วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – บทที่ 1078 ชีวิตนั้นสั้นเกินไป

บทที่ 1078 ชีวิตนั้นสั้นเกินไป

จนถึงพลบค่ำ ลู่จิ่งเซินทำงานเสร็จกลับมาจากข้างนอก เล่นเกมเป็นเพื่อนกับพวกเขาหนึ่งชั่วโมง จึงละลายความโกรธแค้นแบบนี้ได้สำเร็จ

ครั้งนี้จิ่งหนิงกับลู่จิ่งเซินออกไปนานขนาดนี้ กลับมาอีกครั้งล้วนย่อมยุ่งมากอยู่แล้ว

ทั้งสองคนใช้เวลายุ่งในบริษัทนานมาก จึงมีเวลาว่างสักหน่อย

หัวเหยารู้ว่าพวกเขากลับมาแล้ว พาลูกเข้ามาเยี่ยมถึงที่

ปัจจุบันนี้กั๋วกั๋วลูกของเธอก็อายุห้าขวบครึ่งแล้วเช่นกัน ความรักความผูกพันของเธอกับกู้ซือเฉียนก็ดีมากๆเช่นกัน

แม้ว่าแต่ก่อนทั้งสองคนมีความเข้าใจผิดมากมาย แต่ตอนนี้ก็นับได้ว่ารักกันอย่างดูดดื่ม

เริ่มแรกพ่อหัวไม่ยอมให้เธอกับจี้หลินยวนอยู่ด้วยกัน แต่นั่นก็เพียงแค่รู้ว่าเรื่องของจี้หลินยวนกับตระกูลจิ้นค่อนข้างสลับซับซ้อน ไม่อยากให้วันหลังลูกสาวทนทุกข์ทรมานเสียใจภายหลัง

แต่ตอนนี้ล้วนผ่านไปหลายปีขนาดนี้แล้ว เห็นกับตาว่าจี้หลินยวนไม่ได้ปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมกับหัวเหยาเลย

ยังไงพ่อหัวก็ตัดใจจากลูกสาวไม่ลง ปัจจุบันนี้ความสัมพันธ์ของพ่อลูกทั้งสองล้วนคลี่คลายลงไปไม่น้อยแล้ว

บวกกับกั๋วกั๋วเป็นสารหล่อลื่นอยู่ตรงกลางอีก ตอนปีใหม่ทุกปี พ่อหัวล้วนจะเร่งพวกเขากลับไปฉลองปีใหม่ จะได้ให้เขาดูลูกสักหน่อย

ตามความจริงตกลงคือดูลูกคนไหน ก็มีเพียงแค่ในใจเขารู้เองแล้ว

ได้ยินว่าตอนนี้หัวเหยาตั้งครรภ์อีกแล้ว หลังจากผ่านการตรวจเช็ค พบเห็นว่าเป็นลูกสาวอีก

เธอกับจี้หลินยวนล้วนอยากได้ลูกสาวคนหนึ่งมาโดยตลอด ยามปกติเห็นอานอานล้วนชอบและดีใจมากๆ

ปัจจุบันนี้ก็นับได้ว่าได้รับสิ่งที่ปรารถนาแล้ว

จิ่งหนิงกับหัวเหยาพูดคุยกันไปสักพักทั้งยังนัดไปช้อปปิ้งด้วยกันอีก

ที่ที่ทั้งสองคนไปคือห้างสรรพสินค้าที่เจริญรุ่งเรืองระดับไฮเอนด์ที่สุดในเมืองหลวง

คาดไม่ถึง เพิ่งลงจากรถ ยังไม่ทันที่จะเข้าไปในห้างสรรพสินค้า ก็เห็นข้างหน้ามีคนรวมตัวอยู่ด้วยกันมากมาย เหมือนกำลังวิพากษ์วิจารณ์อะไรอยู่

ทั้งสองคนอยากรู้อยากเห็นเดินเข้าไป เดินผ่านฝูงชน เดินเข้าไปจึงพบเห็นมีหญิงชราที่ผมขาวคนหนึ่งนั่งอยู่กับพื้น

หญิงชรานั่งอยู่ที่นั่นเอามือจับขาไว้ตลอด ไอ่หย่าไอ่หย่าร้องไม่หยุด บนขายังมีเลือดไหลออกมาอีก

คนที่ล้อมรอบดูความคึกคักมากมายอยู่ข้างๆกลับไม่มีสักคนยอมเข้าไปช่วย

จิ่งหนิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว พูดเสียงต่ำว่า “คนเหล่านี้ทำไมเป็นอย่างนี้ล่ะ? แค่ยื่นมือช่วยล้วนไม่ทำเป็นเหรอ?”

เธอพูดอยู่ ก็จะเข้าไปพยุงหญิงชราขึ้นมา

นึกไม่ถึงกลับถูกหัวเหยาดึงไว้ทันที

จิ่งหนิงสงสัยงงงวยจ้องมองไปยังหัวเหยา หัวเหยาบุ้ยปากแล้วบุ้ยปากอีกไปยังที่ไม่ไกลแห่งหนึ่ง ส่งสัญญาณให้เธอดู

จิ่งหนิงเงยหน้ามองไป ก็มองเห็นข้างหน้ามีชายรูปร่างใหญ่โตคนหนึ่งกำลังเดินมายังฝั่งนี้

ทั้งเดินอยู่ ในปากยังทั้งด่าทั้งบ่นพูดอะไรอยู่อีก

หญิงชรามองเห็นเขา ร่างกายสั่นระริกนิดๆหนึ่งที

ผู้ชายเดินมาถึงต่อหน้าหญิงชรา พูดเสียงโมโหว่า “มึงเรียกร้องความเห็นใจอะไรอยู่ที่นี่อีกล่ะ? รู้สึกว่าทำให้กูขายหน้ายังไม่พอเหรอ? มึงคิดว่ามึงออกมาร้องไห้หน่อย เรียกร้องความเห็นใจก็จะมีคนช่วยมึงได้แล้วเหรอ?”

พอเขาพูดคำนี้ออกมา ทันใดนั้นข้างๆมีคนทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว

“เหว่ย ผมว่าหวังหม่าจื่อ ตกลงว่าคุณมีเรื่องอะไรกันแน่ นี่ไม่ว่ายังไงก็เป็นคุณแม่ของคุณ คุณทำอย่างนี้กับเธอได้ยังไงล่ะ?”

“ก็ใช่ ตอนที่เยาว์วัยเลี้ยงดูคุณอย่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจนโต ถึงแม้ไม่ใช่ผู้ให้กำเนิด แต่บุญคุณแห่งการเลี้ยงดูอบรมจะใหญ่กว่า บุญคุณแห่งการให้กำเนิดเสมอ คุณมีมโนธรรมหน่อยได้หรือไม่ล่ะ”

เมื่อกี้พวกมวลชนที่มุงดูอยู่ไม่กล้าเข้าไปพยุงหญิงชรา ทันใดนั้นส่งเสียงเอะอะโวยวายขึ้นมา

ชายเยาว์วัยที่ถูกเรียกว่าหวังหม่าจื่อเบิกตาโพลง พูดเสียงโมโหกับมวลชนที่อยู่บริเวณรอบๆว่า “ เรื่องของบ้านกูเกี่ยวเหี้ยอะไรกับพวกมึง? เธอเป็นแม่ของกูก็ไม่ใช่แม่ของพวกมึง พวกมึงมีน้ำใจขนาดนี้รับเธอไปเลี้ยงที่บ้านพวกมึงสิ”

“เอ๊ะ คุณคนนี้ทำไมพูดอย่างนี้ล่ะ”

“พวกเราทนดูต่อไม่ไหวจริงๆจึงพูดบ้าง คุณชอบฟังก็ฟังคุณไม่ชอบฟังก็แล้วไป”

“เป็นคนไม่มีมโนธรรมขนาดนี้ ระมัดระวังฟ้าจะลงโทษโอ้ว”

ทุกคนล้วนเอ่ยปากอย่างโมโห

ยังไงจิ่งหนิงก็นึกไม่ถึง ผู้ชายคนนี้กลับกลายเป็นลูกชายของหญิงชรานี้

ได้ยินคำพูดของผู้มุงดู ดูเหมือนไม่ใช่ลูกแท้ๆ

แต่ไม่ว่าไม่ใช่ลูกแท้ๆยังไง ก็ปล่อยแม่บุญธรรมของตนเองไม่มีคนสนใจนั่งอยู่บนถนนอย่างนี้ไม่ได้เช่นกันล่ะ?

บนใบหน้าของเธอปรากฏความโมโหเล็กน้อย

ก็อยู่ในเวลานี้ หญิงชราค่อยๆคลานขึ้นมา

บนใบหน้าที่แก่หง่อมของเธอขอบตาแดง เต็มไปด้วยสีหน้าละอายใจเล็กน้อย พูดกับคนที่อยู่บริเวณรอบๆว่า “พวกคุณ อย่าพูดอีกเลย ไม่โทษลูกชายของฉัน ล้วนเป็นความผิดของฉัน เป็นฉันไม่ทันระมัดระวังล้มลงเองล่ะ”

“ผมว่าหญิงชรา ทำไมล้วนถึงเวลานี้แล้ว คุณยังคุ้มครองรักษาเขาขนาดนี้อีกล่ะ”

“คุณกล้ำกลืนความทุกข์ยากเลี้ยงเขาสิบกว่าปี ตอนนี้เขาโตแล้วแต่งงานมีลูกแล้ว ก็ไม่ปฏิบัติต่อคุณอย่างคน คุณทำไมต้องตามใจเขาอย่างนี้อยู่ตลอดจนเสียคนล่ะ?”

“ตามที่ผมว่า สภาพการณ์แบบนี้ก็ควรไปยื่นฟ้องต่อศาล ฟ้องเขาปฏิบัติอย่างโหดร้ายทารุณต่อคนแก่”

พอชายวัยกลางคนได้ยินคำพูดของพวกเขา ทันใดนั้นจ้องมองด้วยสายตาโมโห

หญิงชราร้อนใจจนอธิบายไม่หยุด

“ลูกชายของฉันไม่ได้ปฏิบัติอย่างโหดร้ายทารุณต่อฉันจริงๆ พวกคุณห้ามว่าเขาอีกเลย พวกคุณว่าเขาอีกฉันก็จะไปฟ้องพวกคุณใส่ร้ายป้ายสี!”

พอทุกคนได้ยินคำพูดนี้ของเธอ ทันใดนั้นโมโหเหลือเกิน

และหัวเหยากับจิ่งหนิงที่ยืนอยู่ไม่ไกล ก็ยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดสั้นๆได้เต็มใบหน้าเช่นกัน

มิน่าก่อนหน้านี้หญิงชราล้มลงกับพื้น ล้วนไม่มีคนยอมเข้าไปพยุง

ตอนนี้ดูแล้ว เรื่องนี้โทษคนข้างๆไม่ได้เช่นกัน

ถึงยังไงดูตามสภาพการณ์ที่หญิงชราคุ้มครองบุตรชายบุญธรรมของบ้านตนเอง เธอดูเหมือนเป็นคนที่แยกไม่ออกว่าคนข้างๆมีเจตนาดีหรือเจตนาร้ายเช่นกัน

ไม่แน่ว่าถึงเวลานั้นเรื่องดียังทำไม่สำเร็จ ยังจะหาเหาใส่หัวอีก

ไม่ว่าคนทั่วไปใครคนหนึ่ง ล้วนจะไม่ยินยอมไปทำเรื่องอย่างนี้ล่ะ

ชายวัยกลางคนเห็นหญิงชราพูดอย่างนี้ บนใบหน้าแว็บผ่านความกระหยิ่มยิ้มย่องหนึ่งที

จากนั้นไม่เย็นชาไม่ร้อนใจ พูดว่า “พอแล้ว เรื่องของบ้านกูยังไม่ถึงต้องให้พวกมึงคนเหล่านี้มาพูดแทรก ไม่มีเรื่องอื่นก็รีบกลับไปเถอะ! อย่าให้อับอายขายหน้าอยู่ข้างนอกเลย”

หญิงชราจ้องมองเขาหนึ่งที เปิดริมฝีปากอยากคุยแต่ลังเลสักพัก

สุดท้ายไม่ได้พูดอะไร เอามือจับแขนไว้เดินกะเผลกๆไปยังทิศทางที่จะไปบ้าน

ชายวัยกลางคนนี่จึงตามไป

หัวเหยาถอนหายใจหนึ่งที

“พอแล้ว พวกเราก็เข้าไปด้วยเถอะ”

จิ่งหนิงพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก

ทั้งสองคนเข้าไปในห้างสรรพสินค้า ไม่ได้เอาเรื่องที่แทรกเล็กน้อยเมื่อกี้วางไว้ในใจเลยสักนิด

นานมากที่จิ่งหนิงไม่เคยออกมาช้อปปิ้งผ่อนคลายสักหน่อยแล้ว วันนี้ยากที่จะมีเวลา ทั้งยังช้อปปิ้งด้วยกันกับเพื่อนสนิทที่ดีอีก ก็ไม่อยากมีผลกระทบถึงอารมณ์เช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ ทั้งสองคนช้อปปิ้งไปสักพัก ก็ได้ไปร้านเสริมสวยที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ทำSPAสักหน่อย

นอนอยู่บนเตียงนวด จิ่งหนิงอยู่ดีๆพูดว่า “เหยาเหยา ครั้งนี้ฉันอยู่ต่างประเทศอยู่ดีๆคิดออกได้เรื่องหนึ่ง”

หัวเหยาหลับตาอยู่ อืม เสียงหนึ่ง ให้สัญญาณว่าตนเองฟังอยู่

จิ่งหนิงถอนหายใจพูดว่า “ชีวิตนั้นสั้นเกินไป ต้องทะนุถนอมคนที่อยู่ต่อหน้าจริงๆ ฉันรู้ว่าความรักความผูกพันของแกกับจี้หลินยวนดีมาก ฉันรู้สึกยินดีมากจริงๆ พวกแกล้วนมีความสุขมาก ไม่ว่าแต่ก่อนพบเจอกับอะไร สุดท้ายล้วนยืนหยัดไว้ได้ แต่ไม่เหมือนอย่างหนานกงจิ่นแบบนั้น สุดท้ายจบอย่างน่าเสียใจ”

หนังตาของหัวเหยากระตุกนิดๆหนึ่งที มุมปากอมยิ้มหนึ่งที

“หนิงหนิง แต่ละคนล้วนมีชะตากรรมของแต่ละคน ชะตากรรม เป็นการตัดสินมาจากนิสัย นิสัยของหนานกงจิ่นก็ตัดสินแล้วว่าเขาจะไม่มีสภาพที่ดี เขาเฉียบขาดมากเกินไปแล้ว ก็เห็นแก่ตัวมากเกินไปแล้วเช่นกัน ไม่ว่าจะอยู่หรือตาย ล้วนไม่เคยเคารพการตัดสินใจของเฉียนเฉียนมาก่อน คุณรู้สึกว่าเขาตั้งใจอยากจะให้เฉียนเฉียนฟื้นคืนชีพ เป็นเพราะว่ารักเธอจริงๆเหรอ?”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Status: Ongoing

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม? ”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ? ”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่ แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่

นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุก สิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะ กลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขา ต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวาย ส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่นนอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของ ขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้น เดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านใน ถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตา เป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตั้ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไป กระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ….ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จึงหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้ ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย? รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้า ขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ? ”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “.

หนิง?

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียก ปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟ เหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและ ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาด

ใจ อีกทั้ง ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิงหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ปั่นเจ๋อ ใครคะ? ”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมาจาก นั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไป อย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?

จึงหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้า

เหนิงซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่อง ตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของ ตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอา

ไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือ

ออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความ ว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่.”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนัก ข่าวและช่างกล้องเดินตามมา เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทาง เพศ จริงหรือไม่คะ? ”

“นายมู ในฐานะผู้สืบทอดมู่ชื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำ เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มี

ข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ? ” “นายมู..”

มู่ยั่นเจ่อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้ เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น? ” นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตา ของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จึ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

“คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและ

ตำรวจ

11 เพียะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ่อถูกตบ เสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ.

%3D

%3D ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ่อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วย น้ำเสียงเยือกเย็นว่า

กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุน ที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ่อตื่นตระหนก อะไร! ทุนอะไร !!” จึ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้น

ความจำคุณ

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหีๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือ เป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้ เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตาม

ไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จึงหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึง ได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแวว ตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัด ทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็น หลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีก ทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคล ที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้

ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูก ตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายขอ งมู่ชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคน เมื่อกี้”

“ครับ? ” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน? ”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมา ว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบ เดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออก ไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานี ตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็ พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ? ”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่น คือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้น เหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง? ”

จิงหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่ อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ? คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า? ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิงรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่อง หรือไง? ”

จึงหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง….ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหน รีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง? “

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน