วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – บทที่ 1086 แม่บุญธรรมมาแล้ว

บทที่ 1086 แม่บุญธรรมมาแล้ว

แล้วจิ่งหนิงก็พูดขึ้นอีกว่า “เดี๋ยวฉันเสร็จแล้วจะเรียกคุณค่ะ”

พอเห็นท่าทางที่เขินอายมากแบบนี้ของเธอแล้ว ลู่จิ่งเซินก็อดไม่ได้ที่จะหลุดขำออกมา

“ก็ได้ งั้นคุณระวังหน่อยนะ เสร็จแล้วเรียกผมนะ”

“ค่ะ”

ลู่จิ่งเซินเปิดประตูแล้วเดินออกไปเลย

หลังจากผ่านไปประมาณสามนาทีแล้ว ข้างในก็มีเสียงที่เขินอายของจิ่งหนิงลอยออกมา

“ฉันเสร็จแล้วค่ะ”

เขาถึงได้เปิดประตูเดินเข้าไปอีกครั้ง แล้วช่วยเธอจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วก็อุ้มเธอออกมา

พอจิ่งหนิงนอนลงบนเดียว วินาทีนี้ เด็กทารกที่นอนอยู่ในเปลก็ตื่นขึ้นมาแล้ว

แล้วลู่จิ่งเซินก็อุ้มพวกเขาออกมา แล้วก็เปลี่ยนแพมเพิสรวมทั้งป้อนนมให้พวกเขาตามคำแนะนำของจิ่งหนิง

พวกเด็ก ๆ ยังเล็กมาก และก็เป็นฝาแฝดอีก จิ่งหนิงตัวคนเดียวนั้นป้อนไม่ไหวหรอก

และเพราะเหตุนี้จึงป้อนนมแม่ครึ่งหนึ่งและนมผงครึ่งหนึ่ง

ยังดีที่สุขภาพของเจ้าเด็กน้อยทั้งสองคนยังไม่เลว ในตอนที่ถือขวดนมไว้นั้น มือทั้งสองข้างจับไว้แน่นเลย มีบางครั้งแม้แต่จิ่งหนิงก็ดึงไม่ออกเลย

สองวันมานี้ ท่านปู่ลู่และนายหญิงหชินก็มาเยี่ยมทุกวัน

ด้านหนึ่งนั้นเพื่อมาดูพวกเหลน ๆ ส่วนอีกด้านหนึ่งก็เพื่อมาเยี่ยมจิ่งหนิงด้วย

ครั้งนี้ท่านย่ารู้แล้วว่าจิ่งหนิงต้องลำบาก และยังตั้งใจซื้อต้นปะการังต้นใหญ่ต้นหนึ่งมาวางไว้ที่วิลล่าเฟิงเฉียวอีกด้วย

ความหมายก็เพื่อเป็นมงคลสุขภาพแข็งแรง หวังว่าจิ่งหนิงจะสามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างรวดเร็ว และก็หวังว่าพวกเด็กจะเติบโตขึ้นไปอย่างสุขภาพแข็งแรง

แน่นอนว่าจิ่งหนิงต้องมีความสุขอยู่แล้ว

พอถึงวันที่สาม หัวเหยาก็มาแล้ว

ตอนแรกหัวเหยากะว่าจะมาอยู่เป็นเพื่อนตอนที่จิ่งหนิงคลอดลูกนะ แต่คิดไม่ถึงว่าจิ่งหนิงจะคลอดก่อนกำหนดได้

ในเวลานั้น หัวเหยายังอยู่เป็นเพื่อนจี้หลินยวนจัดการธุระอยู่ต่างประเทศ และด้วยเหตุนี้จึงรีบกลับมาไม่ทัน

มาวันนี้กว่าจะกลับมาอย่างยากลำบากได้แล้ว แน่นอนว่าจะต้องมาดูพวกลูกชายและลูกสาวบุญธรรมของเธอก่อนเป็นอันดับแรกแน่นอน

ใช่ เนื่องจากอานอานและจิ้งเจ๋อน้อยต่างก็ไม่สามารถเป็นลูกชายและลูกสาวบุญธรรมของหัวเหยาได้ ในเมื่อเวลานั้น หัวเหยายังคงขุ่นเคืองกับเรื่องของตัวเองและจี้หลินยวนอยู่ และก็ไม่มีอารมณ์ไปคิดเรื่องพวกนี้

แต่ว่าครั้งนี้ เรื่องทุกอย่างก็จบลงหมดแล้ว แน่นอนว่าเธอจะต้องไม่พลาดไปอีกแน่

หัวเหยาซื้อกำไลข้อมือทองคำมาให้พวกเขาคนละคู่ ไม่ใช่เพราะว่าต้องการอวดร่ำอวดรวย เพียงแต่เพราะเด็ก ๆ แรกเกิดของที่นี่ต่างก็มีวัฒนธรรมสืบต่อกันมาแบบนี้

หลังคลอดออกมาแล้วให้ใส่กำไลทอง ก็มีความหมายว่าเป็นการอวยพรอย่างหนึ่ง

จิ่งหนิงมองดูเธอนั่งเล่นกับเด็ก ๆ อยู่ตรงนั้นไปอย่างยิ้มแย้ม เจ้าตัวเล็กสองคนนั่งชูไม้ชูมือที่อ้วนจ้ำม่ำขึ้น ไปคว้าของเล่นผ้าที่เธอห้อยไว้กลางอากาศ

ภาพไม่ต้องพูดถึงเลยว่าอบอุ่นมากแค่ไหน

และก็ในเวลานี้ จี้หลินยวนก็เดินเข้ามาพอดี

เพราะว่าหัวเหยามาถึงก่อน จี้หลินยวนไปทำธุระมา ก็เลยไม่ทันได้มาด้วยกัน

พอตอนนี้มาแล้ว ถึงได้เอาของขวัญที่ตัวเองจะให้เด็ก ๆ มอบออกมา

ของขวัญที่มาจากผู้สืบทอดของตระกูลจิ้น แน่นอนว่าจะต้องราคาแพงเป็นอย่างมากแน่

จิ่งหนิงยิ้มแล้วก็ช่วยพูดขอบคุณแทนเด็ก ๆ จี้หลินยวนมองไปรอบ ๆ ห้องทีหนึ่ง ก็ไม่เห็นลู่จิ่งเซิน แล้วก็ถามขึ้นอย่างแปลกใจว่า “ลู่จิ่งเซินล่ะ?”

“เขามีธุระเพิ่งออกไปเมื่อกี้ค่ะ”

ช่วงที่ผ่านมานี้ลู่จิ่งเซินอยู่เป็นเพื่อนเธอมาตลอด แล้วก็ไม่ได้ไปจัดการเรื่องของงานเลย

ตอนนี้สถานการณ์ส่วนใหญ่ของเธอก็สงบนิ่งลงมาแล้ว ไม่มีอะไรอุปสรรคอะไรมากแล้ว แล้วก็มีโม่หนานกับพยาบาลอยู่ด้วย พวกโม่ไฉ่เวยกับท่านย่าก็มาหาบ่อย ๆ ในห้องผู้ป่วยนั้นไม่เงียบเหงาเลย แต่กลับดูจะคึกคักเกินไปหน่อยด้วยซ้ำ

เพราะฉะนั้น ลู่จิ่งเซินถึงได้วางใจจากไปเป็นเวลาสั้น ๆ ครู่หนึ่ง

พอจี้หลินยวนได้ยิน ก็พยักหน้าเล็กน้อย

จิ่งหนิงมองดูปฏิกิริยาของ แล้วพูดอย่างคาดเดาขึ้นว่า “คุณมีธุระหาเขาเหรอคะ?”

“อืม มีธุระนิดหน่อย”

น้ำเสียงของเขาหนักหน่วงเล็กน้อย ใจของจิ่งหนิงจึงอดไม่ได้ที่จะเต้นกระตุกขึ้นมาทีหนึ่ง

ความรู้สึกที่ไม่ดีอย่างหนึ่งพุ่งขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

“รีบร้อนมากเหรอคะ? ถ้าไม่รีบมากก็นั่งรอสักครู่ก่อนได้ค่ะ เขาน่าจะกลับมาเร็ว ๆ นี้แล้ว”

จิ่งหนิงพูดแล้ว ก็ชี้ไปที่โซฟาในห้องรับแขกข้างนอก

ห้องที่เธออยู่เป็นห้องชุดขนาดใหญ่ เป็นห้องพักผู้ป่วยแบบVVIP

จิ่งหนิงอยู่ในห้องนอนที่อยู่ข้างใน ข้างนอกเป็นพวกห้องรับแขก และห้องครัวเล็กอะไรพวกนั้น

จี้หลินยวนเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ และมองหัวเหยาทีหนึ่ง

หัวเหยากำลังนั่งหันหลังให้กับเขากำลังเล่นกับเด็ก ๆ อยู่ ไม่ได้สนใจเขาเลยสักนิด แล้วก็พูดไปตรง ๆ ว่า “คุณไปเถอะ ฉันจะอยู่กับลูกชายและลูกสาวบุญธรรมของฉันที่นี่”

จี้หลินยวนรู้สึกหดหู่เล็กน้อย

แต่สุดท้าย เขาก็ยังออกไปรอที่ข้างนอกตัวคนเดียว

ในเมื่อ หัวเหยาสามารถอยู่เป็นเพื่อนจิ่งหนิงและเด็ก ๆ ในห้องนอนได้ แต่เขาเป็นชายตัวโตคนหนึ่งอยู่ด้วย ยังไงก็ต้องรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง

โชคยังดี ลู่จิ่งเซินไม่ได้ให้เขารอนานมากเกินไป

ประมาณสิบกว่านาทีให้หลัง ก็กลับมาแล้ว

พอเข้าประตูมา มองเห็นจี้หลินยวนที่นั่งอยู่บนโซฟา ก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

“ทำไมคุณถึงมาได้ล่ะ?”

จี้หลินยวนลุกขึ้นมา

“มีเรื่องอยากจะคุยกับคุณนิดหน่อย”

ท่าทีของเขาดูไปแล้วไม่เหมือนกับว่าจะพูดเรื่องดีอะไร ลู่จิ่งเซินคิดดูเล็กน้อย แล้วก็พยักหน้าให้

“ได้ รอผมเอาของไปวางก่อน เดี๋ยวเราเปลี่ยนที่คุยกันสักที่ดีกว่า”

เขาพูดแล้ว ก็หิ้วของในมือที่เพิ่งซื้อมาให้จิ่งหนิงซึ่งเป็นของที่เธอชอบกินทั้งนั้น และเดินเข้าห้องนอนไป

ในวินาทีนี้ ในห้องนอน

หัวเหยาได้อุ้มเด็กออกมาจากเปลนอนแล้ว

เจ้าจันทร์น้อยโดนเธออุ้มไว้ในอ้อมอก แต่เจ้าเพรชน้อยกลับนอนอยู่ในข้อพับของจิ่งหนิงบนเตียง เด็กทั้งสองโดนพวกเธอสองคนหยอกเล่นจนหัวเราะคิกคัก

การมาถึงของลู่จิ่งเซิน ได้ดึงดูดความสนใจของเด็ก ๆ ไป ต่างก็ลืมตางดงามดวงโตคู่หนึ่งอยู่ แล้วมองไปทางประตูอย่างแปลกใจ

ในตอนที่พวกเขาเพิ่งเกิดมานั้น ลู่จิ่งเซินยังมีความรังเกียจพวกเขาอยู่เล็กน้อย

ตอนนี้ผ่านมาไม่กี่วัน เด็ก ๆ ก็ได้เปลี่ยนจากสีแดงคล้ำผิวย่น ๆ ในตอนที่แรกเกิด เปลี่ยนมาเป็นตัวสีชมพูอ่อนนุ่มราวกับเพชรพลอยราวกับไข่มุกอย่างในตอนนี้

ในใจของลู่จิ่งเซินนั้นรู้สึกหลงรักแทบไม่ไหว เดินไปถึงก็หอมบนแก้มของเจ้าตัวเล็กคนละหนึ่งที

จิ่งหนิงยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “คุณไปไหนมาคะ?”

“ไปทำธุระนิดหน่อย แล้วก็ยังซื้อของหวานที่คุณชอบมาให้คุณหน่อยด้วย”

เพราะว่าตอนนี้จิ่งหนิงยังต้องอยู่ไฟอยู่ อาหารของคนอยู่ไฟนั้นค่อนข้างที่จะจืดชืดจริง ๆ จิ่งหนิงมักจะรู้สึกว่าในปากจืดชืดจนอดอยากปากแห้งมากเลย

วันนี้กว่าจะได้ถือโอกาสที่คนอื่นไม่อยู่ จึงได้ขอร้องให้ลู่จิ่งเซินช่วยซื้อของอะไรที่มีรสชาติมาให้เธอกินหน่อย

ลู่จิ่งเซินโดนเธอตื๊อจนเหนื่อยหน่าย จึงแอบไปถามเชวซู่เป็นการส่วนตัวว่าตอนนี้กินของหวาน จะผลกระทบอะไรต่อร่างกายผู้หญิงหลังคลอดหรือเปล่า

พอได้คำตอบจากเชวซู่ว่ากินนิดเดียวไม่เป็นไรแล้ว ถึงได้ไปซื้อให้เธอด้วยตัวเอง

พอจิ่งหนิงได้ยินว่าซื้อของหวานมา ดวงตาก็สว่างขึ้นเลย

พอรับของมาอย่างเบิกบานใจสุด ๆ ก็ได้ยินลู่จิ่งเซินพูดขึ้นว่า “จี้หลินยวนมีธุระจะมาคุยกับผม ผมก็เลยจะออกไปอีกครั้ง คุณพักผ่อนไปดี ๆ ก่อนนะ ถ้ามีเรื่องอะไรก็เรียกพยาบาล หรือว่าโทรศัพท์หาผมนะ”

จิ่งหนิงอึ้งไปเล็กน้อย พอคิดถึงท่าทีของจี้หลินยวนเมื่อกี้ คิ้วเรียวก็ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย

“มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแล้วใช่หรือเปล่าคะ? พวกคุณ……”

“ไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”

ลู่จิ่งเซินลูบหัวเธออย่างปลอบโยนเล็กน้อย และข้าง ๆ หัวเหยาเองก็พูดเกลี้ยกล่อมขึ้นด้วยว่า “เธอไม่ต้องไปเป็นกังวลแทนพวกเขาแล้ว เป็นเรื่องของผู้ชายทั้งนั้น ให้พวกเขาไปจัดการกันเองเถอะ”

พอจิ่งหนิงได้ยิน ก็เงียบขรึมไปครู่หนึ่งทันที แต่สุดท้ายก็พยักหน้าให้เล็กน้อย

“งั้นคุณระวังตัวหน่อยนะคะ”

เธอเงยหน้าขึ้นมามองลู่จิ่งเซิน แล้วก็พูดขึ้นอย่างห่วงใย

หัวใจของลู่จิ่งเซินอ่อนไปส่วนหนึ่ง ยิ่งรู้สึกรักเธอจนแทบไม่ไหวแล้ว แล้วก็ก้มหน้าลงไปจูบหน้าผากเธอเล็กน้อย

แล้วถึงได้พยักหน้าและพูดขึ้นว่า “ได้ ผมจะระวัง”

พูดจบ ก็หมุนตัวออกไปเลย

รอจนแผ่นหลังของชายหนุ่มหายไปจากประตูจนหมดแล้ว จิ่งหนิงถึงได้ดึงแขนเสื้อของหัวเหยาทีหนึ่งอย่างแปลกใจ

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Status: Ongoing

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม? ”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ? ”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่ แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่

นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุก สิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะ กลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขา ต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวาย ส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่นนอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของ ขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้น เดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านใน ถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตา เป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตั้ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไป กระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ….ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จึงหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้ ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย? รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้า ขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ? ”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “.

หนิง?

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียก ปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟ เหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและ ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาด

ใจ อีกทั้ง ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิงหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ปั่นเจ๋อ ใครคะ? ”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมาจาก นั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไป อย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?

จึงหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้า

เหนิงซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่อง ตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของ ตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอา

ไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือ

ออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความ ว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่.”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนัก ข่าวและช่างกล้องเดินตามมา เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทาง เพศ จริงหรือไม่คะ? ”

“นายมู ในฐานะผู้สืบทอดมู่ชื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำ เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มี

ข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ? ” “นายมู..”

มู่ยั่นเจ่อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้ เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น? ” นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตา ของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จึ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

“คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและ

ตำรวจ

11 เพียะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ่อถูกตบ เสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ.

%3D

%3D ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ่อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วย น้ำเสียงเยือกเย็นว่า

กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุน ที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ่อตื่นตระหนก อะไร! ทุนอะไร !!” จึ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้น

ความจำคุณ

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหีๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือ เป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้ เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตาม

ไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จึงหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึง ได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแวว ตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัด ทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็น หลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีก ทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคล ที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้

ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูก ตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายขอ งมู่ชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคน เมื่อกี้”

“ครับ? ” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน? ”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมา ว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบ เดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออก ไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานี ตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็ พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ? ”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่น คือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้น เหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง? ”

จิงหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่ อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ? คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า? ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิงรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่อง หรือไง? ”

จึงหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง….ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหน รีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง? “

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน