บัลลังก์หมอยาเซียน – ตอนที่ 40

ตอนที่ 40

บทที่ 40 แผนถูกเปิดเผย

  หยวนชิงหลิงตามทังหยางไปถึงห้องโถงหลัก

ตลอดทาง ทังหยางได้พูดความเป็นมาให้นางฟังแล้ว

เรื่องที่นางรักษาไท่ซ่างหวงด้วยตนเอง ฮ่องเต้รับรู้แล้ว โมโหเป็นอย่างมาก ได้สั่งให้มู่หรูกงกงมานำคนมาพานางเข้าวังเพื่อถามความ

ในใจของหยวนชิงหลิงรู้สึกกังวลอยู่บ้าง กฎของวังนางก็รู้อยู่บ้าง นางไม่ใช่หมอหลวง ไม่ใช่หมอ ไม่มีสิทธิ์จะรักษาให้กับไท่ซ่างหวง

มู่หรูกงกงนั่งรออยู่ในโถงด้วยสีหน้าหนักอึ้ง เห็นหยวนชิงหลิงเข้ามา เขาก็ยืนขึ้น เอ่ยเรียบๆว่า “พระชายาฉู่ ฮ่องเต้เชิญท่านเข้าวัง”

หยวนชิงหลิงถามเพียงคำถามเดียว “ไท่ซ่างหวงเป็นอย่างไรบ้าง”

“ไท่ซ่างหวงถูกพิษสลบไปแล้ว”มู่หรูกงกงเอ่ยเสียงเย็น

หยวนชิงหลิงหลุบตาลง

หรือว่าฮ่องเต้จะหาคนทำผิด หากเพียงแค่รักษาแล้วไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้น เช่นนั้นนางก็จะไม่มีทั้งความผิดและความชอบ แต่พอมีเรื่องขึ้น เช่นนั้นโทษทั้งหมดคงต้องตกเป็นของนาง

อีกอย่าง เป็นการถูกพิษ

เดินตามมู่หรูกงกงออกไปนอกประตูจวน จึงเห็นว่ารองผู้บัญชาการมหาดเล็กกู้ซือก็มา

กู้ซือแววตานิ่งเฉย “เชิญพระชายาขึ้นรถ”

ด้านล่างไม่ได้วางเบาะรองเอาไว้

หยวนชิงหลิงปีนขึ้นรถม้าอย่างทุลักทุเล ตอนที่ม่านปิดลง นางเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้กำชับทังหยาง ให้สังเกตว่าหยู่เหวินเห้ามีไข้หรือไม่ จึงได้รีบเปิดม่านขึ้นบอกกับกู้ซือว่า “ข้ามีเรื่องจะพูดกับทังหยาง”

กู้ซือแววตาเย็นชา “ทางที่ดีพระชายาอย่าทำเรื่องที่ไร้ประโยชน์เลย สนใจแต่เพียงเรื่องการเข้าวังก็พอ”

หยวนชิงหลิงอึ้งไป “เรื่องไร้ประโยชน์ หมายความว่าไง”

“เอาตัวเองให้รอด อย่าพาท่านอ๋องลงน้ำด้วย”กู้ซือเอ่ยเสียงเย็น

หยวนชิงหลิงยิ้มเย็น “เป็นอย่างนี้นี่เอง เช่นนั้นก็รบกวนใต้เท้ากู้ช่วยส่งข่าว ให้ทังหยางสังเกตท่านอ๋องด้วยว่ามีไข้หรือไม่ หากมีไข้ ไข้สูงมาก ก็ให้ท่านอ๋องกินยาที่ข้าวางไว้บนหัวเตียงหนึ่งเม็ด นั่นจะช่วยลดไข้ได้อย่างรวดเร็ว ”

ม่านปิดลง ปิดบังสีหน้าเย็นชาของนาง

ในใจเย็นจนถึงขีดสุดแล้ว นี่มันเป็นสังคมที่เต็มไปด้วยความสงสัยทุกที่

กู้ซือขี่ม้านำทาง ถือว่าฮ่องเต้ยังช่วยหยวนชิงหลิงรักษาหน้าเอาไว้ ไม่ได้เรียกนางเข้าวังเพื่อไต่สวนอย่างเอิกเกริก แต่ใช้รถม้าที่สง่างาม บอกว่ามารับนางไปไต่ถาม แต่หยวนชิงหลิงถูกพาไปที่ห้องหนังสือของฮ่องเต้

ในห้องหนังสือ ประตูหน้าต่างปิดลง แสงแดดถูกกั้นไว้ภายนอก มีความอบอ้าวอย่างที่ลมพัดผ่านไม่ได้

สีสันในตำหนักนั้นสดใสสวยงาม แสงที่ลอดผ่านเข้ามามีความนุ่มนวลราวกับคลื่นน้ำที่ถูกลมพัดอย่างอ่อนโยน มองเห็นเส้นแสงชัดเจน

ฮ่องเต้หมิงหยวนนั่งอยู่ที่เก้าอี้มังกร มือทั้งสองข้างวางอยู่บนโต๊ะไม้หลีฮวาที่แกะสลักลวดลายมังกรขดตัวอยู่ บนโต๊ะมีกระถางธูปสามขาที่ทำจากทองแดงวางอยู่ กำลังมีควันจางๆพวยพุ่งออกมาสู่ด้านนอก มีกลิ่นคล้ายการบูรอยู่จางๆ นั่นมันกลิ่นแห่งความเผด็จการ ทำให้รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันที

ความร่ำรวยและอำนาจของโอรสสวรรค์ กระจายอยู่ทุกที่ ทำให้คนเข่าอ่อนอย่างช่วยไม่ได้ คิดอยากจะคุกเข่าลง

นี่เป็นพลังของอำนาจแห่งฮ่องเต้

ได้แทรกอยู่ในทุกอณูของบรรยากาศ

หยวนชิงหลิงไม่กล้ามองฮ่องเต้หมิงหยวน จุดที่สายตาจรดลง ได้แต่มองเงาหนึ่งอย่างเงียบๆ นางคุกเข่าลง “หยวนชิงหลิงคำนับเสด็จพ่อ”

“เงยหน้าขึ้น ”น้ำเสียงของฮ่องเต้หมิงหยวนไม่หนักมาก แต่กลับทำให้รู้สึกว่าเสียงนั้นส่งมาจากทั่วทุกทิศ

หยวนชิงหลิงค่อยๆเงยหน้าขึ้น แต่สายตายังคงหลุบลง ไม่กล้าสบตาฮ่องเต้หมิงหยวนโดยตรง

แต่ฮ่องเต้หมิงหยวนกลับมองนางด้วยสายตาเย็นเหยียบ “เจ้าเคยทำการรักษาไท่ซ่างหวงด้วยตัวเจ้าเองหรือไม่”

น้ำเสียงไม่เหมือนกำลังไต่ถามหาความผิด ราวกับถามไปอย่างนั้นเอง แต่ว่า ในน้ำเสียงมีแววบูดบึ้งซ่อนอยู่ หยวนชิงหลิงไม่กล้าปฏิเสธ รู้ว่าเขาต้องมีหลักฐานแน่ๆ จึงพูดว่า “เรียนเสด็จพ่อ ใช่เพคะ”

“เจ้าเรียนวิชาแพทย์มาจากไหน”ฮ่องเต้หมิงหยวนถามขึ้นอีก

ตอนที่หยวนชิงหลิงเข้าวังก็คิดไว้แล้วว่าฮ่องเต้หมิงหยวนต้องถาม ฉะนั้น จึงได้คิดคำพูดไว้แต่แรกแล้ว “เรียนเสด็จพ่อ ตอนที่ข้ายังเด็ก ได้พบกับจอมยุทธ์หญิงท่านหนึ่งในยุทธภพ นางเคยอาศัยอยู่ที่เมืองหลวงอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง นางชอบข้ามาก จึงได้ให้ข้าไปเรียนวิชาแพทย์กับนาง”

“เรียนนานแค่ไหน”

“หนึ่งปี”

“อาจารย์ของเจ้าชื่ออะไร”ฮ่องเต้หมิงหยวนถามขึ้นอยางบีบคั้น ต้องการจะถามให้ถึงรากถึงโคน

หยวนชิงหลิงพูดว่า “ข้าไม่รู้ อาจารย์ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน”

คำพูดที่ไม่มีแววว่าจะพูดให้เชื่อได้กลับไม่มีช่องว่างรั่วไหลเลย ทำให้ฮ่องเต้รู้สึกโมโหมาก

“เจ้าทำการรักษาให้ไท่ซ่างหวง เจ้าห้าแนะนำให้เจ้าทำหรือ”

หยวนชิงหลิงส่ายหน้า “ท่านอ๋องไม่รู้เรื่องนี้”

“ไม่รู้”ฮ่องเต้หมิงหยวนเม้มปากแน่น สายตาหรี่ลง เอ่ยเสียงเย็น “ครั้งแรกที่เจ้าให้ไท่ซ่างหวงกินยา เป็นเจ้าห้าที่เข้าไปในม่านกั้นกับเจ้า เจ้ายังบอกว่าเขาไม่รู้อีก”

หยวนชิงหลิงไม่ได้มีเจตนาจะพาหยู่เหวินเห้าลงน้ำไปด้วย ฉะนั้น แม้ฮ่องเต้จะพูดเช่นนี้ นางก็ยังคงยืนยันคำเดิม “ท่านอ๋องไม่ทราบจริงๆ ที่ให้ไท่ซ่างหวงกินยา ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกะทันหัน นั่นเป็นแค่ยาเม็ด ข้าได้เอาใส่ในปากของไท่ซ่างหวง ให้ยาค่อยๆละลายในปากก็พอแล้ว”

ที่จริงแล้ว หากบอกว่าหยู่เหวินเห้ารู้เรื่อง นางอาจจะพ้นจากโทษได้ ฮ่องเต้คงต้องคิดว่าเป็นหยู่เหวินเห้าที่คอยสั่งการ เช่นนั้น นางก็จะสามารถรักษาชีวิตน้อยๆนี้ไว้แล้ว

และฮ่องเต้หมิงหยวนก็คงไม่ถึงกับฆ่าหยู่เหวินเห้า

นี่เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดแล้ว

แต่หยวนชิงหลิงไม่คิดว่าจะลากเขาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย นี่มันไม่ยุติธรรมสำหรับเขา แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ไม่ดีมากแค่ไหนก็ตาม

“ใช่ยาขวดนี้ใช่หรือไม่”ฮ่องเต้หมิงหยวนได้เอายาขวดหนึ่งออกมาจากหลังตราประทับที่วางอยู่บนโต๊ะ และถามหยวนชิงหลิง

หยวนชิงหลิงมองแวบหนึ่ง เป็นยาอมใต้ลิ้นใช้รักษาอาการเส้นเลือดหัวใจตีบ

นางพยักหน้ารับเบาๆ “ใช่เพคะ”

“ยานี้ใช้รักษาอะไร แล้วทำมาจากอะไร ใครให้เจ้ามา”

“ยานี้เป็นยาซู่เสี้ยวจิ้วซิน มีส่วนผสมของตัวยาหนิวหวง ฉานซู โสม ผงเขากวาง ผงเหล็งเอี่ยงกัก ถุงน้ำดีหมูเป็นต้น จะทำให้หัวใจฟื้นฟูได้ในเวลาสั้นๆ เป็นยาฉุกเฉิน อาจารย์ให้ข้ามาเมื่อปีที่แล้วตอนที่มาเมืองหลวง บอกว่าเป็นยารักษาโรคหัวใจที่นางได้ศึกษาทำขึ้นไม่กี่ปีมานี้ ให้ลูกพกติดตัวเอาไว้”

ตอนที่หยวนชิงหลิงพูด ก็รู้สึกร้อนตัวอยู่บ้าง ยาอมใต้ลิ้นนี่คือไนโตรกลีเซอริน และที่นางพูดไปทั้งหมดนั้น เป็นส่วนผสมหลักของยาจิ้วซิน

ฮ่องเต้หมิงหยวนเอายาขึ้นมาดมใต้จมูก เอ่ยเสียงเย็น “ข้านั้นไม่รู้เรื่องยา แต่ก็รู้ว่ายานี้ไม่มีส่วนผสมของโสม หรือหนิวหวงเลย ”

หยวนชิงหลิงเอ่ยอย่างตะลึง “นี่ เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้ อาจารย์บอกกับข้าอย่างนี้จริงๆ”

“มู่หรู เอายาหนึ่งเม็ดให้พระชายากิน ให้นางใช้วิธีเดียวกับตอนที่ให้ไท่ซ่างหวงกิน ”ฮ่องเต้หมิงหยวนเอ่ยเรียบๆ

มู่หรูกงกงเดินขึ้นไปข้างหน้าตามคำสั่ง เอายาอมใต้ลิ้นยื่นให้หยวนชิงหลิงเม็ดหนึ่ง หยวนชิงหลิงรับไป แล้วอมเอาไว้ใต้ลิ้น

มู่หรูกงกงคอยจ้องมองการเคลื่อนไหวของนางตลอด

“ส่งพระชายาไปที่ตำหนักรับรอง ให้กู้ซือดูแล”ฮ่องเต้หมิงหยวนเอ่ยเรียบๆ “เรียกตัวเจ้าพระยาจิ้งมา”

หยวนชิงหลิงนึกไม่ออกในทันทีว่าเจ้าพระยาจิ้งคือใคร หลังจากที่มู่หรูกงกงพานางไปที่ตำหนักรับรองแล้ว จึงคิดขึ้นได้ เจ้าพระยาจิ้งเป็นบิดาของเจ้าของร่างเดิมหยวนชิงหลิง พ่อที่คิดแต่จะทุจริต หาผลประโยชน์เข้าตัวคนนั้น

ตอนแรกที่นางถูกเชิญไปที่จวนเจ้าหญิงเพื่อวางแผนจัดการหยู่เหวินเห้า ได้รับความช่วยเหลืออย่างดีจากเจ้าพระยาจิ้ง

ตอนที่หยวนชิงหลิงได้แต่งเข้าจวนอ๋องฉู่สมใจนั้น ก็พบว่าลูกสาวของตนคนนี้ไม่ได้รับความรักอย่างที่ควรจะเป็น แม้แต่วันที่สามหลังแต่งงานกลับบ้านมารดาท่านอ๋องก็ไม่ได้ตามกลับไปด้วย จึงได้ผิดหวังมาก

แรกเริ่ม เขาเองก็เคยลองวางมาดเป็นพ่อตาของอ๋องฉู่ แต่ก็ค่อยๆพบว่าอ๋องฉู่นั้นไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตาเลย เขาตัดใจแล้ว และไม่สนใจหยวนชิงหลิงอีก

บัลลังก์หมอยาเซียน

บัลลังก์หมอยาเซียน

Status: Ongoing

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: “เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง”หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: “ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น”อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: “เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่” หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: “ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท