นั่นเป็นแววตาแบบไหนกัน
ไว้ชีวิต!
สงบจนเหมือนมองร่างไร้วิญญาณอยู่
“หลีกไป”
น้ำเสียงของถังเฉาเย็นชาสุดๆ “ฉันจะไม่พูดเป็นครั้งที่สอง”
“ถังเฉา ฉันบอกให้หยุด”
ถังเฉายืนกรานจะเข้าไป และทำให้หลินฉ่ายเวยโมโห “พ่อฉันป่วยขนาดนี้ นายยังอยากจะเข้าไปกระตุ้นเขาอีกหรอ”
จากนั้น ถังเฉาก็มองไปที่หลินฉ่ายเวยเฉยชาทีนึง แต่ไม่ได้สนใจ
คลานขึ้นมาจากพื้นอย่างทรหด แววตาของเจิ้งฮ่าวมืดมนจนน่ากลัว “ในเมื่อนายไม่ยอม งั้นก็ไม่ต้องกลับไปแล้วล่ะ ตีขามันให้หักทั้งสองข้าง คุกเข้าขอโทษหน้าเตียงของอาหลิน”
เพิ่งจะพูดจบ ก็มีการ์ดของเจิ้งฮ่าวห้าหกคนก็เดินมาอยู่สองฝั่ง ล้อมถังเฉาเอาไว้
“เสี่ยวเฉา หนีเร็ว” ลุงเหลียงรีบตะโกนบอกถังเฉา
จากนั้น เหมือนว่าถังเฉาจะได้ยิน หันหลังให้การ์ด แล้วก็เดินอย่างสบาย/
“ไอ้โง่”
เจิ้งฮ่าวหัวเราะ หลินฉ่ายเวยก็ไม่ได้แยแส ยืนมองอย่างเย็นชา
การ์ดสองคนซ้ายคนขวาคน ขนาบข้างถังเฉาไป
ในตอนที่มือของพวกเขากำลังจะโดนถังเขานั้น ถังเฉาหันกลับไป กำหมัดแน่นแล้วชกออกไปอย่างแรง
หน้าของการ์ดที่ยืนอยู่ด้านซ้ายสัมผัสกับหมัดของถังเฉาอย่างใกล้ชิด
ทันใดนั้น ทั้งตัวก็ไปโดนชนกับรถ ปลิวออกไป แล้วก็พาการ์ดที่อยู่ข้างหลังปลิวไปด้วย น็อกทันที
“……”
ลานสวนหย่อมบ้านหลินเต็มไปด้วยศพ แล้วก็ไม่มีเสียงอะไรขึ้นอีก
หลินฉ่ายเวยและเจิ้งฮ่าวลืมตาโต มองดูถังเฉาด้วยความไม่น่าเชื่อ เหมือนดูสัตว์ประหลาดยังไงอย่างงั้น
ลุงเหลียงยิ่งตกใจจนไม่กล้าขยับตัว ปากกระตุกไปหลายที อยากจะพูดอะไร แต่ก็พูดไม่ออก
การ์ดคนอื่นๆหยุดแล้วก็จ้องถังเฉา ขยับไปทางเจิ้งฮ่าว เพราะพวกเขาคิดว่า ต่อไปคงจะลองมือกับเจิ้งฮ่าว
แต่ถังเฉาไม่ทำ
นั่นเป็นภาพที่เหมือนทำเรื่องไม่เหมาะสมเล็กน้อย สีหน้าถังเฉาเฉยชา แม้แต่หน้ายังไม่เงยขึ้น แล้วก็หันกลับไป เดินไปที่ห้องนั่งเล่นต่อ
เจิ้งฮ่าวก็รู้สึกตัวขึ้น ในแววตามีความกลัวอยู่ หลินฉ่ายเวยก็ตะโกนเสียงแหลมขึ้น “ถังเฉา นายกล้าลงมือได้ยังไง!”
ในตอนนี้ ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมถังเฉาถึงกล้ากลับมา
ถึงแม่จะไม่รู้ว่าถังเฉาในห้าปีที่ผ่านมาเจออะไรมาบ้าง แต่หลินฉ่ายเวยดูออกว่าถังเฉาแข็งแกร่งแล้ว
“ทำไมข้างนอกถึงเสียงดังขนาดนั้น”
สถานการณ์ข้างนอกก็ส่งเสียงไปถึงคนข้างในบ้าน มีคุณนายสวมชุดหรู รูปร่างหน้าตาคล้ายกับหลินฉ่ายเวยเดินออกมา แตรพอเห็นถังเฉาที่ใบหน้าไม่มีอารมณ์เดินเข้ามา เสียงพูดก็ชะงักไปทันที แล้วก็กรีดร้องด้วยความตกใจกลัว
เสียงตะโกนนี้ ทำให้คนตกใจกันทั้งบ้าน
“เป็นอะไรไป”
“เกิดอะไรขึ้น”
“……”
แต่ว่า พอเห็นถังเฉา ทุกคนก็ต่างพากันหุบปากไปอย่างสิ้นเชิง มองดูเขาอย่างไม่แน่ใจ
“ตัวปัญหานี่ไม่ได้ตายไปแล้วหรอ ทำไมถึงยังกลับมา……”
“สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ เขาเป็นคนทำ”
“เขาคิดจะทำอะไร”
ฟังเสียงวิจารณ์แล้ว ถังเฉาก็หยุดเดิน ท่าทางอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย แล้วก็พูดขอร้อง “ผู้ใหญ่ทุกท่านครับ เรื่องการกระทำเมื่อกี้เดี๋ยวผมมาอธิบายนะครับ ให้ผมได้เข้าไปหาพ่อก่อนนะครับ”
“หยุด”
ถังเฉากำลังจะเดินผ่านผู้ใหญ่พวกนี้ แต่กลับโดนเสียงตะโกนหยุดไว้ก่อน
ถังเฉาหันกลับไป เห็นแม่ของหลินฉ่ายเวย โจวเหม่ยหยูนชี้มาที่ปลายจมูกของเขาแล้วด่าว่า “ไอ้ตัวปัญหา ยังมีหน้ากลับมาอีกไรอ ยังทำร้ายบ้านหลินเรายังไม่พอรึไง”
“แม่ครับ เรื่องมันไม่ได้เป็นเหมือนที่แม่คิด……”
“หุบปาก”
โจวเหม่ยหยูนพูดขัดถังเฉาอย่างไร้เยื่อใย มองเห็นการ์ดของบ้านซ่งสองคนที่น็อกไปอยู่หน้าประตูแล้ว ก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ยิ่งโมโห “แกยังกล้าทำร้ายคนด้วยหรอ”
“ฉันดูแล้ว ใจจริงมันอยากจะฆ่าพวกเราแน่นอน”
คุณอาเล็กโจวเหม่ยหลิงก็ชี้ถังเฉา พูดแปลกๆว่า “กลับมาทำไมตอนนี้ กลับมาตอนที่พี่ใหญ่ใกล้จะตาย จิตใจทำด้วยอะไร”
“ฉันดูแล้ว ที่พี่ใหญ่ล้มป่วยไปก็เป็นเพราะเขา ไม่แน่เขาอาจจะเป็นคนทำ……”
จู่ๆอาใหญ่โจวซูหัวพูดขึ้น “มันกะเวลาซะขนาดนั้น แสดงว่ามันกลับมาตั้งนานแล้ว แล้วก็ยังคอยสอดส่องอยู่ใกล้บ้านเราด้วย”
“แจ้งตำรวจ รีบแจ้งตำรวจมาจับมันเร็ว”
“……”
ทันใดนั้น ถังเฉาก็กลายเป็นเป้าหมายที่โดนวิพากษ์วิจารณ์ ทุกคนในบ้านหลิน ต่างพากันเอานิ้วชี้มาที่ถังเฉา
ที่สำคัญคือถังเฉามาได้เหมาะเจาะมาก หลินเจิ้นสงเพิ่งจะหมดสติไป อาการอยู่ในขีดอันตราย จากนั้นถังเฉาก็มา จะไม่ให้คนสงสัยคงยาก
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ถังเฉาไม่ได้ตอบโต้ ยังคงรักษาความเงียบเหมือนเดิม
ดูฉากตอนนี้แล้ว เจิ้งฮ่าวที่สีหน้าขาวซีดในตอนแรกนั้นค่อยๆกลับมาเป็นปกติ หัวเราะเยาะด้วยความแค้น “ดูแล้วเหมือนคุณอาจะเลี้ยงหมาลอบกัดไว้นะครับ……”
พอพูดถึงเรื่องนี้แล้ว สีหน้าของหลินฉ่ายเวยก็กลายเป็นน่าเกลียด มองดูถังเฉาอย่างเคียดแค้น “ฉันก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้”
“แม่ครับ ฉ่ายเวย แล้งก็ผู้ใหญ่ทุกท่าน”
ในตอนนี้ ถังเฉาที่ไม่พูดอยู่นายก็พูดขึ้นแล้ว
สายตาของเขามองไปที่ทุกคนด้วยความซื่อสัตย์ พูดเสียงต่ำว่า “ ผมรู้ว่า เมื่อห้าปีที่แล้วผมทำลายบ้านหลินจนโดนยึดไป ผมขอโทษบ้านหลิน เรื่องนี้ผมจะรับผิดชอบต่อทุกคน แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะมารับผิดชอบหน้าที่
“รับผิดชอบหรอ รับผิดชอบอะไร ยอมแพ้หรอ”
ในสายตาป้าของหลินฉ่ายเวยเต็มไปด้วยความรังเกียจ “ฉันจะบอกแกนะ ถึงนายจะตายไปอีกรอบ นายก็ชดใช้ความผิดไม่หมด”
“ใช่”
คุณน้าของหลินฉ่ายเวยเห็นด้วย “จะวพูดอีก โรงพยาบาลก็บอกแล้ว พี่ชายอยู่ไม่พ้นวันนี้ นายจะเอาอะไรมารักษา”
“คุณน้า คุณป้าคะ พูดน้อยหน่อยค่ะ แม่ฉันยังอยู่นี่”
พอนึกถึงพ่อของตัวเองที่ไม่ไหวแล้ว หลินฉ่ายเวยก็เริ่มรู้สึกคัดจมูก มองไปทางถังเฉาด้วยสายตาเคียดแค้น
เพราะเขา ทำให้พ่อต้องตาย
ถ้าไม่ใช่เพราะการหลบหนีงานแต่งเมื่อห้าปีที่แล้ว บ้านซ่งก็คงไม่โมโหจนฮุบบ้านหลินไป พ่อก็ไม่ต้องเป็นโรคหัวใจกำเริบอีก
“ไอ้ตัวปัญหาฉันจะฆ่าแก”
จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงกรีดร้อง โจวเหม่ยหยูนเสียสติไป คว้าไปหยิบมีดปอกผลไม้บนโต๊ะแลกาแฟ จี้มาทางถังเฉา
“แม่ หยุดค่ะ”
“คุณแม่ ทำแบบนี้ ไม่คุ้มกับคนแบบนี้นะครับ”
ทำเอาตกใจจนหลินฉ่ายเวยและเจิ้งฮ่าวรีบพากันห้ามโจวเหม่ยหยูน
โจวเหม่ยหยูนมือหนึ่งถือมีด ตวัดมือไปทางถังเฉา อีกด้านนึงก็คลุ้มคลั่ง ตะโกนร้อง “คนอย่างแกจะต้องไม่ตายดี เมื่อก่อนเจิ้นสงดีกับแกยังไง ดูแลแกเหมือนลูกชายแท้ๆ ฉันบอกแล้วว่าแกนามสกุลถัง ไม่ได้นามสกุลหลิน บอกเขาว่าไม่ต้องทำดีกับแก แต่เขาไม่ฟัง ตอนนี้เวรกรรมมาแล้ว!”
“แม่คะ ไม่ต้องพูดแล้วค่ะ…..”
หรือไปกระตุ้นความทรงจำเมื่อก่อนของหลินฉ่ายเวย ขอบตาของหลินฉ่ายเวยก็แดงขึ้น
ความทรงจำลึกแค่ไหน ความเกลียดก็ลึกแค่นั้น
ในตอนนี้ คนทั้งบ้านหลินต่างเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
“แม่”
ถังเฉามองดูโจวเหม่ยหยูนด้วยหน้าตาสงบ พูดเบาๆว่า “ชีวิตของผม พ่อเป็นคนช่วยเอาไว้ เพราะงั้น ให้ผมได้ไปดูพ่อสักครั้ง เผื่อจะมีทางรอดได้ครับ”
“แก……”
โจวเหม่ยหยูนยังอยากจะพูดอะไรต่อ แต่โดนเจิ้งฮ่าวห้ามไว้ก่อน”
“คุณป้า ในเมื่อเขากลับมาแล้ว ถ้างั้นก็ให้เขารับผิดชอบเรื่องที่เขาทำในตอนนั้นสิครับ”
จากนั้น เจิ้งฮ่าวก็มองไปที่ถังเฉา “แกไปดูคุณอาได้ แต่ นายต้องยอมรับความผิดทั้งหมด”
“รับโทษหรอ” แววตาของถังเฉาหมองไป
“ไม่แย่”
เจิ้งฮ่าวไม่ได้บอกว่าให้รับโทษยังไง เพียงแค่พูดท้าว่า “แกกล้าไหม”
“……”
ถังเฉาเงียบไป
เขารู้เป้าหมายของเจิ้งฮ่าว ถ้าพ่อดีขึ้น แน่นอนว่าต้องดีใจ แต่ถ้าพ่อตายไป ตัวเองก็ต้องตกเป็นแพะรับบาป
แต่ว่า เขาต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ครับ”ถังเฉาตอบรับ
เห็นถังเฉารับปากแล้ว แววตาของ เจิ้งฮ่าวตะลึงไปทันที ไม่นาน เขาก็ปรบมือ “ได้ ลูกผู้ชายเก่งกล้ามากนัก เข้ามาสิ”
จากนั้น ถังเฉาก็ก้าวเท้ายาวเดินเข้ามา
ครั้งนี้ ไม่มีใครห้ามไว้
โจวเหม่ยหยูนหน้าตาร้อนรน “เสี่ยวฮ่าวนี่นาย”
เจิ้งฮ่าวส่งสายตาเอาใจโจวเหม่ยหยูนแล้วพูดว่า“คุณป้า ท่านยังไม่วางใจในการทำงานของผมอีกหรอครับ ให้เป็นหน้าที่ผมเถอะครับ”
เอาใจโจวเหม่ยหยูนแล้ว เจิ้งฮ่าวก็เดินไปที่ที่ไม่มีคน โทรไปหาอีกเบอร์หนึ่ง
“ใครกัน”
ในสายมีเสียงผู้ชายหอบส่งมา แล้วก็ยังมีเสียงของผู้หญิงร้องเจ็บปวดแทรกมาด้วย
“คุณชายซ่งที่ท่านให้ทำ ฉันทำเรียบร้อยแล้วค่ะ อีกทาง ยังมีเรื่องน่ายินดีด้วย ท่านจะต้องอยากฟังแน่ๆ” เจิ้งฮ่าวพูดประจบเอาใจ
เสียงร้องของหญิงสาวปลายสายดังยิ่งกว่า เสียงของผู้ชายก็ฟังออกว่าทนไม่ไหว “มีเรื่องอะไร รีบพูดมา”
“ถังเฉากลับมาแล้ว จะให้เรียกคนมาไหมครับ……”
ในแววตาของเจิ้งฮ่าวมีความเยือกเย็นอยู่ ทำท่าทางเฉือนคอไปหนึ่งที