ในจุดนี้ หลินชิงเสว่กลับไม่ได้อยู่ในห้องทำงานลูกสาวเชื่อฟังมาก ไม่ได้ร้องไห้โวยวาย
สอง พ่อลูกสบตากัน ไม่ได้พูดคุยกันสักนิด บรรยากาศประหม่าอย่างบอกไม่ถูก
เด็กน้อยรู้สึกเบื่อ ก็หยิบตุ๊กตาขึ้นมา แล้วเล่นคนเอง
ถังเฉาจ้องมองลูกสาวเล่นอย่างมึนงง ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงลูกยังไง แกล้งยังไงให้เด็กความสุข เขาไม่เคยประสบการณ์อะไรเลยสักนิด
จากนั้นเขาก็เริ่มทำลายความประหม่าออกไป เผยรอยยิ้มออกมา ถามว่า “ไหน บอกพ่อหน่อยสิ ว่าหนูชื่ออะไร”
เด็กน้อยเงยหน้าขึ้น ตาโตสดใสเต็มไปด้วยความสับสน
“พ่อไม่รู้จักชื่อของเสี่ยวลี้หรอคะ”
เธอเอียงหัว ถามด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“……”
ถังเฉาร้อนรนไปสักพัก
หรือว่า ตัวเองไม่รู้ชื่อลูกสาวแบบนี้ จะทำให้ลูกสาวเสียใจ
แต่ถึงอย่างงั้น ความคิดของผู้ใหญ่ก็ไม่เหมือนกับเด็ก
หนูน้อยใช้มือและเท้าเกาะขึ้นไปที่ขาของเขา อ้าแขนทั้งสองออก หัวเราะแล้วพูดว่า “พ่อ อุ้ม”
ถังเฉามองหนูน้อยด้วยความอึ้ง ตัวสั่น
ในตอนนี้ ถังเฉาพังทลายไปแล้ว
เขาก็อยากอุ้มลูกสาวตัวเองเหมือนกัน แต่ก็กลัวจะเผลอตัว แล้วทำให้ลูกเจ็บ ทำได้แค่ทำมือทั้งสองให้แข็งแล้วแบกหนูน้อยขึ้น
หนูน้อยกลับโอบไปที่คอของถังเฉา จุ๊บไปที่แก้มเขาทีนึง แล้วก็หัวเราะไม่หยุด “หนูชื่อเสี่ยวลี้ พ่อจำได้รึยังคะ”
“เสี่ยวลี้ เสี่ยวลี้……”
ถังเฉาแอบท่องชื่อนี้ไม่หยุด ราวกับว่าจะฝังเอาไว้ในเบื้องลึกของใจ แล้วก็รีบพูดว่า “จำได้แล้วค่ะ”
“แล้ว นามสกุลล่ะ”ถังเฉาถาม
เขารู้สึกผิดหวัง ตัวเองไม่ได้กลับมาตั้งห้าปี นามสกุลของลูก น่าจะตามนามสภุลของแม่แหละ
จากนั้น เสี่ยวลี้กลับส่ายหน้า พูดว่า “ไม่ใช่นะคะ เสี่ยวลี้ไม่มีนามสกุล ก็ชื่อเสี่ยวลี้ ”
บูม
พอได้ยินคำนั้นแล้ว ถังเฉาก็เหมือนถูกฟ้าผ่ายังไงย่างงั้น สั่นไปทั้งตัว
ไม่มีนามสกุล……
มองดูเสี่ยวลี้อย่างเหม่อลอย หน้าของถังเฉาเต็มเลไปด้วยความรู้สึกโทษตัวเอง
เพราะไม่รู้ว่าตัวเองคืนพ่อแท้ๆหรอ
ถึงได้ไม่เติมนามสกุลให้ลูก เพราะมีความหวังว่า สักปีหนึ่งสักวันหนึ่ง พ่อของลูกจะกลับมา
“ชิงเสว่……”
ถังเฉารู้สึกเศร้า ห้าปีมานี้ เธอต้องอยู่อยากยากลำบากแน่ๆ
แค่แป้ปเดียว เขารู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นไอ้เลวคนนึง
ตอนนี้ มือทั้งสองของเสี่ยวลี้บีบที่แก้มของถังเฉา ทำปากจู๋ “เพื่อนๆคนอื่นในหมู่บ้านมีพ่อกันหมด มีแค่เสี่ยวลี้ที่ไม่มี ตอนนี้พ่อกลับมาแล้ว ต่อไปก็ห้ามไปจากเสี่ยวลี้แล้วโอเคไหมคะ
ทันใดนั้น ถังเฉาก็สั่นไปสักพัก รีบกอดเสี่ยวลี้ เหมือนการสาบาน แล้วก็พูดพึมพำว่า “ไม่ไปไหนแล้ว ต่อไปพ่อจะไม่ไปไหนแล้ว จะอยู่ข้างๆเสี่ยวลี้”
“จริงนะคะ”
เสี่ยวลี้ทำท่าเกี่ยวก้อยกับถังเฉา
“จริงๆ”
ถังเฉาพยักหน้าแรง “แล้วก็นามสกุลของเสี่ยวลี้ นามสกุลถัง ชื่อถังเสี่ยวลี้
“ถังเสี่ยวลี้……”
หนูน้อยอ่านหลายรอบ รู้สึกว่าเพราะดี ทันใดนั้นก็ยิ้มออกมา “ดีเลย เสี่ยวลี้มีนามสกุลแล้ว ชื่อถังเสี่ยวลี้”
มองเห็นท่าทางที่ดีใจของถังเสี่ยวลี้ ในใจถังเฉานั้นยิ้มออกมาเองเช่นกัน
บนไหล่ของเขาก็มีหน้าที่อันหนักหน่วงอย่างไม่รู้ตัว
เมื่อก่อน เขาทำเพื่อชาติ
ตอนนี้ ทำเพื่อครอบครัว ทำเพื่อภรรยา ทำเพื่อลูก
ปึง—-
ในตอนนี้นั้น จู่ๆประตูห้องทำงานก็เปิดออก มีผู้หญิงรูปร่างสูงเหมือนภูเขาน้ำแข็งเดินเข้ามา
เธอใส่รองเท้าส้นสูง รีบพุ่งมาที่ถังเฉา แล้วก็รีบแย่งถังเสี่ยวลี้มาจากอ้ออกของถังเฉา
ในดวงตาที่สวยงามนั้น เต็มไปด้วยไฟโกรธ “คุณเป็นใคร คิดจะทำอะไรลูกสาวฉัน”
ในพริบตาเดียว ความหนาวเย็นที่อยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์ตีเข้ามากระทบหน้าของเธอ
ถังเฉาจ้องมองผู้หญิงที่เหมือนภูเขาน้ำแข็งเหมือนแม่ไก่ที่เฝ้าไข่ของเธอ ช้า ๆ ท่าทางเปลี่ยนเป็นตกใจ
ห้าปีแล้ว เธอก็ยังเหมือนตอนนั้น
สวย เยา ทำให้คนหลงใหล
ริมฝีปากสีแดงอวบอิ่มแวววาว ดวงตาเย็นชาและสันจมูกสูงเมื่อรวมกันแล้วพวกเขาดูเหมือนงานศิลปะที่ดีที่สุดของพระเจ้า และสวยงามอย่างน่าอัศจรรย์
ชายหญิงปกติ เพียงแค่มองเห็น
“แม่”
ยังไม่ทันได้รอให้ถังเฉาได้พูด ถังเสี่ยวลี้รับกอดหลินชิงเสว่แน่น ดีใจจนแปะมือเล็กๆ “เสี่ยวลี้เจอพ่อแล้ว”
ขวับ
สีหน้าหลินชิงเสว่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน แววตามองถังเฉาอย่างตะลึง
ผ่านไปสักพักเธอถึงจะรู้สึกตัวขึ้น ฝืนยิ้มออกมาแล้วถามว่า “เสี่ยวลี้ ที่หนูเรียกว่าพ่อ……คือเขาหรอ”
“ใช่ค่ะพ่อบอกว่าจะไม่ไปจากหนูอีกพ่อยังบอกนามสกุลของเสี่ยวลี้ด้วย นามสกุลถัง ชื่อถังเสี่ยวลี้……” ถังเสี่ยวลี้พูดอวด
ถังเสี่ยวลี้ยิ่งพูด ตัวของหลินชิงเสว่ก็ยิ่งสั่นแรง อกโยกขึ้นโยกลง
เธอพยายามให้ตัวเองสงบลง ก้มตัวลง ลูบไปที่ผมของถังเสี่ยวลี้ ฝืนยิ้มออกมา พูดว่า “เสี่ยวลี้ ไปเล่นที่ห้องของเล่นดีไหมเอ่ย พ่อกับแม่จะคุยธุระกันหน่อย”
“ค่ะ”
หนูน้อยตอบอย่างเชื่อฟัง จากนั้นก็กระโดดวิ่งไปที่ห้องของเล่น
พอถังเสี่ยวลี้ไปแล้ว ในห้องทำงานก็เหลือถังเฉากับหลินชิงเสว่สองคน
บรรยากาศลดลงถึงจุดเยือกแข็งในทันทีและดาบก็ถูกดึงออกมา
“บอกมานะ ว่าคุณคือใคร มีเป้าหมายอะไรถึงเข้าใกล้ลูกสาวฉัน
น้ำเสียงของหลินชิงเสว่ถ่ามอย่างเฉยชา แต่ท่าทางเหมือนจะทำให้ถังเฉาหนาวจนเคลื่อนไหวไม่ได้
พอได้ยินแล้ว ถังเฉาก็อึ้งไป
ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปชั่วขณะและเขาก็ถอนหายใจยาว ๆ ด้วยความโล่งอก
ตัวเองหายตัวไปตั้งห้าปี จู่ๆกลับมาตอนนี้ หลินชิงเสว่จะเข้าใจผิดก็คงไม่แปลก
เวลาจะพิสูจน์ทุกสิ่ง
แววตาของเขามองหลินชิงเสว่อย่างอ่อนโยน พูดอย่างสงบว่า “ผมคือถังเฉา แล้วก็เป็นพ่อของเสี่ยวลี้
ไม่คิดว่าถังเฉาเพิ่งพูดจบ ในแววตาของหลินชิงเสว่นั้นมีความหัวเราะเยอะอยู่
เธอรินน้ำชา ชิมดูอย่างสง่างาม จากนั้นก็มองดูถังเฉาอย่างไร้อารมณ์ พูดว่า “รู้ไหมว่าคุณไม่ใช่คนแรกที่พูดแบบนี้
“หมายความว่ายังไง”
แววตาถังเฉามีความอยากเป็นฆาตรกรอย่างเต็มเปี่ยม
หรือว่า นอกจากตัวเองแล้ว ยังมีคนอื่นที่ใกล้ชิดกับหลินชิงเสว่สองแม่ลูกอีกหรอ
“พวกคุณแอบอ้างเป็นพ่อของลูกสาวฉัน ก็ไม่ใช่เพื่อเงินหรอ ฉันจะบอกคุณ ว่าเป็นไปไม่ได้”
ในส่วนลึกแววตาของหลินชิงเสว่ ความบ้าคลั่งที่สั่นสะท้านปรากฏขึ้น: “ไม่มีใครในโลกนี้สามารถทำร้าย เสี่ยวลี้ ได้”
ถังเฉายังคงเงียบ แต่ยังไงแววตาก็ยังเย็นชาอยู่ดี
สุดท้ายแล้วก็ยังโทษเขา
ถ้าไม่ได้หายตัวไปห้าปี จะถึงไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อได้ยังไง
นี่ถึงจะเป็นการให้โอกาสกับบางคนที่ทุ่มเททุ่มใจ
“คุณไม่ใช่พ่อของเสี่ยวลี้ อยู่ห่างจากเธอหน่อย” แววตาของหลินชิงเสว่เย็นชาสุดๆ
ถังเฉาส่ายหน้า พูดว่า “ชิงเสว่ ถ้าคุณไม่เชื่อ ตรวจดีเอ็นเอก็ได้นะ”
“ผม เป็นพ่อของเธอจริงๆ แล้วก็เป็นสามีของคุณที่หายตัวไปเมื่อห้าปีก่อนด้วย”
“คุณหุบปาก!”
หลินชิงเสว่ ตัวสั่นเมื่อเธอได้ยินคำว่า ‘ตรวจดีเอ็นเอ’
จากนั้นเขาก็ตบโต๊ะแรง ๆราวกับว่าเขากำลังหงุดหงิดมากและดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังและความอัปยศอดสู
“ฉันไม่มีสามี เมื่อห้าปีก่อน เขาได้ตายไปแล้ว”
“ออกไป นายออกไปสิ”
มองดูหลินชิงเสว่ลุกลี้ลุกลน ขอบตาแดง ยังคงกัดฟันสู้ต่อ ใจของถังเฉานั้นเหมือนกงจักร
เขาเงียบอยู่นาน สุดท้ายก็สูดหายใจ
ห้าปีแห่งความรักและความเกลียดชัง ไม่สามารถแก้ไขได้ในเวลาสั้นๆ
“ผมจะมาหาคุณอีก ตลอดจนกว่าคุณจะยอมรับผม”
แววตาของถังเฉาพูดกับหลินชิงเสว่อย่างซื่อสัตย์
หลินชิงเสว่ตัวสั่น หันหลังไป ไม่เห็นลืมตาขึ้น
บางทีลึก ๆ แล้วเธอยอมรับแล้ว แต่เธอก็ไม่สามารถทนต่อสิ่งกระตุ้นได้ก็แค่นั้น
เธอไม่ใช่คนโง่และลูกสาวของเธอขี้อาย แต่เธอใกล้ชิดกับถังเฉาที่พบกันครั้งแรก หลินชิงเสว่ไม่เชื่อถ้าเธอไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดอยู่ด้วย
อย่างไรก็ตามเมื่อถังเฉากำลังจะออกไป ประตูห้องของเล่นก็เปิดออกพร้อมกับเสียงโครมคราม
ถังเสี่ยวลี่รีบวิ่งออกไปโดยไม่สนอะไร และกอดกางเกงของถังเฉาไว้แน่น ร้องไห้เหมือนสายฝน
“ พ่ออย่าไป พ่ออย่าไป … ”
“ แม่อย่าไล่พ่อไป!”
เสียงเหมือนนกกาเหว่าร้องไห้เป็นเลือดคนที่ได้ยินก็เสียใจและคนที่ได้ยินก็ร้องไห้