บทที่ 34 ท่านบ้าบู๊
เหมือนเวลาได้หยุดลงในวินาทีนี้ ทุกคนที่ไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น
หมิงจูอิทธิพลใต้ดินหัวหน้าแก๊งค์เทียนหลง เย่เทียนหลงได้คุกเข่าต่อหน้าถังเฉา และเอาหัวโขกที่พื้นอย่างแรง
ด้วยความที่โขกแรงทำให้หน้าผากของเขาช้ำเลือดไปหมดแล้ว
และหลังจากที่เอาหัวโขกไปแล้ว เย่เทียนหลงก็ยังไม่กล้าที่จะลุกขึ้น ยังก้มหัวอยู่แบบนั้น
ถ้าถังเฉาไม่เรียกให้ลุกขึ้น เขาก็จะไม่ลุกขึ้น
ครูและพ่อหวางเสี่ยวเป่าตะลึกกับสิ่งที่เกิดขึ้น และทำอะไรไม่ถูก
พวกเขาพึ่งเข้าใจว่าความรู้ที่ตัวเองมีมันน้อยนิดเหลือเกิน
เย่เทียนหลงเป็นคนที่คนหมิงจูยอมรับว่าเป็นคนที่มีฝีมือการต่อสู้ ขณะเดียวกันก็เป็นสมาชิกขององค์กรศิลปะการต่อสู้กลับพ่ายแพ้
ยังเป็นการแพ้ที่ยังไม่ได้ทำให้คู่ต่อสู้บาดเจ็บได้เลย
ทุกคนที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว รู้ว่าเย่เทียนหลงสู้ถังเฉาไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้ว
ความแตกต่างระหว่างสองคนนี้เป็นความแต่งต่างระหว่างฟ้ากับเหว
“ลุกขึ้นมาได้แล้ว”
เย่เทียนหลงที่คุกเข่าเอาหัวโขกกับพื้น ถังเฉาไม่ได้รู้สึกตกใจกับสิ่งนี้:” ฉันไม่ใช่ท่านอาจารย์ของนายหรอก นายจำคนผิดแล้ว”
“ไม่ ฉันจำไม่ผิด!”
เย่เทียนหลงยังไม่ได้ลุกขึ้น เงยหน้าขึ้นมา แววตาที่ร้อนรนมองไปที่ถังเฉา:” ฉันรู้สึกได้นายเข้าใจถึงแก่นแท้ของวิชาหมัดฟ้าแลบท่านเป็นท่านบ้าบู๊ใช่หรือไม่?”
ฟ้าดินนี้คนที่เป็นวิชานี้มีไม่กี่คน และคนที่เรียนรู้และเข้าถึงแก่นแท้ของวิชายิ่งหาได้ยาก มีแค่บ้าบู๊อู่ตงหยางเท่านั้นถึงมีฝีมือขนาดนี้
ท่านบ้าบู๊?
ครูหลินและพ่อหวางเสี่ยวเป่างงกับสิ่งที่เกิดขึ้น คนอย่างพวกเขา ไม่สามารถเข้าถึงตัวของคนระดับหัวเซี่ยชีชือได้อย่างแน่นอน
“คนบ้าบู๊?”
ถังเฉามองเย่เทียนหลงด้วยแววตาที่สงสัย ไม่คิดเลยว่าเขารู้เกี่ยวกับคนบ้าบู๊ด้วย
แต่ถังเฉาก็ยังส่ายหัวเหมือนเดิม:” ฉันไม่ใช่คนบ้าบู๊อะไรหรอก ฉันเป็นแค่พ่อของเด็กคนหนึ่ง”
“ใช่แล้ว พี่เทียนหลง นายคนนี้ก็แค่มีวิชาที่แก่กล้าแค่นั้นเอง เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นคนบ้าบู๊…..”
ตอนนี้ พ่อของหวางเสี่ยวเป่าได้สติแล้ว และรีบตรงไปหาเย่เทียนหลง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าคนบ้าบู๊คือใคร แต่เห็นเย่เทียนหลงให้ความนับถือเขาแบบนี้ ต้องเป็นคนที่มีฝีมืออย่างแน่นอน
คนที่คนอย่างเย่เทียนหลงต้องนับถือ จะปรากฏตัวอยู่ที่นี้ได้อย่างไร?
“นายหุบปากไปเลย!”
พี่เทียนหลงระเบิดอารมณ์ออกมา ถีบไปที่พ่อของหวางเสี่ยวเป่า:” ที่นี้ไม่มีพื้นที่ให้นายพูด!”
ปั้ง!
พ่อหวางเสี่ยวเป่าโดนถีบออกไปไกล เขาหมอบและไม่กล้าที่จะด่ากลับไป
หวางเสี่ยวเป่าเห็นพ่อตัวเองที่ถูกคนที่ตัวเขาเรียกมากระทืบ หวางเสี่ยวเป่าได้ร้องไห้ออกมาเสียงดัง
“นายรู้จักเขา?”
ถังเฉาถามเย่เทียนหลงด้วยสายตาที่นิ่งเฉย
“รู้จัก”
ตอนนี้ท่าทีของเย่เทียนหลงที่มีต่อถังเฉาได้เปลี่ยนและตอบอย่างเคารพนับถือว่า:แต่ไม่ค่อยสนิทครับ”
“นายทำแบบนี้ไม่เพียบแค่ครั้งสองครั้งใช่มั้ย?” ถังเฉาได้ถามอีกคำถามหนึ่ง
ถ้าวันนี้เป็นครอบครัวธรรมดา ที่ไม่มีถังเฉาละ
ถ้าเป็นอย่างนั้น ครอบครัวเขาไม่แตกสลายเลยหรือ?
อาจจะเป็นเพราะสาเหตุนี้ ที่ทำให้ถังเฉาเกลียดคนประเภทนี้มาก
ตัวของเย่เทียนหลงได้สั่นสะท้าน และรีบอธิบายว่า:” ไม่ใช่อย่างนั้นครับ แค่ตระกูลหวางไม่เหมาะสมที่ฉันจะไปมาหาสู่ด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลหวางสนิทกับตระกูลซ่งละก็ ผมไม่จะเลี้ยวสายตาไปมองคนตระกูลหวางเลย
หลังจากเย่เทียนหลงที่พูดประโยคนี้ออกมา ถังเฉาหรี่ตา:” นายออกไปรอฉันข้างนอกเดียวฉันมีเรื่องจะถามนาย”
“ได้ครับ”
เย่เทียนหลงที่ตอบรับแต่ปาก ในใจกลับรู้สึกไม่สบายใจเลย
น้ำเสียงของถังเฉาเหมือนพูดกับจำเลยอย่างใดอย่างนั้น
แต่เย่เทียนหลงก็ไม่กล้าถาม และรีบพาคนของตัวเองออกจากโรงเรียนอนุบาลไป คนใส่สูทที่ดูน่าเกรงขามเหล่านี้ ได้ออกไปจากโรงเรียนเหมือนกับเด็กประถมที่ทำผิดแล้วกลัวความผิด ทำให้คนรู้สึกตลก แต่ก็ขำไม่ออก
นี้เป็นผลที่ใครก็คาดไม่ถึง ถังเฉามองไปที่พ่อหวางเสี่ยวเป่า
เพียงแค่ถังเฉามองไป เขาก็กลัวจนต้องถอยไปหลายก้าว:” นายเป็นใครกันแน่? นายต้องการอะไร?”
“ฉันไม่ต้องการอะไร”
ถังเฉาพาถังเสี่ยวลี้เดินไปตรงหน้าของพอหวางเป่าและพูดว่า:” ก็คือคำแนะนำที่ฉันเคยพูดไป นายคิดว่าดีมั้ย?”
พ่อของหวางเสี่ยวเป่ารู้ว่าถังเฉาหมายถึงเรื่องเรียน
พ่อของหวางเสี่ยวรีบพยักหน้า:” ย้าย ย้ายครับ ผมจะให้ลูกของผมย้ายโรงเรียนพรุ่งนี้เลย!”
ครูหลินและผอ.โรงเรียนอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น จะย้ายโรงเรียนจริงๆหรือ?
ตอนนี้คุณหลวงได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว
พึ่งลืมตาก็เห็นถังเฉากำลังกอดถังเสี่ยวลี้อยู่ และด่าพวกเขาทันที:” นายกล้าทำร้ายสามีฉันหรือ ฉันจะบอกอะไรให้ พวกนายตายแน่ นายรู้ใช่มั้ยว่าถ้าทำร้ายพวกเราจะเกิดอะไรขึ้นกับนาย?”
“หยุดพูดได้แล้ว……” พ่อของหวางเสี่ยวเป่าที่อยู่ข้างๆ ตกใจจนหน้าซีดและเสียงสั่นไปหมดแล้ว
“หยุดพูดอะไรล่ะ นายเป็นผู้ชายแข็งแรงหน่อยสิ”
“คุณผู้หญิงคนนี้ก็ยังไม่หยุดด่า”
“หยุดพูดเถอะ!”
พ่อของหวางเสี่ยวเป่าตะโกนออกมา และตบไปที่หน้าของคุณผู้หญิงคนนี้
“……”
สถานการณ์ตอนนี้เงียบสงัด
แม่หวางเสี่ยวเป่ากุมไปที่แก้มของตัวเอง มองสามีของตัวเองด้วยความงง ต่อมานางพูดอย่างติดขัดว่า:” นายตบฉัน นายกล้าตบฉัน”
“พ่อของหวางเสี่ยวเป่ามองนางด้วยสายตาที่เย็นช้า และไม่ได้สนใจอะไรนาง ทำความเคารพถังเฉาแล้ว:” ขอโทษด้วยนะครับ……พวกเราจะรีบออกไปเดี๋ยวนี้เลย……”
พูดจบก็ได้พาครอบครัวหนีออกไปจากโรงเรียน
เห็นพวกเขาที่ออกไปแล้ว สายตาของถังเฉาไปอยู่ที่ครูหลินและผอ.
สายตาของถังเฉาทำให้ทั้งครูหลินและผอ.โรงเรียนตื่นตระหนก
เรื่องของถังเสี่ยวลี้ พวกเขาน่าจะรู้ว่าหวางเสี่ยวเป่าเป็นคนผิด แต่เป็นเพราะตระกูลหวาง พวกเขาถึงต้องเข้าข้างหวางเสี่ยวเป่า
ถ้านับแบบนี้ พวกเขาจะเป็นผู้ที่สมรู้ร่วมคิด
คุณทั้งสองคนเคยได้ยินประโยคนี้มั้ย
ถังเฉาก็ได้พูดว่า” ครู เป็นผู้ที่ให้ความรู้ช่วยแก้ปัญหา”
“……”
ครูหลินและผอ.โรงเรียนที่กำลังจะเอ่ยปากพูด,แต่เสียงโทรศัพท์ได้แทรกเข้ามา
เป็นคนที่ไม่รู้จักโทรเข้ามา
ไม่รู้เพราะเหตุใด ครูหลินและผอ.เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ก็รู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก
“ฮาโหล คุณคือ…..?” ผอ.ถามไปด้วยความสงสัย
ยังไม่ทันพูดจบ เสียงตามสายโทรศัพท์ที่เย็นเยียบได้ลอยมา
“นี้คือสำนักงานศึกษาธิการ เราได้รับการร้องเรียนหนึ่งเรื่อง…..”
หลังจากประโยคถังเฉาก็ไม่ได้สนใจแล้วว่าพวกเขาคุยอะไรกัน และพาถังเสี่ยวลี้ออกไปจากที่ตรงนี้
แต่เรื่องที่ไม่ผิดคาดก็คือผอโรงเรียนคงต้องเปลี่ยนคนแล้วสินะ
“ท่านบ้าบู๊ ท่านมีอะไรจะสั่งมั้ยครับ?”
ถังเฉาที่พาถังเสี่ยวลี้ออกมา และมีเสียงพูดที่สุภาพและระมัดระวังลอยมา
เป็นเสียงพูดของเย่เทียนหลงที่ยื่นรออยู่หน้าประตู พร้อมกับลูกน้องของเขา
“ฉันจะพูดอีกครั้ง ฉันไม่ใช่บ้าบู๊”
ถังเฉาพูดด้วยเสียงที่เย็นเยื่อ ทำให้เย่เทียนหลงไม่กล้าที่จะพูดอะไรต่อ
ถังเฉามองไปที่เย่เทียนหลงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แล้วบอกกับถังเสี่ยวลี้ว่า:” เสี่ยวลี้ไปเล่นกระดานลื่นตรงนู้นก่อนได้มั้ย?”
“ได้ค่ะ”
ถังเสี่ยวลี้ได้ไปเดินไปทางกระดานลื่นและเล่นอยู่คนเดียว
ตอนนี้เหลือแต่ถังเฉาและเย่เทียนหลง ถังเฉาถามเย่เทียนหลงว่า:” ได้ข่าวว่า นายร่วมมือกับตระกูลซ่งด้วยใช่มั้ย?”
“มีการค้าขายกันบ้างครับ” เย่เทียนหลงก็ตอบตามความจริง
“เมื่อห้าปีก่อน ตระกูลซ่งได้ให้นายไป…..”
“ลักพาตัวผู้บริหารหมายเลขหนึ่งของหมิงจูหลินชิงเสว่มั้ย?” น้ำเสียงของถังเฉาเปลี่ยนไป