บัลลังก์หมอยาเซียน – บทที่ 1727 ฆ่า

บทที่ 1727 ฆ่า

เจ้าหญิงสะดุดล้มลงไปกับพื้น ก่อนที่นางจะทันมองเห็นได้ชัดเจน ก็เห็นชายเสื้อคลุมที่เหินบินเข้ามาจากกลางอากาศ เอาผ้ามาคลุมศีรษะคลุมใบหน้าของนาง ป้องกันไม่ให้นางเห็นฉากที่โหดร้ายนี้

ทันใดนั้น วงแขนอันคุ้นเคยก็โอบกอดนางเข้าไปในอ้อมแขน แล้วบรรจงเช็ดเลือดบนใบหน้าของนางอย่างเบามือ

เจ้าหญิงรู้สึกโล่งอก ชั่วขณะที่เสื้อคลุมตกลงไป ใบหน้าอันงดงามของนางก็เผยออกมา รอยเลือดบนหน้าก็ถูกเช็ดออกจนสะอาดสะอ้าน

ยังไม่ทันมองเห็นได้ชัดเจน ก็มีผ้าไหมผืนหนึ่งมัดปิดที่ดวงตาของนางเอาไว้

 หรงเยว่!  ท่านชายสี่ร้องเรียก

หรงเยว่ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า รับตัวเจ้าหญิงมาจากท่านชายสี่  ไปกันเถอะ! 

ท่ามกลางการปะทะอันดุเดือดเลือดนอง หรงเยว่ก็นำตัวนางออกไปอย่างรวดเร็ว ฉากการเข่นฆ่าสังหารทั้งหมดที่นี่ เจ้าหญิงจึงไม่ได้เห็นมัน

แน่นอนว่า นางย่อมไม่ได้เห็นสีหน้าเย็นยะเยือกบนใบหน้าของสามี

หัวหน้าคนงานหวูถูกจับกุมตัวได้แล้ว กลุ่มโจรที่เรียกตัวเองว่าโจรแห่งป่าเขียวซึ่งอาจหาญต่อต้านขัดขืน ล้วนถูกฆ่าตายหมดอย่างเงียบเชียบ น่าจะเป็นการฆ่าแบบดาบเดียวปลิดชีพ

เฉพาะหัวหน้าคนงานหวูคนนี้เท่านั้น ที่ต้องทิ้งไว้ให้เหลิ่งซี่

หัวหน้าคนงานหวูมือด้วนไปข้างหนึ่ง พอเห็นสีหน้าเย็นยะเยือกราวกับราชาแห่งนรกของเหลิ่งซี่ ก็ตกใจสุดขีด รีบคุกเข่าลงไปกับพื้น  โปรดไว้ชีวิตด้วย โปรดไว้ชีวิตด้วย! 

เหลิ่งซี่มองอีกฝ่ายนิ่ง ๆ ริมฝีปากหยักโค้งขึ้นน้อย ๆ  ฮุ่ยเทียนเมี่ยตี้ ยืมดาบของพวกเจ้าหน่อยซิ! 

ดาบสองเล่มถูกโยนไปยังท่านชายสี่พร้อมกัน เขายกมือขึ้นรับมันมา ทันทีที่ยกขึ้น ประกายแสงอัน

เย็นเยียบชาส่องเป็นมุมโค้ง ทำให้หัวหน้าคนงานหวูหวาดกลัวจนคลานถอยหลังไปไม่หยุด

ดาบวาดลงมา มืออีกข้างหนึ่งก็ถูกตัดออก ท่ามกลางเสียงกรีดร้องโหยหวน ดาบคู่ในมือของท่านชายสี่ก็ฟาดฟันลงไปไม่ยั้ง ตัดเท้าทั้งสองข้างของหัวหน้าคนงานหวูทิ้ง รอยแผลเรียบสนิทอย่างน่าชื่นชม

หัวหน้าคนงานหวูแหกปากร้องหลายครั้ง ทำท่าจะเป็นลมหมดสติไป

ท่านชายสี่ยังคงใช้ดาบคู่ฟาดฟันลงไปไม่ยั้ง ที่หน้าอก ที่หน้าท้อง ล้วนถูกดาบกรีดเฉือนจนทั่ว พลังดาบรุนแรงจนทะลุไปถึงด้านหลัง เลือดสด ๆ ไหลอาบนองพื้น

ท่านชายสี่ขว้างดาบกลับไปให้ฮุ่ยเทียนกับเมี่ยตี้ เก็บแววตาโกรธเกรี้ยวเข้าไปจนมิดชิด ท่ามกลางเสียงกรีดร้องอันน่าเวทนาของหัวหน้าคนงานหวู เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงและแววตาที่สุดแสนจะกรุณาหาใดเปรียบว่า  สับเขาให้เละจนเป็นเศษเนื้อซะ! 

พูดจบ เขาก็สะบัดเสื้อคลุม แล้วพลิ้วกายเหินออกไป ราวกับเป็นเทพเซียนผู้ไม่ข้องเกี่ยวกับทางโลก ไม่หลงเหลือท่าทีกระหายเลือดเลยแม้แต่น้อย

ในบ้านร้างผุพัง กลุ่มคนจากสำนักเหลิ่งหลังก้าวขึ้นไปข้างหน้า ผลัดกันสับคนละดาบ มีหลายคนที่พร้อมจะลงมือ แต่กลับยังไม่ทันได้เห็นเลือดแม้แต่ครึ่งหยด โจรก็ถูกฆ่าตายไปหมดแล้ว แต่เพราะดาบถูกชักออกมาแล้ว จะอย่างไรก็ต้องได้ดื่มเลือด

ดังนั้น ก็สมควรใช้หัวของหัวหน้าคนงานหวูเป็นเครื่องเซ่นเสียหน่อย

ท่านชายสี่เหลิ่งออกไปจากบ้านร้าง หรงเยว่รออยู่ข้างนอกเป็นเพื่อนเจ้าหญิง เขาก้าวไปข้างหน้า หรงเยว่ก็ถอยหลังเปิดทางให้อย่างรู้งาน

 ข้าไม่เป็นไร!  เจ้าหญิงหันไปมองท่านชายสี่ ไม่มีอาการตกใจใด ๆ บนใบหน้าของนาง

 อื้ม กลับบ้านเถอะ!  ท่านชายสี่ก็ไม่พูดอะไร เพียงจับมือนางไว้แน่นแล้วมองนางด้วยสายตาลึกซึ้ง

อุ้มนางขึ้นไปนั่งบนหลังม้า จากนั้นก็กระตุ้นม้าลงจากภูเขาไป

เจ้าหญิงกอดเขาแน่น เอาใบหน้าแนบแผ่นหลังของเขา รู้สึกปลอดภัยอย่างยิ่ง

ท่านชายสี่จับบังเหียนด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างวางซ้อนลงบนมือของนางที่กอดอยู่ที่เอวของเขา มือทั้งสองค่อย ๆ เกี่ยวกระหวัดกัน เขาบีบคลึงที่นิ้วมือของนาง เป็นการบีบที่ใช้แรงมากพอสมควร ในใจยังนึกกลัวอยู่ไม่หาย

กลัวว่าจะมาสายเกินไป

นับจากที่เจ้าหญิงถูกจับ ไปจนถึงสามารถช่วยนางออกมาได้สำเร็จ ใช้เวลาไม่เกินหนึ่งวัน อีกทั้งยังเป็นการแผ้วถางเส้นทางบนภูเขาล่างต้าง เสียจนราบเป็นหน้ากลองตรง ๆ อีกด้วย

ถึงขั้นที่ว่า หยู่เหวินเห้ายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน้องสาวของเขาถูกจับตัวไป รอจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อ

อ๋องฉีมารายงานเขา ท่านชายสี่กับสำนักเหลิ่งหลังก็ไปช่วยเจ้าหญิงออกมาได้เรียบร้อยแล้ว

หยวนชิงหลิงกำลังจะออกจากวังไปเยี่ยมสักหน่อย นี่เป็นเรื่องที่น่ากลัวมากจริง ๆ เจ้าหญิงผู้มีวรยุทธประดุจหมัดเท้าปักบุปผาอ่อนด้อยเสียยิ่งกว่านาง ถึงกับถูกคนชั่วลักพาตัวไป นางจะไม่ตกใจกลัวแทบตายเลยหรือ?

เดิมทีหยู่เหวินเห้าคิดจะตามไปด้วย แต่เพราะอ๋องฉีเจ้าเจ็ดกำลังจะมารายงานความคืบหน้าของคดี ดังนั้น เขาจึงปล่อยให้เจ้าหยวนล่วงหน้าไปก่อน

หยวนชิงหลิงมาถึงจวน ท่านชายสี่ก็กำลังจะส่งคนไปเชิญนางพอดี อยากให้นางช่วยมาตรวจชีพจรให้เจ้าหญิง

 ไม่เป็นไรมากใช่หรือไม่? ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้?  หยวนชิงหลิงเข้ามาได้ พอเห็นเจ้าหญิงก็เอ่ยปากถามทันที

เจ้าหญิงเพิ่งอาบน้ำเสร็จแล้วออกมา เปลี่ยนเสื้อผ้า สระผมเสร็จสรรพ แต่ผมของนางยังไม่แห้ง นางรีบค้อมกายคารวะให้หยวนชิงหลิงทันที  พี่สะใภ้ ข้าไม่เป็นไร! 

 ไม่เป็นไรจริง ๆ นะ? บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?  หยวนชิงหลิงคว้าข้อมือของนาง แล้วมองสำรวจขึ้น ๆ ลง ๆ โดยละเอียด

 ไม่เป็นไร แค่รู้สึกว่าสกปรก กลับมาเลยอาบน้ำไปสามรอบเจ้าค่ะ  เมื่อเจ้าหญิงหวนนึกถึงตอนที่หัวหน้าคนงานหวูสัมผัสมือของนาง ในใจก็รู้สึกขยะแขยง

 สกปรก?  ดวงตาของหยวนชิงหลิงหดเล็กด้วยความตระหนก รู้สึกตกใจอย่างยิ่ง

 

บัลลังก์หมอยาเซียน

บัลลังก์หมอยาเซียน

Status: Ongoing

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: “เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง”หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: “ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น”อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: “เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่” หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: “ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท