บัลลังก์หมอยาเซียน – บทที่ 1743 เซียวเหยากงรับคำท้า

บทที่ 1743 เซียวเหยากงรับคำท้า

การแพร่ระบาดอยู่ภายใต้การควบคุมในระดับพื้นฐานแล้ว คณะเดินทางจึงเดินทางออกจากเมืองหวูกุ้ย

ทิวทัศน์รอบ ๆ เมืองหวูกุ้ยสวยงามอย่างยิ่ง เพราะไม่มีงานเร่งด่วนอะไร จึงสามารถเดินทางช้า ๆ พลางชมทิวทัศน์รอบ ๆ ดูชีวิตผู้คน และขนบธรรมเนียมต่าง ๆ ได้จนทั่ว

สุดท้ายก็เป็นไปตามที่ทุกคนปรารถนา การเที่ยวครั้งนี้สามารถเปลี่ยนเป็นการเที่ยวจริง ๆ ได้สักที

ในขณะที่สามยักษ์ใหญ่ที่อยู่ในยุคปัจจุบัน ก็ออกไปเที่ยวเล่นกันทั่วทุกที่

นอกจากนี้ นับจากที่วิดีโอสั้นของเซียวเหยากงได้รับความนิยมจนดังเป็นพลุแตก พวกเขาจึงถ่ายวิดีโอสั้นทุกที่ที่พวกเขาไป

เนื่องจากตอนนี้ยังเป็นแค่ทัวร์ภายในประเทศ ไกด์เลยจัดรถ RV ให้พวกเขาคันหนึ่ง ไปถึงที่ไหนก็พักเสียที่นั่น พวกเขาเดินทางขึ้นเขาลงห้วย พบเจออะไรไม่น้อย ได้เป็นเพื่อนกับผู้คนมากมาย รวมถึงพวกที่ชอบตามคนดังทางอินเทอร์เน็ตที่ไล่ตามพวกเขา เรียกได้ว่าแมสสุดติ่งกันเลยทีเดียว

โดยเฉพาะเซียวเหยากง ผู้ชื่นชอบการแย่งซีนเด่นเป็นชีวิตจิตใจ ทุกครั้งที่เขาไปถึงที่ไหนสักแห่ง เพื่อจะถ่ายวิดีโอสั้น เขาเป็นต้องอวดวิชากังฟูทุกที่

ถ้าไม่ใช่เพราะท่านฉู่กับอู๋ซ่างหวงพยายามหยุดเขาไว้เต็มที่ เขายังคิดจะโชว์วิชาตัวเบาด้วยซ้ำ

ถ้าเขาโชว์วิชาตัวเบาออกไปจริง ๆ ทัวร์ครั้งนี้ก็คงจะไม่ได้ไปต่อแน่ มีแต่ต้องซ่อนตัวกันเท่านั้นแล้ว

เซียวเหยากงยังคงบ่นงึมงำว่า เดิมทีวิชาตัวเบาก็มีอยู่ในโลกใบนี้แล้ว ติดอยู่แค่ว่าผู้คนสมัยนี้ไม่

ฝึกวรยุทธ์กันแล้ว เขาก็แค่อยากจะกระตุ้นให้ทุกคนหันมาสนใจฝึกวรยุทธ์ก็เท่านั้น

แต่เอาเข้าจริง เขาสามารถสร้างกระแสแห่งการเรียนรู้เรื่องศิลปะการต่อสู้ขึ้นมาได้จริง ๆ

เพราะถึงแม้เขาจะไม่ได้โชว์วิชาตัวเบา แต่ตอนที่โชว์กังฟู ความงดงามของเพลงหมัดทั้งมือทั้งเท้า

ในยามออกอาวุธก็งามสง่าน่าเกรงขาม ทำให้คนที่ได้เห็นรู้สึกตกตะลึง ระคนชื่นชมกันอย่างมาก

นอกจากนี้ ยังมีบล็อกเกอร์บางคนที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ไล่ตามพวกเขา บอกว่าพวกเขาอยากจะ

ประลองฝีมือกับเซียวเหยากงดูซักครั้ง

บ้างก็หวังจะดึงดูดความสนใจของผู้คน เกาะกระแสเขาเพื่อให้ตัวเองดัง บ้างก็อยากเรียนรู้จากผู้มี

วิชาจริง ๆ

มีหลายคนที่เซียวเหยากงไม่สนใจ แต่มีเพียงคนเดียวที่ชื่อว่า [เหวยหวูตู๋จุน](แปลเป็นไทยจะมีความหมายจะประมาณว่า กูนี่แหล่ะที่ยิ่งใหญ่กว่าใครทั้งหมด) ที่เอาแต่มาตามเห่าเหมือนหมาบ้าในช่องคอมเม้นท์ของเขาไม่หยุด บอกว่าวิชาของเขามีดีแค่ท่า แต่ทำห่าอะไรไม่ได้ เอาแต่พล่ามอะไรทำนองว่าใช้การตัดต่อ ไม่ก็ใช้เเอฟเฟกต์พิเศษอะไรพวกนั้น ตอนตีลังกาก็ไม่เคยเห็นหน้า จะต้องมีการใช้สแตนอินแน่ ๆ

จากเริ่มแรกก็แค่ด่า ต่อมาก็เริ่มออกสารน์ท้ารบมาตรง ๆ บอกว่าอยากท้าประลองฝีมือดูซักตั้ง

เซียวเหยากงโกรธมาก ลั่นวาจาว่าจะรับคำท้า แต่ท่านฉู่กับอู๋ซ่างหวงต่างบอกว่าไม่ต้องไปสนใจ เพราะคนแบบนั้นมันก็เป็นได้แค่หมาบ้า ถ้าไปสนใจ ก็มีแต่จะยิ่งลำพองใจมากขึ้น

เพื่อไม่ให้เขาโกรธ ทุกคนจึงไม่ปล่อยให้เขาอ่านคอมเม้นท์

เขาโดนด่าอยู่แบบนี้เป็นเวลาหลายวัน ด่าจนสุดท้าย ลามไปถึงรูปร่างหน้าตาไปจนถึงคนในครอบครัวของเขาไปด้วย คำพูดชั่วช้าหยาบคายอย่างถึงที่สุด

เซียวเหยากงไม่เห็น แต่ท่านฉู่กับอู๋ซ่างหวงโกรธจนแทบจะขาดใจตายให้ได้แล้ว ก่อนหน้านี้ถ้าด่าแค่สองสามคำทำนองว่ามีดีแค่ท่า แต่ทำห่าอะไรไม่ได้นั่นก็ยังแล้วไป เพราะถึงอย่างไร คนที่ฝึกวรยุทธ์ก็สมควรมีจิตใจที่กว้างขวาง

แต่ถ้าลามไปถึงคนในครอบครัว อันนี้ทนไม่ได้จริง ๆ

เนื่องจากพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเซียวเหยากงตายก่อนวัยอันควร เขาจึงกราบพระชายาชินเฟิงอันเป็นแม่บังเกิดเกล้าแทน แม้ว่าในเวลาต่อมาจะอยู่ในฐานะอาจารย์กับลูกศิษย์ แต่ทุกคนก็รู้ว่าพระชายาชินเฟิงอันเป็นแม่ของเขา

ด่าเซียวเหยากงเขาทนได้ แต่ด่าพระชายาชินเฟิงอัน เรื่องนี้ทนไม่ได้

สุดท้าย ท่านโสวฝู่ที่อดทนอดกลั้นมาตลอด ก็ตอบกลับใต้โพสคอมเม้นท์ของ[เหวยหวูตู๋จุน]ว่า  สถานที่ เวลา!

เพียงสี่คำ แสดงเจตจำนงที่จะรับคำท้า

เพียงไม่นาน [เหวยหวูตู๋จุน]ก็ตอบกลับข้อความมาว่า  สามวันหลังจากนี้ เวทีหลังถนนอานชิ่งอารีน่า! 

เดิมทีมีแฟน ๆ ที่กดติดตามบัญชีนี้หลายล้านคนแล้ว ทาง[เหวยหวูตู๋จุน]ก็มีแฟน ๆ อยู่หลายล้านคนเหมือนกัน ชายสองคนถูกค้นหาในหัวข้อ  ประลองวรยุทธ์  จนขึ้นฮอตเสิร์ชทันที บรรดาแฟน ๆ และฝูงชนที่รอกินเผือกก็รีบบอกรีบแชร์ต่อ ๆ กันอย่างล้นหลาม

มีหลายคนได้ทำการศึกษาวิจัยวิดีโอของเซียวเหยากง วิดีโอนี้ให้ความรู้สึกถึงพลังอันแรงกล้า แต่ว่ากันตามจริง ก็มีการใช้เอฟเฟกต์พิเศษร่วมด้วย ฉากที่ดูแล้วดุดันร้ายกาจบางฉากได้เพิ่มเอฟเฟกต์พิเศษของวิดีโอ เช่น ดอกไม้บานบนหน้าจอ คล้ายเป็นการทำโมเสกเพื่อเซ็นเซอร์

อีกทั้งเซียวเหยากงก็แก่มากแล้ว ส่วน[เหวยหวูตู๋จุน]เพิ่งจะอายุได้สามสิบห้าปีเท่านั้น อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ กังฟูของเขาล้วนเป็นกังฟูจริงๆ ไม่มีการใช้เล่ห์เหลี่ยมใด ๆ ร่างกายส่วนบนเปลือยเปล่าแสดงกล้ามเนื้อที่แข็งแรง เขาเป็นยอดฝีมือด้านศิลปะการต่อสู้อย่างแน่นอน

หลังจากยืนยันสถานที่และเวลา พวกเขาบอกเซียวเหยากงว่า  ไอ้คนที่มันยั่วยุเจ้าในช่องคอมเม้นท์ก่อนหน้านี้ ร่อนสารน์ท้ารบมา พวกเราเลยรับคำท้าแทนเจ้าแล้ว! 

เซียวเหยากงดีใจอย่างยิ่ง  รับคำท้าแล้ว ไปซัดมันให้เละ! 

 

บัลลังก์หมอยาเซียน

บัลลังก์หมอยาเซียน

Status: Ongoing

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: “เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง”หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: “ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น”อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: “เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่” หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: “ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท