บัลลังก์หมอยาเซียน – บทที่ 1702 ซาลาเปากลับมาด้วยตัวเอง

บทที่ 1702 ซาลาเปากลับมาด้วยตัวเอง

ขุนนางผงะ  ท่านฉู่ ที่ท่านว่ามาก็ไม่เหมาะสม ชายแต่งงานเมื่อสามสิบ หญิงยี่สิบถึงออกเรือนที่ว่านั่นหมายถึงชายต้องแต่งงานก่อนอายุสามสิบ ส่วนหญิงก็อย่าได้เกินอายุยี่สิบ ไยท่านจึงให้การกลับกันเล่า? 

 แต่ไรมาข้าก็เข้าใจเยี่ยงนี้ อีกอย่างคำพูดนี้ที่จริงแล้วควรเข้าใจว่าอย่างไร นานาจิตตัง อย่างไรข้าก็คิดว่าข้อเสนอของฝ่าบาทถูกต้อง 

ขุนนางทั้งหลายพากันถอดถอนใจ มองไปทางเซียวเหยากง  ท่านเซียวเหยากง ท่านพูดสิ ท่านคิดเห็นอย่างไร 

เซียวเหยากงงุนงงเล็กน้อย  พูดอะไรหรือ? 

 เรื่องระบบแต่งงานอย่างไรเล่า  ท่านมิได้ฟังอยู่หรือ?

 ระบบแต่งงานทำไมหรือ?  เซียวเหยากงงงหนักกว่าเดิม

ครั้นขุนนางทั้งหลายเห็นดังนี้แล้ว ก็รู้ว่าพวกเขาทั้งสามคิดเห็นตรงกัน ถามไปก็เสียเปล่า จึงขอตัวลากลับ

รอจนพวกเขาจากไปแล้ว เซียวเหยากงจึงเอ่ย  ที่แก้ก็หาได้มีอะไรผิดไม่ สมควรตั้งกฎให้เข้มงวด เวลานี้ชาวบ้านแต่งงานเมื่ออายุแปดปีสิบปีก็มีอยู่มาก แม้ว่าออกเรือนแล้วยังมิร่วมหอ แต่คนเห็นก็ยังให้รู้สึกแปลก 

ประชาชนเห็นเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิต ดังนั้นต้องจัดการให้เรียบร้อยแต่เนิ่นๆ จึงจะวางใจ

พวกเขามิได้แย้งว่าเรื่องนี้มิใช่เรื่องใหญ่ในชีวิต แต่เรื่องใหญ่ในชีวิตจริงๆ จำต้องมีสติปัญญาที่เป็นผู้ใหญ่บ้างจึงจะดี

พวกเขากินเกลือมาก่อน แม้ชายแต่งงานเมื่อสามสิบ หญิงยี่สิบถึงออกเรือนก็ไม่แก่สักนิด เมื่อประกอบกับสภาพความเป็นจริงของบ้านเมืองและระดับการแพทย์ เลื่อนอายุแต่งงานเป็นสิบแปดยี่สิบเอ็ดก็ไม่เกินไป เหมาะสมที่สุด

ตามพื้นบ้านมีทารกตายอยู่จำนวนมาก นอกจากเหตุที่ระดับการแพทย์ล้าหลัง อีกปัจจัยหนึ่งก็เพราะอายุของมารดายังน้อยเกินไป ยังเติบโตไม่เต็มที่ก็ให้กำเนิดแล้ว น่าเวทนายิ่งนัก

เจ้าห้าทำเพื่อสตรี แม้จะถูกด่าทอ แต่ก็มีประโยชน์ในระยะยาว ตามหลักแล้วควรสนับสนุน

เรื่องเปลี่ยนระบบการแต่งงานก็ดำเนินไปอย่างคึกคักใหญ่โต

เดิมทีหยู่เหวินเห้าคิดว่าเช่นนี้แล้ว ขุนนางพวกนั้นก็จะไม่บ่นเรื่องคัดเลือกพระชายารัชทายาทอีก

ไหนจะรู้ว่าพวกเขายังคงยื่นฎีกาต่อ

บอกว่าแม้นเปลี่ยนระบบการแต่งงาน ชายอายุยี่สิบจึงแต่งงาน แต่ก็เลือกพระชายาก่อนได้เช่นกัน เอาไว้ให้อายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์แล้วค่อยแต่งงาน

อีกนัยหนึ่ง หากไม่กำหนดพระชายารัชทายาทไว้ก่อน พวกเขาก็ไม่วางใจ

หยวนชิงหลิงก็ปวดเศียรเวียนเกล้ากับเรื่องนี้

แต่นางไม่ยอมอ่อนข้อให้สักนิด พ่อแม่ทุกคนล้วนไม่ชอบรักก่อนวัย

แม้นฮ่องเต้กับฮองเฮาจะคัดค้าน แต่ราชสำนักก็มีคนคัดสรรพระชายารัชทายาทไว้แล้ว ทั้งยังยื่นรายชื่อมาให้

หยู่เหวินเห้ากับหยวนชิงหลิงไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะจริงๆ เห็นรายชื่อพวกนั้นแล้ว ล้วนเป็นเด็กอายุสิบกว่าขวบ ยังไม่ต้องพูดถึงว่าซาลาเปายังไม่รู้จักกับพวกนาง ไม่มีความรู้สึกให้พูด แต่วัยนี้ยังเด็กเกินไปจริงๆ

หยู่เหวินเห้าตีกลับไปหมด แล้วยังออกราชโองการไม่ให้พูดถึงเรื่องนี้อีก

แต่ขุนนางและอวี้สื่อบางคนก็หัวแข็งมาก เกลี้ยกล่อมไม่สำเร็จ รายชื่อถูกตีกลับ ก็เอ่ยถึงเรื่องนี้ในที่ประชุมเช้าทุกวัน หยู่เหวินเห้าออกโองการกุมขังไปสองสามคน แต่สุดท้ายกลับเป็นเรื่องใหญ่โตมากขึ้น ขุนนางเก่าจำนวนมากคุกเข่าในที่ประชุมเช้าบอกว่าต้องกำหนดพระชายารัชทายาทก่อน

หยู่เหวินเห้าหงุดหงิดเหลือเกิน เรื่องนี้ไม่หนักพอที่จะระบายอารมณ์ลงทัณฑ์กับพวกเขา ขุนนางเก่าเหล่านั้นมิอาจทำให้ตกใจ พูดแรงหน่อยก็ไม่ได้ แต่ละคนท่าทางเหมือนตกใจแล้วหัวใจก็จะกำเริบอย่างนั้น ทั้งเป็นขุนนางที่เคยทำคุณงามความดีกับเป่ยถัง หากจะลงทัณฑ์พวกเขาจริง ก็ทำไม่ลง

สุดท้ายเรื่องนี้ก็รู้ไปถึงซาลาเปา

เขากลับมาร่วมประชุมเช้าเพื่อเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ

โค้งคำนับบรรดาขุนนางเก่าเป็นมารยาท เอ่ย  ทุกท่านก็ทำเพื่อข้า ข้าซาบซึ้งใจยิ่ง แต่เรื่องหมั้นหมายนี้มิต้องให้พวกท่านเหนื่อยหรอก ท่านอ๋องชินเฟิงอันดูหญิงตระกูลใหญ่ให้ข้าแล้วคนหนึ่ง คุณลักษณะนางยอดเยี่ยม เหมาะจะเป็นพระชายารัชทายาทนัก 

ครั้นขุนนางทั้งหลายได้ยินดังนั้นก็ดีใจชื่นมื่น รีบถามว่าเป็นคุณหนูตระกูลไหน

ซาลาเปาเอ่ย  เวลานี้ยังบอกมิได้ เพียงแต่สายตาอ๋องชินเฟิงอันแหลมคม ดูคนมาไม่น้อย พระชายารัชทายาทที่ทรงเลือกให้ข้าต้องดีแน่ เขาบอกว่ารอให้ข้าอายุยี่สิบ ก็จะให้กรมพิธีการและกรมวังจัดการเรื่องแต่งงานให้ 

ทุกคนคิดแล้วก็เห็นพ้องต้องกัน แม้อ๋องชินเฟิงอันจะยากจนไปหน่อย แต่ก็เป็นผู้ทำงานจริง ไม่มีเรื่องใดที่เขาจัดการแล้วจะไม่เรียบร้อย

หากบอกว่าเขาออกหน้าเรื่องแต่งงานให้องค์รัชทายาท เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกจริงๆ

เรื่องที่วุ่นวายใจหยู่เหวินเห้าและหยวนชิงหลิง จึงถูกคำพูดสองสามคำของซาลาเปาหลอกผ่านไปทั้งอย่างนี้

 

บัลลังก์หมอยาเซียน

บัลลังก์หมอยาเซียน

Status: Ongoing

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: “เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง”หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: “ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น”อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: “เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่” หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: “ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท