บัลลังก์หมอยาเซียน – บทที่ 1222 ซื้อมาเป็นพวก

บทที่ 1222 ซื้อมาเป็นพวก

รอผ่านไปสักพัก หมอมาถอนเข็ม คราวนี้ฮ่องเต้หมิงหยวนไม่รู้สึกปวดแล้ว จึงพูดขึ้นว่า “การฝังเข็มนี้ได้ผลอย่างอัศจรรย์จริงๆ”

หมอหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “อาการปวดท้อง ส่วนมากเป็นเพราะกดไหลย้อน ฝังเข็มตรงจุดลมปราณให้เลือดไหลเวียนสะดวก ก็สามารถระงับอาการปวดได้แล้ว แน่นอน ยาฮั่วเซียงที่เจ้าทานลงไปก็มีส่วนช่วย”

ลูกน้องร้านยาจัดยามาให้ แนะนำวิธีใช้ พร้อมจดบันทึกชื่อไว้ แน่นอนว่าเป็นชื่อปลอม แต่ลูกน้องร้านยาเอาสมุดมาจดบันทึกไว้ ฮ่องเต้หมิงหยวนดูในสมุดเล่มนั้น ก็มีคนติดหนี้อยู่พอสมควร

เขาอดไม่ได้จึงถามขึ้นว่า “พวกเจ้าไม่กลัวคนไข้จะไม่กลับมาจ่ายหรือ?”

ลูกน้องร้านยาหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่แน่นอน ค่ายากับค่ารักษาของเราไม่แพง คนไข้ไม่ถึงขั้นต้องหนีหนี้ ต่อให้ไม่มาจ่ายจริงๆ ครั้งต่อไปถ้ามาอีกก็จะไม่รักษา”

ยาสองชุด บวกกับฝังเข็มและทานยาฮั่วเซียงไปหนึ่งเม็ด สามสิบเหวิน หลังจากจดบันทึกไว้แล้ว ลูกน้องร้านยาก็ไปแล้ว

“แค่สามสิบเหวิน” ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า จะได้กำไรจริงหรือ?

เมื่อออกมาจากโรงหมอ เป้าหมายในการมาครั้งนี้ของฮ่องเต้หมิงหยวน คือไปดูโรงพยาบาลของหยวนชิงหลิง

เพราะเขาไม่สบาย มู่หรูกงกง ตอนที่ผ่านจวนอ๋องซุน มู่หรูกงกงเข้าไปขอรถม้ามาหนึ่งคัน พาส่งไปยังโรงพยาบาล

ที่โรงพยาบาลคนแน่นยิ่งกว่าโรงหมอ พวกหมอให้การตรวจรักษาอย่างละเอียดลออ คนจัดยาก็ตั้งใจจัดยาอย่างพิถีพิถัน ผู้ป่วยเข้าแถวเรียงราย รับยา จ่ายตัง

ฮ่องเต้หมิงหยวนใช้มู่หรูกงกงเรียกคนไข้หลายคนข้างนอกมาถาม ถามสถานการณ์อย่างละเอียด พวกผู้ป่วยพูดชื่นชมโรงพยาบาลไม่มีที่สิ้นสุด ไม่เพียงค่าตรวจรักษาค่ายาราคาถูก ทัศนคติของหมอก็ดีมาก รอบคอบมาก

แล้วมู่หรูกงกงก็ถามว่าคิดเห็นอย่างไรกับเป่าหยวนถัง ผู้ป่วยล้วนส่ายหัวโบกมือ สถานที่แบบนั้นพวกเขาไม่มีปัญญาไป หากไม่ใช่เพราะป่วยอย่างรุนแรง เขายอมที่จะไปหาสมุนไพรบนเขามากิน

เมื่อกลับวังตอนพระอาทิตย์ตก ฮ่องเต้หมิงหยวนไม่พูดอะไรสักคำ แต่เมื่อถึงพลบค่ำ กลับให้มู่หรูกงกงนำพระราชโองการไปยังโรงหมอหุ้ยหมิง ให้โรงหมอหุ้ยหมิงกำหนดราคาขายยาขึ้นมา ให้เน่ย์เก๋อตรวจสอบ

ตั้งแต่ฮ่องเต้หมิงหยวนขึ้นครองราชย์เป็นต้นมา ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทำการเปลี่ยนแปลงจำกัดราคายา

ใต้เท้าอู๋ผู้ดูแลโรงหมอหุ้ยหมิง เพิ่งได้รับพระราชโองการ ไม่นานคนของจวนเจ้าหญิงก็มาหาทันที บอกว่ายอดหมอหลิวขอเชิญเขาไปดื่มน้ำชาที่จวน

ใต้เท้าอู๋จะะไม่รู้จุดประสงค์ของยอดหมอหลิวได้อย่างไร เขาอยากปฏิเสธ แต่คนของจวนเจ้าหญิงไม่ให้โอกาสเขา เขาก็ไม่กล้าล่วงเกินคนของจนเจ้าหญิง”

และในขณะเดียวกัน หมอหลวงเฉาก็ถูกเชิญไปยังจวนเจ้าหญิง

หมอหลวงเฉาเคยได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนจากยอดหมอหลิว ฉะนั้นเขาจึงเคารพนับถือยอดหมอหลิวอย่างมาก ยอดหมอหลิววางเงินปึกหนึ่งไว้ตรงหน้าเขา หมอหลวงเฉาตื่นเต้นขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “นี่….”

“นี่เป็นเงินที่ข้าให้เจ้าดื่มชา เอาไปเถอะ” ยอดหมอหลิวดื่มชา พร้อมพูดขึ้นอย่างเชื่องช้า

“ไม่ได้เด็ดขาด ไม่ได้เด็ดขาด ควรที่จะเป็นข้าตอบแทนบุญคุณท่านถึงจะถูก” หมอหลวงเฉาพูดขึ้น ด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป

ยอดหมอหลิวพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “เก็บไว้เถอะ เงินไม่กินคน อย่าทำเป็นตื่นตกใจ”

“จ้ะรับเงินโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลยไม่ได้” หมอหลวงเฉาพูดขึ้นด้วยเสียงเศร้า

สายตาเฉียบคมของยอดหมอหลิวมองหมอกไอน้ำ พร้อมพูดขึ้นว่า “คำพูดนี้ก็ถูก งั้นก็ช่วยข้าทำอะไรหน่อย วางใจ จะไม่เป็นการทำให้เจ้าลำบากใจ เจ้าเพียงแค่นำคำพูดไปบอกหมอพวกนั้น”

“ไปพูดว่าอย่างไร?” หมอหลวงเฉาถามขึ้น

ยอดหมอหลิววางแก้วชาลง มองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ตอนนี้เจ้าหญิงกำลังจะสร้างโรงหมอเพิ่ม ภายในหนึ่งเดือนจะมีโรงหมอเปิดใหม่มากมาย หากพวกเขามา หมอคนหนึ่งดูแลโรงหมอหนึ่งแห่ง กำไรแบ่งกันคนละครึ่ง พูดแค่นี้ก็พอ”

“กำไรแบ่งคนละครึ่ง?” ลูกตาหมอหลวงเฉาแทบหล่นตกลงมา

ไม่ต้องเปิดโรงหมอด้วยตนเอง ไม่ต้องแขวนชื่อตนเอง ไม่ต้องซื้อยาด้วยตนเอง ก็จะได้กำไรคนละครึ่ง?

ยอดหมอหลิวค่อยๆหัวเราะขึ้นมา? พร้อมพูดขึ้นว่า “ภายในสามปี หมอพวกนี้ก็จะมีต้นทุนเพียงพอที่จะเปิดโรงหมอได้ด้วยตนเองแล้ว”

แบบนี้น่าดึงดูดอย่างมาก หมอใหม่คนหนึ่ง จะต้องใช้เวลานานแค่ไหน ถึงจะสามารถมีโรงหมอเป็นของตนเองได้? ให้เงื่อนไขแบบนี้ไป คนมากมายจะต้องหวั่นไหวแน่

“เจ้าวางใจ ข้าไม่ทำให้เจ้าลำบากใจ หลังจากเจ้าไปพูดแล้ว หากพวกเขาสนใจ ให้พวกเขามาหาข้าด้วยตนเอง เช่นนี้ก็จะไม่เกี่ยวข้องกับเจ้า เพียงแค่ช่วยไปบอก ไม่ต้องแอบช่วยสนับสนุนอะไรอีก เช่นนี้ ตั๋วเงินหลายหลายหมื่นตำลึงนี้ เจ้าเอาไปได้อย่างสมควร เป็นอย่างไร?”

ให้เงื่อนไขนี้ไป ยังต้องพูดกล่อมอะไรอีก? หากเงื่อนไขนี้เป็นจริง ใครจะปฏิเสธได้ล่ะ? แต่ไม่เป็นความจริงแน่นอน จะต้องมีเงื่อนไขเพิ่มเติมอีกมากมายอย่างแน่นอน กระทั่งหลังจากใช้ประโยชน์แล้ว เหลือส่วนแบ่งไม่เท่าไหร่เอง

หมอหลวงเฉาเป็นหมอหลวงมาตั้งนานหลายปีขนาดนี้ รู้วิธีการกระทำของจวนเจ้าหญิงเป็นอย่างดี

หมอหลวงเฉาหยิบเอาเงินไปอย่างเงียบๆ ยกมือประสานพร้อมพูดขึ้นว่า “คำพูดนี้ ข้าจะนำไปบอก แต่พวกเขาจะมาหรือไม่ ข้าไม่สามารถรับประกัน”

ยอดหมอหลิวยิ้มพูดขึ้นว่า “ได้บอกก็พอแล้ว”

ตอนที่หมอหลวงเฉาออกไป ก็เห็นใต้เท้าอู๋ของโรงหมอหุ้ยหมิง เดินเข้ามาพร้อมกับคนเฝ้าประตู ทั้งสองคนมองตากันอยู่ไกลๆ แล้วต่างคนต่างก็ก้มหน้าก้มตา ไม่ได้ทักทายกันด้วยซ้ำ

องค์หญิงฮุ่ยผิงกับราชบุตรเขยหลิวยืนมองดูอยู่ข้างบน อย่างพอใจ นางพูดขึ้นอย่างเยือกเย็นว่า “เดิมค่ะก็ไม่ได้อย่าผูกขาดโรงหมอร้านขายยา เป็นเพราะหยวนชิงหลิงบีบบังคับข้า”

“แต่จู่ๆ ทำไมฮ่องเต้มีพระราชโองการสั่งให้กำหนดราคายา? แบบนี้ส่งผลกระทบต่อพวกเราอย่างมากหรือเปล่า?” ราชบุตรเขยหลิวขมวดคิ้วพูดขึ้น

สายตาองค์หญิงฮุ่ยผิงมองออกไปไกล ค่อยๆมองไปที่ใต้เท้าอู๋ที่กำลังเดินไปข้างหน้าทีละก้าว พร้อมพูดขึ้นว่า “งั้นก็ต้องดูว่าใต้เท้าอู๋เป็นคนที่รู้สถานการณ์ไหม ไม่มีใครสามารถปฏิเสธเงินได้ หากใช้เงินแล้วทำไม่สำเร็จ ข้าก็มีวิธีโหดเหี้ยม พระสวามี เรื่องแบบนี้เจ้าต้องเรียนรู้กับท่านพ่อบ้าง ความสัมพันธ์ที่ท่านพ่อสั่งสมมาใน หลายปีนี้ ถึงแม้จะจ่ายเงินไปไม่น้อย แต่ความมั่งคั่งของตระกูลเราตอนนี้ ล้วนได้มาจากความสัมพันธ์พวกนี้”

ราชบุตรเขยหลิวจับมือของนาง พร้อมพูดขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า “โชคดีที่มีเจ้าหาทรัพย์สินไว้ให้กับพวกลูกๆ ไม่เช่นนั้นต่อไปพวกเขาจะทำอย่างไร? ทั้งๆที่มีความสามารถ แต่กลับไม่ได้เป็นแม้เพียงตำแหน่งขุนนางขั้นเล็ก อาชีพอะไรก็ไม่ดีเท่ากับการทำธุรกิจค้าขาย”

สายตาองค์หญิงฮุ่ยผิงฉายแววเยือกเย็น พร้อมพูดขึ้นว่า “เพื่อความสงบสุข มั่งคั่งของพวกเขาในอนาคต ข้าสามารถทำได้ทุกอย่าง”

นางโบกมือเรียกองครักษ์มา พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าสะกดรอยตามหมอหลวงเฉไป ดูว่าเขาไปไหน”

“ขอรับ” องครักษ์รับคำสั่งแล้วก็ไป

ราชบุตรเขยหลิวถามอย่างไม่เข้าใจว่า “ทำไมต้องสะกดรอยตามเขา? เขาเอาเงินไปแล้ว ไม่ผิดพลาดอะไรมั้ง?”

องค์หญิงฮุ่ยผิงพูดขึ้นว่า “คนคนนี้อยู่กับหยวนชิงหลิงมานาน จะชะล่าใจไม่ได้”

“แต่เขารับเงินไปแล้ว หากทำงานไม่สำเร็จ เขารู้ว่าพวกเราไม่ปล่อยเขาไว้แน่ ต่อให้เขามีความกล้าแค่ไหน ก็ไม่กล้าทำเช่นนี้”

องค์หญิงฮุ่ยผิงจับไข่มุกที่มีเต็มหัว หันไปมองราชบุตรเขยหลิว พร้อมพูดขึ้นว่า “เป็นคนต้องคอยระวังไว้บ้าง พวกเราลงทุนเงินจำนวนมาก ซื้อร้านค้าในเมืองหลวงกับจื๋อลี่ไว้มากมาย ประชาชนรอบๆล้วนเชื่อมั่นในตัวหมอพวกนี้อย่างมาก รอพวกเขาออกมาจากโรงหมอของหยวนชิงหลิง ผู้ป่วยพวกนั้นก็จะล้วนเป็นของพวกเรา ดังนั้น ข้าจะต้องมั่นใจว่าทุกอย่างจะไม่มีอะไรผิดพลาด”

บัลลังก์หมอยาเซียน

บัลลังก์หมอยาเซียน

Status: Ongoing

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: “เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง”หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: “ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น”อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: “เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่” หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: “ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท