บัลลังก์หมอยาเซียน – ตอนที่ 493

ตอนที่ 493

หยวนชิงหลิงได้ยินคำพูดนี้ ก็เอ่ยขึ้นว่า “เช่นนั้นไม่สู้เรียกหมันเอ๋อมาถามดู”

หยู่เหวินเห้าพูด “ก็ดี”

เขาลุกขึ้นเดินออกไป พอดีกับที่สวีอีเดินเข้ามาในลานบ้าน เขาเอ่ยขึ้นว่า “สวีอี เจ้าไปเรียกหมันเอ๋อเข้ามาหน่อย”

“พ่ะย่ะค่ะ ”วันนี้สวีอีไม่มีงานอะไร จึงคิดอยากจะมาดูเหล่าของว่างสักหน่อย

หมันเอ๋อถูกเรียกตัวมา ได้ยินหยู่เหวินเห้าถามถึงเรื่องหมอผีดำ นางอึ้งไป “รัชทายาทท่านรู้เรื่องหมอผีดำได้อย่างไร”

“เจ้าก็เล่ามา หมอผีดำนี่มันเป็นอย่างไรกันแน่”หยู่เหวินเห้าพูด

หมันเอ๋อจึงพูดว่า “หมอผีดำก็คือหมอศักดิ์สิทธิ์ในหนานเจียงของพวกเรา มีสถานะสูงส่งที่สุดในหนานเจียง แม้ว่าหนานเจียงจะแบ่งเหนือใต้ แต่ว่า หมอผีดำเป็นหมอผีของทั้งหนานเจียง เป็นหมอผีที่ครอบคลุมทั้งหมดของหนานเจียง หมอผีดำไม่สามารถแต่งงานได้ ถ้ามีการสืบทอดตำแหน่งหมอผีดำ จะมีการคัดเลือกหญิงสาวสองคนของหนานเจียงเพื่อเป็นตัวเลือกในการสืบทอดต่อไป”

หยวนชิงหลิงพูดว่า “เช่นนั้นเจ้ารู้หรือไม่ว่าหนึ่งในลูกสาวของหมอผีดำหนานเจียงได้ตายไปแล้ว”

“เรียนพระชายารัชทายาท ข้าน้อยไม่ทราบ ข้าน้อยไม่ได้กลับไปยังหนานเจียงนานแล้ว”หมันเอ๋อพูด

หยวนชิงหลิงถาม “เจ้าเพิ่งพูดว่า สาวหมอผีของหนานเจียงนั้นแต่งงานไม่ได้ ใช่หรือไม่ ”

“ใช่เพคะ สาวหมอผีของหนานเจียงต้องรักษาร่างกายอันบริสุทธิ์ของหญิงสาวเอาไว้ มิเช่นนั้นจะสูญเสียโอกาสในการสืบทอดตำแหน่ง”

“เช่นนั้นหลายปีมานี้ มีผู้สืบทอดที่ไม่ยินดีจะเป็นหมอผีดำหรือไม่ ”หยวนชิงหลิงถามต่อ

หมันเอ๋อส่ายหน้า “เรื่องนี้ข้าน้อยไม่ทราบจริงๆ เรื่องเหล่านี้เป็นความลับ ไม่มีทางแพร่งพรายออกไป แม้จะมีจริง คนนอกก็ไม่มีทางรู้ ล้วนมีการจัดการของหมอผีเองอย่างลับๆ”

“อืม เช่นนั้นเจ้าก็ออกไปเถอะ ”หยู่เหวินเห้าพูด

“เพคะ”หมันเอ๋อย่อตัวคำนับถอยออกไป

หยวนชิงหลิงมองหยู่เหวินเห้า “ท่านว่า กู้จือคนนี้จะใช่ผู้สืบทอดที่ไม่ยินดีจะเป็นหมอผีดำหรือไม่ ด้วยเหตุนี้จึงได้เลือกที่จะหลบหนี และอ๋องอันก็รู้เรื่องนี้ จึงได้ใช้เรื่องนี้ข่มขู่นาง”

“อืม คนสืบทอดของหมอผีดำมีสองคน ทำไมต้องเลือกถึงสองคน น่าจะเป็นเพราะป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดจนตายไปคนหนึ่ง ตายไปแล้วหนึ่งคน อีกคนก็ต้องรับช่วงสืบทอดต่ออย่างแน่นอน กู้จือไม่ยินดี จึงได้เลือกที่จะหลบหนี และคำสัญญาที่เจ้าสี่ให้กับนางก็ช่างดึงดูดใจนัก ถ้าหากแผนการสำเร็จ ตอนนี้นางคงได้เป็นพระชายาเว่ยไปแล้ว ดีกว่าการเป็นหมอผีดำมากมายนัก”

“พรุ่งนี้ให้อะซี่ไปที่สำนักนางชีหมิงเยว่ ให้จวิ้นจู่จิ้งเหอลองถามดู ถ้าหากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เช่นนั้นหลังจากนี้ก็ต้องหาคนของหนานเจียงมา พวกเราจะได้มีเหตุผลในการพูดคุย”หยวนชิงหลิงพูด

หยู่เหวินเห้าพูด “ยังคงเป็นเจ้าที่คิดได้รอบคอบ”

สำนักนางชีหมิงเยว่

กู้จือตื่นขึ้นมาจากการสลบไสล ตรงหน้านางยังคงเป็นสีดำมืดสนิท นางยื่นมือออกไปจับดู คราบเลือดแห้งแล้ว

“เจ้าตื่นแล้วหรือ”

เสียงของจวิ้นจู่จิ้งเหอ ทำเอานางตกใจจนแทบจะกระโดดลุกขึ้นมา

ทำไมนางจึงเงียบจนไม่ได้ยินเสียงหายใจ ราวกับภูตผีปีศาจอย่างไรอย่างนั้น

“เจ้า ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่ เจ้าจะทำอะไร ”กู้จือรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่าง หลังให้กำเนิดลูกแล้วก็เป็นลมไปทันที ทั้งเหนื่อยทั้งหิว ร่างกายราวกับเคยถูกก้อนหินขนาดใหญ่ทับเอาไว้

แต่ว่า นี่ไม่มีผลต่อจิตใจของนางที่เกิดความระแวงต่อจวิ้นจู่จิ้งเหอ

“ก่อนหน้านี้เจ้าถามข้ามิใช่หรือว่า จะฆ่าเจ้าหรือไม่ ข้าจะให้คำตอบเจ้าตอนนี้ เจ้าอยากฟังหรือไม่ ”จวิ้นจู่จิ้งเหอพูดเสียงเบา

ร่างกายของกู้จือแข็งทื่อ ค่อยๆหันหน้าไปมองนาง ริมฝีปากสั่นเล็กน้อย “เจ้าไม่สามารถฆ่าข้าได้”

จวิ้นจู้จิ้งเหอพูดว่า “กู้จือ เช่นนั้นเจ้าบอกเหตุผลมาหนึ่งข้อ เหตุผลที่ทำให้ข้าไม่ฆ่าเจ้า”

กู้จือร้องเสียงแหลมขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก “หยวนชิงหลิงเคยบอกว่า นางจะปกป้องข้า จะคุ้มกันข้าส่งกลับไปยังหนานเจียง เจ้าไม่สามารถฆ่าข้าได้ เจ้าเองก็เคยพูดว่าจะฟังที่นางพูด เพราะว่านางเคยช่วยชีวิตเจ้า”

กู้จือไม่ได้สังเกตเห็นแววเย็นชาคมกริบที่วาบผ่านสายตาของจวิ้นจู่จิ้งเหอไป สีหน้านางสงบนิ่งยิ่งนัก พูดว่า “ใช่ ตอนแรกข้าเคยพูดเช่นนั้น นางจะช่วยเจ้า ข้าฆ่าเจ้าเสีย เช่นนั้นข้าก็จะติดค้างหนี้ชีวิตนางหนึ่งชีวิต”

“เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ”กู้จือลุกขึ้นนั่ง ลากเอาร่างอันหนักอึ้งขยับไปด้านข้าง “เห็นแต่ลูกข้า เจ้าต้องการลูกของข้ามิใช่หรือ เจ้าก็เอาไปแล้ว ปล่อยข้าไป ไว้ชีวิตข้าด้วย”

จวิ้นจู่จิ้งเหอถอนหายใจ “ข้าก็อยากจะปล่อยเจ้าไปสักครั้ง แต่ข้าหาเหตุผลที่จะไว้ชีวิตเจ้าไม่ได้เลย ข้าเคยคิด หลังจากที่ลูกเจ้าคลอดออกมาแล้ว เจ้ายังพอจะมีความเป็นคนอยู่บ้าง ข้าก็จะปล่อยเจ้าไป แต่พอเจ้าให้กำเนิดลูกออกมา เรื่องแรกที่เจ้าทำก็คือจะบีบคอนางให้ตาย กู้จือ ข้าคิดไม่ออกถึงเหตุผลที่จะไม่ฆ่าเจ้า ข้าเองก็ไม่ยินดีที่จะให้สองมือของตนเองเปื้อนเลือด ข้าเห็นคุณค่าของชีวิตคนมากที่สุด ไม่ว่าชีวิตใครข้าก็สงสารเห็นใจ แม้กระทั่งตอนอยู่บนกำแพงเมือง ข้าเกือบจะคลุ้มคลั่ง ก็ยังปล่อยเจ้าไป แต่ทำไมเจ้าจึงได้ทำให้รู้สึกผิดหวังนัก ”

ในมือนาง กำมีดสั้นเล่มหนึ่งเอาไว้ ปลายแหลมคมของมีดสั้นหันไปทางเตียงนอน สั่นระริกเล็กน้อย

กู้จือส่ายหน้า พูดเสียงเข้มดุว่า “ไม่ ไม่ เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ถ้าเจ้าฆ่าข้า เจ้าจะเป็นกังวลไม่สิ้นสุด ข้าเป็นลูกสาวของหมอผีดำแห่งหนานเจียง ข้าเป็นผู้สืบทอดของหมอผีดำ ถ้าหากเจ้าฆ่าข้า คนหนานเจียงไม่มีทางปล่อยตระกูลเจ้าไปแน่ พวกเขาต้องล้างแค้นให้กับข้า ฆ่าล้างตระกูลพวกเจ้าจนสิ้น เจ้าไม่คุ้มเลย เจ้าว่าเจ้ารักและเสียดายชีวิต หรือว่าเจ้าต้องการเห็นคนของตระกูลเจ้าทั้งหมดต้องตายอยู่ในมือของคนหนานเจียง”

จวิ้นจู่จิ้งเหอไม่หวั่นไหวเลยสักนิด มองนางและพูดอย่างเรียบเฉยว่า “เจ้ารีบคิดดูดีกว่า ชาตินี้เจ้าเคยทำเรื่องดีๆสักเรื่องช่วยคนสักคนไว้หรือไม่ ถ้าหากมี ข้าก็ยินดีจะปล่อยเจ้าไป”

“มี มี ”กู้จือรีบพูดออกไป “ข้าเคยช่วยคนไว้มากมาย ข้าเป็นลูกสาวของหมอผีดำแห่งหนานเจียงนี่นา ข้าเคยช่วยคนไว้มากมาย”

“กู้จือ เจ้ากำลังโกหก”จวิ้นจู่จิ้งเหอมองหน้านาง “จิตใจข้ารู้ดีที่สุด ว่าเจ้าโกหกหรือไม่ ข้าสามารถดูออก ”

กู้จือกำลังคิดอย่างตื่นตระหนก ใช้สมองทั้งหมดที่มี แต่นางนิสัยเลือดเย็น ไหนเลยจะรู้สึกสงสารชีวิตคน กลับกันยังเข่นฆ่ามาไม่น้อย

“ข้าเคยช่วยไว้จริงๆ ข้าเคยช่วยไว้จริงๆนะ”นางพูดพึมพำ “เจ้าต้องเชื่อข้า ข้าเคยช่วยชีวิตคนจริงๆ ”

“คนที่เจ้าเคยช่วยไว้ ชื่อว่าอะไร เป็นคนที่ไหน”จวิ้นจู่จิ้งเหอถาม

สมองของกู้จือสับสนวุ่นวายไปหมด ความตื่นตระหนกต่อความตายเต็มไปหมดในสมอง ชั่วขณะแม้แต่ชื่อที่เหมาะสมสักชื่อยังนึกไม่ออก ได้แต่พูดออกไปส่งๆชื่อหนึ่งว่า “เคยช่วย คนหนานเจียง ชื่อกุ้ยชุน……”

“กุ้ยชุนเป็นอะไร ทำไมต้องช่วยนาง”จวิ้นจู่จิ้งเหอยังคงถามต่อ

ทันใดนั้นกู้จือก็เต็มไปด้วยความโมโห กำหมัดตะคอกขึ้น “แม้ข้าจะเคยช่วยคนไว้จริงๆ เจ้าก็คงไม่ปล่อยข้า เจ้าตั้งใจจะให้ข้าตายอยู่แล้ว ทำไมต้องมาล้อเล่นกับข้าอีก”

จวิ้นจู่จิ้งเหอถอนหายใจและส่ายหน้า “แต่ไหนแต่ไรมาเจ้าถนัดในการพูดโกหก ช่างสามารถแต่งเรื่องได้ในทันที ถ้าหากแต่งเรื่องได้ความอยู่บ้าง บางทีอาจปิดบังข้าไปได้ กู้จือ แม้แต่แต่งเรื่องเจ้ายังแต่งไม่ได้ เพราะว่าใจของเจ้าไม่เคยมีความคิดที่ดีเลย ฉะนั้นแม้แต่เรื่องที่เจ้าเคยช่วยชีวิตคนเอาไว้เจ้าก็แต่งไม่ออก”

กู้จือร้องไห้โฮ “ปล่อยข้าไป ข้ายินดีแลกทุกอย่างที่มีกับเจ้า ข้าจะบอกความลับของอ๋องอันกับเจ้า เป็นเขาที่ทำลายเจ้ากำอ๋องเว่ย ไม่เกี่ยวกับข้าสักนิด เขายังต้องการฆ่าหยวนชิงหลิง ฆ่าหยู่เหวินเห้า เขาจะเป็นรัชทายาท ข้าจะบอกเจ้าทุกอย่าง เจ้าปล่อยข้าไปเถอะ”

มีดสั้นในมือของจวิ้นจู่จิ้งเหอหย่อนลงเล็กน้อย “ได้ เจ้าพูด ถ้าหากความลับที่เจ้าพูดพอที่จะทำให้ตื่นตกใจได้ เช่นนั้นข้าจะพิจารณาปล่อยเจ้าไป”

บัลลังก์หมอยาเซียน

บัลลังก์หมอยาเซียน

Status: Ongoing

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: “เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง”หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: “ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น”อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: “เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่” หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: “ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท