บัลลังก์หมอยาเซียน – บทที่ 1664 มัธยมปลายชั้นปีที่สามห้องหก

บทที่ 1664 มัธยมปลายชั้นปีที่สามห้องหก

คุณครูจางหนีบหนังสือเรียนแล้วลุกขึ้น  อืม ก็ถึงเวลาเรียนแล้ว เธอตามฉันมา ฉันพาเธอไปรู้จักกับเพื่อนร่วมชั้นหน่อย 

 ขอบคุณครับคุณครู!  หยู่เหวินหวงกล่าว

คุณครูจางเงยหน้ามองดูเขาแวบหนึ่ง โห นักเรียนคนนี้สูงประมาณร้อยแปดสิบแล้วมั้ง? ทั้งยังหน้าตาหล่อเหลาอีก อย่าก่อเรื่องรักก่อนวัยอันควรขึ้นมาถึงจะดีนะ

คุณครูจางถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ปัญหาในชั้นเรียนของเขามีมากพอแล้ว เด็กชั้นมัธยมปลายปีที่สามมีความรักกันไม่ใช่เรื่องที่เลวร้าย แต่อกหักก็เป็นอย่างแน่นอน

ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันห้องหนึ่งก็เกือบจะสร้างปัญหาใหญ่นี้ขึ้นมาแล้วไม่ใช่หรือ? หวังว่าชั้นเรียนของเขาจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นนะ

ห้องเรียนของห้องหกอยู่ชั้นหก อากาศของเดือนเก้า ยังคงร้อนมาก โดยเฉพาะในเมืองก่วงที่ร้อนชื้นนี้ ถึงชั้นหก หน้าผากของคุณครูจางก็มีเหงื่อไหลออกมาแล้ว เขาชำเลืองมองนักเรียนหยู่เหวินหวงแวบหนึ่ง เห็นเขาดูเหมือนผิวพรรณขาวสะอาดไม่มีเหงื่อ เหนื่อยหอบสักนิดก็ไม่มี

ชั้นเรียนเสียงดังเอะอะเป็นอย่างมาก ดังมาก เสียงกริ่งเข้าเรียนดังแล้ว แต่เหล่านักเรียนก็ไม่ได้เตรียมจะกลับไปที่โต๊ะของตัวเองสักนิด กลุ่มละสามถึงห้าคน บรรดาเด็กผู้หญิงแลกเปลี่ยนกันเรื่องประสบการณ์เครื่องสำอางบำรุงผิว บรรดาเด็กผู้ชายส่งเสียงดังเอะอะทั้งห้อง ก็ไม่รู้ว่าพูดอะไร ตื่นเต้นเหมือนคลื่นโหมซัด

คุณครูจางตบประตูอย่างแรง ตะคอกคำรามเสียงหนึ่ง  เงียบ เข้าเรียนแล้ว! 

พวกนักเรียนเดินกลับไปที่นั่งช้าๆ สีหน้าหมดสนุกเป็นที่สุด

หยู่เหวินหวงงงงันเป็นอย่างมาก ไม่ได้บอกว่าเป็นชั้นเรียนทดลองหรือ? เพียงแค่ระเบียบวินัยแบบนี้ก็สามารถเป็นชั้นเรียนทดลองได้ด้วยหรือ?

 แนะนำเพื่อนใหม่คนหนึ่งกับทุกคน!  คุณครูจางเดินไปที่แท่นบรรยาย ชี้ไปที่หยู่เหวินหวง  เขาชื่อหยู่เหวินหวง ประเดี๋ยวหลังจากเลิกเรียน พวกเธอค่อยทำความรู้จักกันอีกที 

ดวงตาห้าสิบดวงมองไปทางหยู่เหวินหวงพร้อมกัน มีเสียงตกตะลึงดังออกมา

 ว้าว เขาหน้าตาหล่อเหลาจังเลยนะ! 

 ยังหล่อกว่าฉีจวิ้นโอปป้าอีก 

 ขายาวสูงนี่ ว้าวดูดีเกินไปแล้วล่ะมั้ง? 

จากนั้นก็เป็นสายตาที่เย็นชาของเหล่าเด็กผู้ชาย สูงแล้วมีประโยชน์อะไร? หล่อแล้วทำอะไรได้? แค่ดูสภาพร่างกายก็ไม่ทนต่อการต่อยตี

 นักเรียนหยู่เหวินหวง เธอไปนั่งแถวหลังสุดเถอะ  คุณครูจางกล่าว

หยู่เหวินหวงเดินไปแถวหลัง ที่นั่นเป็นตำแหน่งที่อยู่ทางด้านซ้ายสุดใกล้กับประตู เป็นที่นั่งที่แยกต่างหากที่หนึ่ง

หลังจากเขานั่งลง ก็หยิบหนังสือฟิสิกส์ออกมา เขารู้ว่าคุณครูจางสอนฟิสิกส์

นั่งด้านหน้าของเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนผู้ชายที่สูงมากสองคน ทั้งสองหันหน้ามาชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง ดึงเก้าอี้ไปด้านหลัง พนักพิงเก้าอี้ค้ำยันกับโต๊ะของเขา หยู่เหวินหวงเคลื่อนโต๊ะไปด้านหลังเล็กน้อย พวกเขาก็ดันมาทางด้านหลังอีก หลังจากที่ดันจนโต๊ะเอียงขึ้นครึ่งหนึ่ง บนใบหน้าก็มีรอยยิ้มเยาะเย้ยอย่างไม่เป็นมิตร

ตอนนี้หยู่เหวินหวงรู้แล้วว่าตัวเองเข้ามาเรียนในชั้นเรียนที่ไม่เอาไหน นี่ไม่ใช่ชั้นเรียนทดลองจริงๆ นี่คือเตาเผานักเรียนที่ไม่เอาไหนที่สมคำร่ำลือ

 นี่ นายชื่อหยู่เหวินหวงเหรอ?  เพื่อนร่วมโต๊ะของเขาปากคาบปากกาด้ามหนึ่ง ถามเขาอย่างไม่ชัดเจน เมื่อเปิดปากก็มีกลิ่นบุหรี่เข้ามาแล้ว

เพื่อนร่วมโต๊ะตัวเตี้ยมาก ดูท่าแล้วก็ประมาณร้อยหกสิบห้า ไม่รู้ว่าทำไมต้องมาอยู่แถวหลังสุดด้วย ตัวเล็กผอม ตัวดำปี๋ บนใบหน้ายังมีสิวหนุ่มที่ยังไม่สุกอีกสองสามเม็ด

สวมแว่นตาอันใหญ่กรอบดำ เลนส์หนามาก ดูแล้วเหมือนแว่นดำน้ำ

 ฉันชื่อหลี่จื่อเยว่!  เพื่อนร่วมโต๊ะเห็นเขาไม่เปล่งเสียง จึงแนะนำตัวเองขึ้นมาแล้ว กลับไม่ได้มีเจตนาร้ายมากนัก

หยู่เหวินหวงมองเขาแวบหนึ่ง  คุณครูกำลังสอน อย่าพูดคุยแล้ว! 

หลี่จื่อเยว่หันกลับไปอย่างหมดอารมณ์  คนทึ่ม! 

 พรุ่งนี้เป็นการสอบวัดความรู้ที่เรียนไปครั้งแรกหลังจากที่ชั้นมัธยมปีที่สามเปิดเรียนอย่างเป็นทางการ ทุกคนจะต้องปฏิบัติด้วยความตั้งใจ ทำลวกๆไม่ได้……  แม้ว่าเสียงของคุณครูจางจะดังมาก แต่ในห้องเรียนก็ยังมีเสียงเอะอะวุ่นวายอย่างต่อเนื่อง ที่ตั้งใจฟังมีแทบจะไม่ถึงห้าคน ราวกับว่าการสอบวัดความรู้ที่เรียนไปครั้งนี้ไม่ได้สำคัญเลยสักนิด

หยู่เหวินหวงเปิดหนังสือ หลักสูตรของชั้นมัธยมปีที่สามเขาเรียนรู้เองพอประมาณแล้ว ศึกษาอย่างรอบด้านเข้าใจทะลุปรุโปร่ง ทำให้แน่นอีกหน่อยก็ยิ่งดี

ขณะที่คุณครูจางกำลังสอน มองดูหยู่เหวินหวงสองสามครั้ง เห็นว่าเขายังนับได้ว่าตั้งใจฟังการสอน ในใจก็ดีใจเป็นอย่างมาก

แต่เมื่อนึกถึงคะแนนของเขา ในใจก็เริ่มกลัดกลุ้มขึ้นมาอีกทันที

 

บัลลังก์หมอยาเซียน

บัลลังก์หมอยาเซียน

Status: Ongoing

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: “เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง”หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: “ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น”อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: “เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่” หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: “ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท