บัลลังก์หมอยาเซียน – บทที่ 1705 เจ้าตาทับทิม

บทที่ 1705 เจ้าตาทับทิม

แม้ว่ามันจะเปื้อนเลือดเต็มตัว แต่ก็เด็กมาก ทั้งยังได้รับบาดเจ็บ ซาลาเปาจึงไม่กล้าอาบน้ำให้มัน ใช้เสื้อผ้าของตัวเองทำเป็นเบาะเล็กๆ รองให้มัน ให้มันนอนอยู่ในนั้น

หมาป่าซาลาเปารับผิดชอบดีมาก หมาป่าที่ตนช่วยกลับมาต้องเฝ้าเอง ดังนั้นมันจึงอยู่กับเจ้าหมาป่าหิมะน้อยแบบไม่คลาดสายตา

ซาลาเปาเห็นดังนั้นแล้วก็รู้สึกน่าขัน  รอมันโตแล้วก็ให้เป็นคู่ครองเจ้าแล้วกัน 

หมาป่าซาลาเปาดุใส่เขา ไม่เอาคู่ครองๆ มันไม่ใช่หมาป่าหิมะ

 ไม่ใช่หมาป่าหิมะแล้วเป็นอะไรเล่า? นั่นหมาป่าหิมะชัดๆ!  ซาลาเปาหัวเราะพลางเดินออกไป

วันถัดมา เมื่อคนในกองทัพรู้ว่าองค์รัชทายาทช่วยลูกหมาป่าหิมะกลับมาตัวหนึ่ง ก่อนจะถึงช่วงพักกลางวันจึงพากันมาดู

หมาป่าหิมะน้อยยังไม่ตื่น นอนอยู่บนเบาะนุ่มนิ่ม เซื่องซึมแทบไม่มีชีวิตชีวา

 นี่คือหมาป่าหิมะหรือ? ตัวเล็กจริง 

 ทำไมเหมือนมีนิดหนึ่งที่ไม่เหมือนต้าเปานะ 

 ไม่เหมือนหรือ? ก็สีขาวเหมือนกัน ข้าว่าเหมือนนะ 

 หลักๆ เพราะมันตัวเล็กเกินไป แล้วยังนอนหมอบอีก ก็เลยดูชัดๆ ไม่ได้ 

 แต่บนเขานี้จะมีหมาป่าหิมะได้อย่างไร? ปกติหมาป่าหิมะอยู่ที่ยอดเขาหมาป่าหิมะนี่ 

ครั้นซาลาเปาเดินเข้ามาก็เห็นทุกคนกำลังมุงลูกหมาป่าหิมะอยู่ เขาก็เข้าไปดูด้วยแวบหนึ่ง  ยังไม่ตื่นหรือ? คงไม่ใช่ว่าตายแล้วนะ? 

 ไม่พ่ะย่ะค่ะ ยังหายใจอยู่  ทหารเอ่ย

 ข้าต้องไปหานมแพะให้มันสักหน่อย ดูท่ายังเป็นลูกหมาป่าอยู่เลย  ว่าแล้วซาลาเปาก็หมุนตัวจากไป

จะหานมแพะในกองทัพนั้นยาก ยังต้องขี่ม้าไปที่ลานปศุสัตว์ที่ห่างออกไปสิบลี้

เขาใช้ถุงหนังแกะบรรจุนมแพะกลับไปถุงหนึ่งเต็มๆ เทใส่ชามประมาณหนึ่ง ที่เหลือก็ให้หมาป่าต้าเปาดื่ม

เนื่องจากนมแพะมิอาจเก็บได้นาน ไม่ให้ต้าเปาดื่มก็จะเสียเปล่า

เมื่อหมาป่าหิมะน้อยตื่นขึ้นมาก็ได้กลิ่นหอมของนม หัวน้อยๆ ไถไปด้านหน้า แต่กลับเอื้อมไม่ถึง

ซาลาเห็นดังนั้นก็นั่งลงกับพื้นอุ้มมันขึ้นมาเสียเลย หยิบช้อนคันเล็กป้อนใส่ปากมันทีละน้อย

มันหิวจัด เพิ่มดื่มไปคำหนึ่งก็รีบอ้าปากอีกทันที นมครึ่งถ้วยเล็กเข้าไปอยู่ในท้องมันแล้ว

ดีที่หมาป่าต้าเปายังดื่มไม่หมด ซาลาเปาจึงเทแบ่งมาป้อนให้อีกหน่อย ก็ประมาณครึ่งถ้วยเล็ก ดื่มหมดเกลี้ยง

หลังจากดื่มนมแพะแล้ว หมาป่าหิมะน้อยก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นนิดหนึ่ง นอนตัวอ่อนอยู่ในอ้อมแขนของซาลาเปา ปลายจมูกเย็นถูกับข้อมือของซาลาเปาราวกับเป็นการขอบคุณ

ดวงตาของมันเป็นประกายราวกับทับทิม สีแดงนี้ต่างกับสีแดงโลหิตจริงๆ เขาไม่เคยเห็นสีที่แดงและยังสดใสเช่นนี้มาก่อน

หมาป่าหิมะน้อยงดงามเช่นนี้ ไยจึงบาดเจ็บอยู่ในป่าเขาละแวกนี้ได้?

ถูกคนขโมยมา? แต่ขโมยมาแล้วไยต้องทำร้ายมัน? เลวจริงๆ

 เจ้าต้องอยู่ต่อไปนะ ข้าจะตั้งชื่อให้เจ้า ให้เจ้าอยู่ข้างกายเหมือนกับต้าเปา  ซาลาเปาจิ้มๆ ปลายจมูกของมัน ยิ้มเอ่ย

แต่เมื่อเขาเห็นถุงหนังแกะข้างๆ ที่ว่างเปล่าแล้วก็กลุ้มใจอีก กลางคืนยังต้องไปเอานมอีกหรือนี่?

ช่างเถอะ ไปเอาก็ไปเอา อย่างไรขี่ม้าก็ไม่ไกล

ในกองทัพไม่สะดวกเลี้ยงแพะ หากต้องการให้ลูกหมาป่าตัวนี้รอดก็ต้องไป

หวังว่ามันจะรอดก็แล้วกัน

แต่อาการบาดเจ็บหนักขนาดนี้ ซาลาเปาคิดว่าอาจจะไม่รอด

เขาเลี้ยงไปอย่างนี้หลายวัน ไปเอานมแพะทุกวัน เจ้าตัวน้อยกลับไม่ตายจริง บาดแผลก็เกือบหายดีแล้ว

ซาลาเปารู้สึกว่าเจ้าหมาป่าหิมะน้อยตัวนี้เข้มแข็งจริงๆ ดังนั้นจึงเลี้ยงเอาไว้ แต่จะตั้งชื่อให้มันว่าอะไรดีนะ?

เขาคิดอยู่พักหนึ่ง มองขนที่ถูกเลือดย้อมเป็นสีแดง แล้วยังมีดวงตาสีแดงเป็นประกายอีก เช่นนั้นก็ชื่อเจ้าตาทับทิมก็แล้วกัน

ตั้งชื่อเรียบๆ แต่สามารถเห็นจุดเด่นได้ในทันที

หมาป่าต้าเปาชอบเจ้าตาทับทิมมาก เดี๋ยวนี้ก็ไม่ขึ้นเขาอีกแล้ว เอาแต่เฝ้ามัน รอจนอาการบาดเจ็บมันดีหน่อยแล้ว ก็พามันออกไปเล่นข้างนอก

แต่เจ้าตาทับทิมยังเดินไม่ค่อยเก่ง ตุปัดตุเป๋โซเซ โดยเฉพาะไม่กล้าลงบันได เพราะมันได้กลิ้งลงไปทุกที

 

บัลลังก์หมอยาเซียน

บัลลังก์หมอยาเซียน

Status: Ongoing

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: “เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง”หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: “ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น”อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: “เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่” หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: “ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท