียงเพราะว่าอยากจะชดเชยเหรอ?

ดังนั้น ถึงแม้ว่าหลังจากทั้งสองคนอยู่ด้วยกันนานขนาดนี้ ถึงแม้ว่ามีโอกาสหลายครั้งขนาดนั้น เขาสามารถเปิดเผยกับตนเอง แต่เขากลับไม่ได้พูดอะไร แต่เลือกที่จะเอาทั้งหมดนี้ล้วนซ่อนไว้อยู่ในจิตลึกๆเหรอ?

ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เอง

อยู่ดีๆเธอก็เข้าใจแล้ว ทำไมอานอานยิ่งเติบโต บุคลิกระหว่างคิ้วกับหน้าตาก็ยิ่งเหมือนเธอ

เพราะว่า นั่นตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ใช่ลูกติดอะไรเลยสักนิด แต่คือลูกสาวแท้ๆของเธอ

ความจำช่วงนั้นที่เธอสูญเสียไป ถูกคนบังคับลบออก และบังคับตัดการติดต่อของเธอกับลู่จิ่งเซิน

จากนั้นมา เธอถูกคนของกลุ่มมังกรช่วยไว้ หลังจากเข้าร่วมกลุ่มมังกรเพื่อความสะดวกก็ย้ายโรงเรียนเลย เขายิ่งจะไม่มีทางติดต่อตนเองได้

ทั้งหมดนี้จึงจะเป็นความจริงแท้ๆเลยเชียวเหรอ?

จิ่งหนิงมองเห็นตนเองมีน้ำตาไหลลงมา

เธอหลับตาลง คิดอยู่ในใจว่า ก็ให้เป็นเช่นนี้เถอะ!

ในเมื่อความจริงเป็นเช่นนี้ ยกเว้นยอมรับ ไม่มีทางอื่นแล้ว

จิ่งหนิงตื่นขึ้นมา

ลืมตาขึ้นอีก เธอยังคงอยู่ในห้องที่ฟุ่มเฟือยเต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นกฤษณาห้องนั้น

เธอนั่งอยู่บนเบาะรองนั่งหวาย มีลักษณะก่อนที่เธอจะเข้าไปในความทรงจำของตนเองเหมือนเดิม สิ่งที่ไม่เหมือนคือหนานกงจิ่นไม่ได้ยืนอยู่ข้างกายเธออีก แต่กลับไปนั่งอยู่ด้านตรงข้าม

นอกหน้าต่างที่อยู่ไกล มีแสงอาทิตย์ส่องเข้ามา แต่เธอกลับไม่รู้สึกถึงความอบอุ่นเลยสักนิด ทั้งตัวล้วนหนาวเย็นถึงกระดูก

หนานกงจิ่นลืมตาจ้องมองเธอ ถามว่า “ล้วนจำได้แล้วเหรอ?”

สีหน้าของจิ่งหนิงมีความเขียวซีดเล็กน้อย

เธอจ้องมองหนานกงจิ่นอยู่ ถามว่า “เมื่อกี้สิ่งที่ฉันเห็นเหล่านั้น……ล้วนเป็นจริงเหรอ?”

“แน่นอน”

“ทำไม?” จิ่งหนิงมีความงงงวยเล็กน้อย “แต่ก่อนฉันนึกอะไรไม่ออก ทำไมเมื่อกี้ล้วนนึกออกหมดเลยล่ะ?”

“เพราะว่าผมเทชี่แท้เข้าไปในสมองของคุณ พวกเขามีฝีมือลบความจำของคุณ แท้ที่จริงเพียงแค่ใช้วิธีการบางอย่าง ปิดผนึกความทรงจำเมื่อก่อนของคุณไว้ ตัวคุณเองก็นึกถึงบางช่วงได้แล้ว ผมช่วยคุณอีกแรงหนึ่ง ก็นึกออกได้แล้วโดยปริยาย”

หนานกงจิ่นพูดจบ วางแก้วน้ำชาลง อมยิ้มเต็มใบหน้าจ้องมองเธออยู่

“ดังนั้น ตอนนี้คุณก็เข้าใจ ทำไมลู่จิ่งเซินจะอยู่ด้วยกันกับคุณแล้ว?”

สายตาจิ่งหนิงงุนงง

หนานกงจิ่นพูดเสียงเข้มว่า “เขาไม่ใช่ประธานของลู่ซื่อกรุ๊ปอะไรเลยสักนิด สถานะที่แท้จริงของเขาคือผู้รับผิดชอบขององค์กรX องค์กรนี้ก็คือพุ่งเป้ามายังผมโดยเฉพาะ คุณก็รู้เช่นกัน ผมไม่อยากทำร้ายใครเลย ผมแค่อยากจะรวบรวมแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์สิบสองชิ้นให้ครบ ให้เฉียนเฉียนของผมฟื้นคืนชีพ แต่พวกเขากลับอยากจะขัดขวาง คุณว่าผมควรต่อต้านหรือไม่ล่ะ?”

จิ่งหนิงเม้มปากอย่างแน่น ไม่ได้พูด

หนานกงจิ่นก็ไม่ร้อนใจเช่นกัน พูดต่ออีกว่า “ในตอนต้นเพื่อความลับนี้พวกเขาสามารถลบความจำของคุณ โยนกายคุณที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสทิ้งลงไปในทะเลโดยไม่สนใจไยดี ตอนนี้เพื่อความลับนี้ไม่ถูกทำให้รั่วไหลพวกเขาก็สามารถดักซุ่มอยู่ข้างกายของคุณอีกครั้ง โชคดีคุณสูญเสียความจำแล้วจริงๆ ถ้าหากไม่ใช่ เชื่อหรือไม่ว่าคุณตายโดยร่างกายไม่สมบูรณ์มานานแล้ว ไม่มีโอกาสนั่งอยู่ต่อหน้าผมอีกเลยสักนิด”

คำพูดนี้ กลับทำให้สีหน้าของจิ่งหนิงแป๊บเดียวก็ขึงลับลงมา

“คุณพูดเหลวไหล! ลู่จิ่งเซินจะไม่ทำร้ายฉันอย่างเด็ดขาด!”

“ใช่เหรอ? ในเมื่อเขาไม่อยากทำร้ายคุณ มาถึงข้างกายคุณ ก็ไม่มีความคิดที่จะสำรวจคุณว่ายังจำเรื่องในปีนั้นได้หรือไม่เลย งั้นทำไมเขาไม่ยอมเล่าสิ่งเหล่านี้ให้คุณฟังล่ะ?”

หนานกงจิ่นหยุดชะงักแล้วหยุดชะงักอีก พูดยั่วยุล่อลวงต่ออีกว่า “แต่ก่อนไม่พูดตามน้ำใจเหตุผลยังยกโทษให้ได้ แต่ตอนนี้ พวกคุณไม่ใช่ล้วนรู้เรื่องของผมแล้วเหรอ? พวกคุณหาแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ทั่วโลก แต่คุณย่อมนึกไม่ถึงแน่นอนล่ะ แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ที่เหลือหลายชิ้นนั้น ตามความจริงก็อยู่ในมือของลู่จิ่งเซิน ดังนั้นไม่ว่าพวกคุณหาอยู่ข้างนอกยังไง ล้วนหาไม่เจออยู่แล้ว เพราะว่านั่นเดิมทีก็อยู่ในมือเขาแล้ว”

จิ่งหนิงสีหน้าซีดขาว

“คุณพูดอะไรนะ? ในมือเขามี……”

“ใช่!”

พูดถึงสิ่งนี้ บนใบหน้าของหนานกงจิ่นแว็บผ่านความขึงลับหนึ่งที

“อยู่ในสิบปีก่อน เพื่อแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์หลายชิ้นนั้นที่ตกอยู่ในมือเขาตลอดเวลาผมก็ถูกเขาทำให้อยู่ต่อจนถึงตอนนี้ แต่คุณดูสิล้วนผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว เพื่อแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์กู้ซือเฉียนกับเฉียวฉีบินไปทั่วโลก คุณก็ช่วยพวกเขาหาอย่างสุดจิตสุดใจเช่นกัน แต่ว่าลู่จิ่งเซินล่ะ? อิอิ”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Status: Ongoing

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม? ”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ? ”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่ แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่

นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุก สิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะ กลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขา ต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวาย ส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่นนอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของ ขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้น เดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านใน ถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตา เป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตั้ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไป กระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ….ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จึงหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้ ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย? รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้า ขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ? ”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “.

หนิง?

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียก ปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟ เหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและ ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาด

ใจ อีกทั้ง ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิงหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ปั่นเจ๋อ ใครคะ? ”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมาจาก นั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไป อย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?

จึงหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้า

เหนิงซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่อง ตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของ ตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอา

ไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือ

ออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความ ว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่.”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนัก ข่าวและช่างกล้องเดินตามมา เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทาง เพศ จริงหรือไม่คะ? ”

“นายมู ในฐานะผู้สืบทอดมู่ชื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำ เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มี

ข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ? ” “นายมู..”

มู่ยั่นเจ่อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้ เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น? ” นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตา ของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จึ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

“คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและ

ตำรวจ

11 เพียะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ่อถูกตบ เสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ.

%3D

%3D ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ่อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วย น้ำเสียงเยือกเย็นว่า

กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุน ที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ่อตื่นตระหนก อะไร! ทุนอะไร !!” จึ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้น

ความจำคุณ

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหีๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือ เป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้ เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตาม

ไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จึงหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึง ได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแวว ตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัด ทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็น หลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีก ทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคล ที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้

ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูก ตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายขอ งมู่ชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคน เมื่อกี้”

“ครับ? ” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน? ”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมา ว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบ เดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออก ไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานี ตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็ พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ? ”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่น คือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้น เหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง? ”

จิงหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่ อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ? คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า? ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิงรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่อง หรือไง? ”

จึงหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง….ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหน รีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง? “

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท