ที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ เขาไม่ได้เกิดความรู้สึกกับเจ้าตาทับทิมสักเท่าไร แต่มันกลับพึ่งพิงเขาถึงเพียงนี้
มันรักสนุกขนาดนั้น แต่พอปล่อยให้มันอยู่ในป่าเขาลึก มันกลับไม่ไปไหน รอเขาอยู่ที่เดิม
กลับไป? กลับไปกับข้าหรือ? ซาลาเปาลูบหัวน้อยๆ ของมัน ดึงหญ้าเขียวในขนออก
อุ้มมือน้อยๆ เกาะมือเขาแน่น ไม่ยอมปล่อย
ไม่ยอมให้เขาไป และไม่ยอมให้เขาทิ้งมันด้วย
ซาลาเปาถอนใจเสียงหนึ่ง ได้ พาเจ้ากลับไปแล้วกัน รอเจ้าโตแล้ว อยากกลับสู่ป่าเขาข้าค่อยส่งเจ้ากลับมา
เมื่อนั้นหมาป่าต้าเปาก็เดินนำอยู่ข้างหน้าอย่างองอาจ
พอกลับถึงค่ายทหาร เจ้าตาทับทิมก็กินน้ำไปชามใหญ่ แล้วกินเนื้อชิ้นโตไปอีก จากนั้นก็นอนอยู่ที่พื้นอย่างอิ่มเอมใจ
ซาลาเปายังเอาเบาะเล็กให้มัน แต่มันกลับไม่นอน มันติดซาลาเปามาก
ซาลาเปานอนอยู่บนเตียง มันกระโดดขึ้นไม่ได้ จึงหมอบนอนอยู่ข้างล่างเตียง
หลังจากนั้นอีกหลายวัน ซาลาเปาไปไหนมันก็ตามไปทุกที่
แม้ซาลาเปาจะไปวิ่งตอนเช้า มันก็วิ่งตามอยู่ไกลๆ ขณะที่ฝึก มันก็หมอบอยู่ใกล้ๆ รอให้ซาลาเปาฝึกเสร็จกลับมาอุ้มมัน มันก็จะเป็นเด็กดีขดตัวอยู่ในอ้อมแขนซาลาเปา
ใกล้สิ้นปีแล้ว ค่ายทหารก็เริ่มผลัดเปลี่ยนกันหยุด ให้ทหารได้กลับไปเยี่ยมครอบครัว
วันหยุดซาลาเปาจัดอยู่ในช่วงปีใหม่ เพราะว่าน้องชายน้องสาวจะกลับมา
เซเว่นอัพกับโค้กมีช่วงวันหยุดสั้นๆ แค่แปดวันเท่านั้น น่าจะกลับมาช่วงใกล้ถึงวันสิ้นปี
ดังนั้นเวลาที่ทุกคนจะได้อยู่พร้อมหน้าจึงมีเพียงแปดวันเท่านั้น เขาวางแผนเวลาแปดวันนี้ แล้วบอกกล่าวกับเสด็จพ่อเสด็จแม่
หยู่เหวินเห้าลำบากใจมาก
เพราะปีใหม่ปีนี้ เขาคิดจะไปยุคปัจจุบัน รับปากเสด็จปู่ไว้แล้ว
ราชสำนักหยุดงานตั้งแต่วันที่ยี่สิบแปดเดือนสิบสอง พวกเขารีบเก็บข้าวของให้ทันเวลา เพราะเช่นนั้นก็จะเป็นพวกเขาที่ไป ไม่ใช่เซเว่นอัพกับโค้กมา จะได้อยู่ด้วยกันนานอีกหน่อย
แต่แผนการของซาลาเปาจัดไว้ละเอียดขนาดนั้น หากบอกว่าไม่อยู่ฉลองปีใหม่ที่นี่ เขาจะผิดหวังหรือไม่?
หลายปีที่ผ่านมา ซาลาเปาไม่เคยวางแผนงานใดๆ นี่เป็นครั้งแรก
แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือรับปากกับเสด็จปู่แล้ว เขาเริ่มเตรียมตัวมานานแล้ว เริ่มออกกำลังกายล่วงหน้าหนึ่งเดือน รักษากำลังวังชาให้เต็มเปี่ยม ข้ามไปอีกโลกด้วยกัน
หยวนชิงหลิงจึงเสนอ ไม่เช่นนั้นก็อยู่ฉลองที่เป่ยถัง ผ่านปีใหม่แล้วเราค่อยไป? ลวดส่งพวกโค้กกลับไปด้วย จากนั้นค่อยพาเสด็จปู่ไป ให้พวกเขาสนุกอยู่ที่นั่นระยะหนึ่ง
ปัญหาคือ วันที่แปดข้าก็ต้องทำงานแล้ว หยู่เหวินเห้าเอ่ยอย่างคับอก
หากวันที่แปดค่อยไป เช่นนั้นก็ต้องทิ้งเขาไว้ งานของเขาก็หาคนมาทำแทนไปเรื่อยไม่ได้
หยวนชิงหลิงเห็นท่าทางน้อยใจของเขาแล้วก็หัวเราะเอ่ย เจ้าก็ลาหยุดไม่ดีจริงๆ เช่นนั้นข้าจะปรึกษากับเปาเปาอีกทีแล้วกัน
หยู่เหวินเห้าเอ่ย ข้าเข้าใจความตั้งใจของเปาเปาดี เขาอยากให้น้องๆ กลับมา หมาป่าหิมะ เสือ กับนกฟีนิกซ์จะรวมตัวกัน เพราะหากไปทางนั้นก็ไม่สะดวกเอาพวกมันไปด้วย
ก็จริง! หยวนชิงหลิงก็เริ่มเครียดตาม
ฉลองปีใหม่ลำบากใจจริงๆ
มิเช่นนั้นเจ้าไปหารือกับเสด็จปู่ บอกว่าไว้ปีหน้าค่อยไป หยู่เหวินเห้าไม่อยากถูกทิ้งไว้ จึงได้แต่เกลี้ยกล่อมอู๋ซ่างหวง
แต่ไรมาอู๋ซ่างหวงก็ค่อนข้างเชื่อฟังเจ้าหยวน
แต่หยวนชิงหลิงกลับคิดว่าไม่ได้ เพราะอู๋ซ่างหวงตั้งตารอคอยมานานแล้ว ทั้งยังลงมือกระทำ หากตอนนี้ไปบอกพวกเขาว่าไปไม่ได้ ไฟได้ลุกไหม้จวนอ๋องซู่แน่
แต่เจ้าห้ายืนกรานให้นางไปพูด ด้วยความจนใจนางจึงต้องออกวังไปจวนอ๋องซู่ในตอนกลางวัน
หลังจากพูดเป็นพิธีร่วมกันแล้ว ก็เข้าประเด็นหลัก อึกๆ อักๆ ถามอู๋ซ่างหวง ไม่ทราบว่า…หากค่อยไปทางนั้นปีหน้า จะดีกว่าหรือไม่?
สามใหญ่หันมามองขวับทันที นัยน์ตาเข้มเย็นชา ราวกับคมมีดแหลมทะลุกลางใจ รอยยิ้มหยวนชิงหลิงพลันแข็งอยู่ที่มุมปาก