หลังจากที่หยู่เหวินเห้ากลับมาจากการอาบน้ำ ยังคงมีความโมโหเต็มใบหน้า
“ลงโทษแล้วหรือ”หยู่เหวินเห้าเดินเข้าประตูมาก็ถามอย่างกราดเกรี้ยว “ตีตายหรือยัง”
หยวนชิงหลิงเดินเข้าไปดูแลด้วยรอยยิ้ม ยกน้ำ เช็ดผม นวดไหล่ “ให้ออกไปแล้ว ครั้งนี้เป็นการลงโทษเพื่อตักเตือน ”
“ปล่อยนางไปง่ายๆเช่นนี้หรือ”หยู่เหวินเห้ายังคงโมโห ที่จริงก็ไม่กล้าที่จะไม่โมโห เพราะตอนเริ่มต้นเขาเองก็แยกแยะไม่ออก ยังให้คนอื่นกอดเปล่าๆอยู่ชั่วครู่ ยายหยวนรังเกียจเรื่องพวกนี้มาก
หยวนชิงหลิงพูดว่า “ก็แค่กระต่ายน้อยที่ถูกชี้นำจนหลงทางเท่านั้น ไม่ยินดีจะแต่งกับบัณฑิตอู๋ จึงได้เลือกลงมือกับท่าน คิดอยากจะเป็นพระชายารอง”
“ถูกชี้นำ ใครชี้นำ”หยู่เหวินเห้าคิดถึงคนคนหนึ่งขึ้นมา “พระชายาจี้”
“เป็นนาง”หยวนชิงหลิงดึงเขาให้นั่งลง “เรื่องนี้ไม่ต้องไปสืบสวนต่อแล้ว น้องรองเองก็ขายหน้ามากพอแล้ว ถ้ายังไปสืบสวนเอาเรื่องต่อ ภายหน้านางจะไม่กล้ามาอีก”
“ครั้งนี้นางเองไม่ระวังตัว แรกเริ่มยังกล้าช่วยเสี่ยวหลันอีก”หยู่เหวินเห้าเสียงฮึดฮัด
“ถูกคนอื่นใช้เป็นเครื่องมือ อย่าโทษนางเลย ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ ”หยวนชิงหลิงลูบหลังให้เขา พูดยิ้มๆ
หยู่เหวินเห้าเสียงดังดุดัน “ครั้งนี้เห็นแก่หน้าเจ้า จะไม่เอาเรื่อง หากยังมีครั้งหน้า ภายหน้าก็อย่าได้เข้าออกจวนอ๋องแม้แต่ครึ่งก้าว”
“ได้ ได้ ”หยวนชิงหลิงรับรอง “ข้าได้เตือนนางไปแล้ว ไม่มีครั้งหน้าแน่”
“ยังมีอีก……”หยวนชิงหลิงแววตานิ่งขรึมลง แต่ความโมโหก็ยังไม่ได้หายไป
หยวนชิงหลิงปล่อยมือออก เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “น่าจะพอแล้วกระมัง ”
หยู่เหวินเห้าเก็บอารมณ์โกรธ คว้ามือของนางไปแนบไว้กับอกของตนเอง เอ่ยอย่างน้อยใจเต็มทน “ทำต่อเถอะ ทำเหมือนเมื่อครู่ ไม่ได้รู้สึกสบายเช่นนั้นมานานแล้ว”
หยวนชิงหลิงรอยยิ้มหายไป เห็นทีผู้ชายก็ต้องโอ๋เหมือนกัน
กอดรัดกันสักพัก ทั้งสองก็พูดคุยกัน รอให้ผมเขาแห้งแล้วค่อยเข้านอน
ที่จริงหยู่เหวินเห้าไม่ได้หลับ
ตอนนี้เขาเป็นคนใจแคบมากเป็นพิเศษ
พระชายาจี้ทำผิดต่อเขาอีกครั้งแล้ว เขาต้องคิดแผนดีๆเพื่อจะจัดการกับนาง
เรื่องนี้คิดแล้วก็เกิดรู้สึกกลัวขึ้นมาภายหลัง
หากไม่ใช่เพราะยายหยวนเชื่อใจเขา ถ้าหากไม่ใช่เพราะความสามารถของเสี่ยวหลันไม่ถึง ครั้งนี้เขาคงต้องแพ้แน่
ไม่ต้องพูดเรื่องไกลตัว ถ้าหากตอนนั้นแสงไฟที่สระผีมืดลงอีกหน่อย ความระแวงของตัวเองก็ลดลงอีกนิด หันกลับไปแล้วจุมพิตอย่างไม่คิดอะไร สวรรค์ คิดแล้วก็สะอิดสะเอียน
ยายหยวนจะโกรธเขาแค่ไหน จุดนี้ไม่ต้องพูดถึง แค่เกรงว่าจะโกรธจนรักษาลูกเอาไว้ไม่อยู่เท่านั้น
อีกอย่าง หากเรื่องนี้แพร่ออกไป ตำแหน่งพระชายาไม่ใช่ของเสี่ยวหลัน แต่ว่าให้อยู่ใจจวนในฐานะสนมคนหนึ่ง ทำให้ยายหยวนรู้สึกรังเกียจอยู่ทุกวัน เขาเองก็คงไม่ต้องคิดจะมีชีวิตดีๆทุกวันแล้ว
คิดถึงตรงนี้ เขาโกรธจนลุกเป็นไฟไปทั้งตัว
หยวนชิงหลิงยื่นมือมาวางไว้บนอกของเขา เอ่ยอย่างสะลึมสะลือว่า “ค่อยๆคิด ต้องมีวิธีรับมือนางได้แน่ นอนก่อนเถอะ”
หยู่เหวินเห้าใจอ่อนยวบ นางรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ใจสามารถสื่อถึงกันได้ขนาดนี้ ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะดีใจ
เรื่องคืนนี้ เดิมคิดว่าให้คนในจวนหุบปากให้สนิทแล้ว ก็คงไม่มีอะไร
แต่ทว่า คนที่คิดแผนการร้ายนี้ก็คงไม่กล้าพูด
แต่ว่าเรื่องนี้กลับไปเข้าหูของไทเฮาเข้าจนได้
แน่นอน เนื้อเรื่องได้เปลี่ยนไปจนสิ้นเชิง
บอกว่าหยู่เหวินเห้าได้พาสาวใช้คนหนึ่งในจวนไปทำมิดีมิร้ายที่สระผี แล้วก็ถูกพระชายาฉู่จับได้โดยไม่รู้ตัว คืนนั้นก็เกิดทะเลาะกันใหญ่โต
หลังจากไทเฮาฟังแล้ว ก็รู้สึกไม่ได้การ พระชายาฉู่กำลังตั้งครรภ์ ไหนเลยจะอดทนที่จะไม่ทะเลาะใหญ่โตได้ จึงได้สั่งการให้คนไปเรียกตัวหยู่เหวินเห้ามาเข้าเฝ้าทันที
ไทเฮาถามตรงๆว่า“เรื่องที่สระผี มันยังไงกันแน่ ”
หยู่เหวินเห้าอึ้ง “เสด็จย่าท่านรู้แล้วหรือ”
ฟังเข้าสิ ดีที่ไทเฮาไม่เป็นลมล้มพับไป ชี้ไปที่เขา “เจ้ามันเหลวไหลจริงๆ หากพระชายาฉู่ทะเลาะกับเจ้าจนเป็นอะไรขึ้นมา หากแท้งลูก ชีวิตข้าก็ให้เจ้าไปด้วย ”
หยู่เหวินเห้าฟังน้ำเสียงจริงจังของเสด็จย่า ก็รีบพูดว่า “เสด็จย่าโปรดวางใจ นางไม่ได้ทะเลาะกับข้า เข้าใจเหตุผลดี จริงนะพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่ได้ ไม่ได้ ”แม้ว่าไทเฮาไม่จำเป็นต้องตระหนกตกใจ แต่ว่า ก็คิดว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ต้องสะสางให้เรียบร้อย แววตาของนางนิ่ง พูดว่า “เรื่องของเจ้า ข้าจะปรึกษากับเสด็จพ่อของเจ้าดู ”
หยู่เหวินเห้าพูดว่า “ไม่ต้องปรึกษาก็ได้ เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องบอกให้เสด็จพ่อรู้ เรื่องไม่เป็นเรื่อง”
“พอแล้ว เจ้ากลับไปดูแลนางให้ดี หากยังมีเรื่องเช่นนี้อีก ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าเป็นแรกเลย”ไทเฮาพูดเสียงดุดัน
ด่านนี้ของหยู่เหวินเห้าทำเอาเขามึนงงสับสนไปหมด ออกจากตำหนัก ก็ลากเอาตัวแม่นมไปมุมหนึ่งเพื่อสอบถามอย่างละเอียด
พอเขาได้ฟังเรื่องราว ก็รู้สึกไม่ได้การแล้ว “เรื่องมันเป็นอย่างนี้ที่ไหนกัน ใครพูดเหลวไหลให้ไทเฮาฟังกัน”
ตอนนี้พระชายาจี้ไม่สบาย ย่อมเข้าวังมาพูดคุยกับไทเฮาไม่ได้แน่
“วันนี้ ฮองเฮามาคำนับไทเฮา”แม่นมพูดเสียงเบา
ฮองเฮาไม่รู้เรื่องนี้แน่ นอกจากจะมีคนเข้าวังมาบอกนาง
“วันนี้มีใครเข้าวังมาคำนับฮองเฮาบ้าง”หยู่เหวินเห้าถาม
แม่นมยิ้มบางๆ “เรื่องนี้ข้าน้อยก็ไม่ทราบ หากท่านอ๋องอยากถาม ก็ไปถามท่านกู้ดู ท่านกู้เป็นเวรนำกำลังตรวจตราประตูวังในวันนี้ ”
หยู่เหวินเห้ารีบไปหากู้ซือทันที
กู้ซือกำลังเดินตรวจอยู่นอกประตูวัง ถูกหยู่เหวินเห้าคว้าตัวเอาไว้ ถามว่า “กู้ซือ เจ้าบอกข้ามาดีๆ วันนี้มีใครเข้าวังมาพบฮองเฮาบ้าง”
กู้ซือชะงักไปเล็กน้อย “พบฮองเฮา พระชายาฉี”
ฉู่หมิงชุ่ย
ฉู่หมิงชุ่ยกับพระชายาจี้ไม่ถูกกันนี่นา
“ทำไมหรือ”กู้ซือเห็นเขาสีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ ก็ถามขึ้น
หยู่เหวินเห้ามองเขา “ก็เจ้าสาวในอนาคตของเจ้าน่ะสิหาเรื่องให้ข้า”
“เจ้าสาวในอนาคตของข้า”กู้ซือไม่พอใจ ดึงหน้ายาน “อย่าพูดเรื่อยเปื่อย ข้ามีเจ้าสาวในอนาคตที่ไหนกัน อย่าทำลายชื่อเสียงของข้านะ”
“หยวนชิงผิง”หยู่เหวินเห้าเอ่ยเสียงเย็น
กู้ซือเปลี่ยนเป็นยิ้มร่าทันที “อ๋อ ใช่ เป็นนางน่ะแหละ นางทำไมหรือ”
หยู่เหวินเห้าเอ่ยอย่างโกรธเคือง “เมื่อวานนางพาหญิงคนหนึ่งไปที่จวน หญิงคนนี้ก็ช่างใจกล้านัก ถึงกับกล้าบุกเข้าไปในสระผีเพื่อจะยั่วยวนข้า ถูกข้ารู้ทันแล้วสอบถามจึงรู้ว่าได้รับคำสั่งมาจากพระชายาจี้ เดิมทีคิดว่าเรื่องก็จบลงแค่นี้ ใครจะรู้ว่าวันนี้ไทเฮาที่อยู่ในวังจะรู้เรื่องเข้า ยังทำเอาเรื่องนี้ผิดเพี้ยนไปหมด บอกว่าข้าใช้กำลังลากตัวสาวรับใช้ไปสระผี ถูกยายหยวนจับได้ ทะเลาะกันใหญ่โต ทะเลาะจนเกือบจะแท้งลูก”
“สร้างข่าวลือ”กู้ซืออึ้งไป “พระชายาฉีสร้างข่าวลือ ทำไมจึงทำเช่นนี้ แต่ว่า เรื่องนี้เป็นคำสั่งของพระชายาจี้ แล้วทำไมจึงกลายเป็นพระชายาฉีที่เข้าวังมาบอกเล่าให้ไทเฮาฟัง”
หยู่เหวินเหล้าครุ่นคิด “ข้าเองก็คิดไม่ออก ”
กู้ซือพูดว่า “จากเรื่องราวครั้งนี้ เกรงว่าไทเฮาจะตั้งมั่นหาพระชายารองให้ท่านแน่”
ใบหน้าหล่อเหลาของหยู่เหวินเห้าบิดเบี้ยว “กู้ซือ หุบปากอีกาของเจ้าซะ”
กู้ซือเอ่ยอย่างล้อเลียนว่า “คนอย่างข้า พูดดีแล้วไม่ค่อยจะเห็นผล แต่พอพูดไม่ดี มักจะเห็นผลทันตา ท่านอ๋องแต่งพระชายารอง อย่าลืมเชิญข้าไปดื่มเหล้ามงคลด้วยล่ะ”
“กู้ซือ”หยู่เหวินเห้าเอ่ยอย่างจริงจังว่า “ชาตินี้เจ้าอย่าคิดว่าจะได้แต่งกับหยวนชิงผิงเลย ”
สองมือของกู้ซือรีบประสานกันขึ้นมา ยิ้มตาหยีและพูดว่า “ท่านอ๋องก็จริงเชียว ก็แค่ล้อเล่น บรรยากาศตึงเครียดไปก็ไม่ดี เรื่องนี้ขอท่านวางใจ ข้าจะช่วยสืบให้ชัดเจน ท่านก็แค่รอรับข่าวที่จวนก็พอ”