บทที่28 ไป๋เสว่
คำพูดของหลี่ถาวนั้น ทำให้โจวเหม่ยหยูนนั้นตกตะลึงไปเลยทีเดียว
“เลขาหลี่ นี่คุณหมายความว่ายังไง?”
เธอมองดูสีหน้าของหลี่ถาวที่เปลี่ยนไปอย่างมาก “พวกเรามาหาประธานหลิน ก็เพราะว่ามีเรื่องเร่งด่วน ถ้ามัวแต่โอ้เอ้แบบนี้ หล่อนจะรับผิดชอบไหวมั๊ย”
เพิ่งจะพูดไปได้ไม่กี่ประโยค โจวเหม่ยหยูนก็ต้องเสียใจเสียแล้ว
ถึงแม้หลี่ถาวจะเป็นเลขาของหลินชิงเสว่ แต่ถ้าเป็นเรื่องของตำแหน่งล่ะก็ไม่ได้ต่างจากหัวหน้าฝ่ายน้ำมันเลย เธอเก่งกาจมากเลยทีเดียว แม้แต่คนตำแหน่งสูงๆก็แย่งชิงกันเอาใจเธอ
“หืม”
แน่นอนว่าหลี่ถาวหรี่ตาลงมามองและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า:“เธอพูดว่าอะไรนะ”
ความรู้สึกกดขี่นี้ก็กระทบเข้ามา หลังจากติดตามหลินชิงเสว่มานาน ขนาดเลขาก็พลอยดูมีความน่าเกรงขามไปด้วย
“เลขาหลี่ พวกเราไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะคะ—-”
โจวเหม่ยหยูนรีบขอโทษอย่างรวดเร็ว
“เลขาหลี่ ฉันขอโทษสำหรับสิ่งที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้นะ แต่ว่าพวกเราพบช่องทางสำหรับดาราที่ยินดีจะทำโฆษณาให้แล้ว จำเป็นต้องคุยกับประธานหลินว่าจะให้ใครเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้”
อย่างไรก็ตาม หลี่ถาวก็ยังคงมีท่าทีที่ไม่สนใจแต่อย่างใดแถมยังหัวเราะเยาะ“มีอะไรพรุ่งนี้ค่อยมาคุย ก็แค่เรื่องยุ่งเล็กๆของคุณ คุ้มค่าไหมที่ประธานหลินจะต้องมาเสียเวลาให้ในคืนวันแต่งงาน”
“ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ให้ไปคิดเรื่องจะทำยังไงให้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณถังเถอะ”
หลี่ถาวเดาออกถึงความคิดของหลินฉ่ายเวยและแม่ของเธอและยังคงพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“ถ้าจะให้พูดแบบไม่เกรงใจเลยก็คือ พวกเราค่อนข้างพอใจกับคุณชายถัง มิใช่ตระกูลหลิน หากไม่มีคุณชายถัง เธอคิดว่าการประมูลราคาที่ดีแบบนี้ จะตกมาถึงตระกูลหลินของพวกเธองั้นเหรอ”
“……”
คำพูดของหลี่ถามนั้น เหมือนกับการใช้เท้าเหยียบย่ำบนใบหน้าของพวกหล่อน ทำให้พวกหล่อนนั้นย่ำยีความนับถือในตัวเองไปเลย
“คนที่จะมารับผิดชอบน่ะ พวกเธอไม่ต้องไปคิดหรอก แน่นอนว่ามันต้องเป็นคุณชายถังอยู่แล้ว หากมีการเปลี่ยนคน พวกเราลี่จิงก็คงจะตัดความสัมพันธ์พันธมิตรกับตระกูลหลินทันที!”
หลังจากพูดอย่างเด็ดขาดแล้ว หลี่ถาวก็เหยียบส้นสูงเดินจากไปทันที
ทิ้งให้หลินฉ่ายเวยและแม่ของเธอยืนนิ่งงันอยู่ตรงนั้น
“ถังเฉา ไอ้คนไร้ประโยชน์นี่อีกแล้ว!”
หลังจากได้สติแล้ว ใบหน้าของโจวเหม่ยหยูนก็เต็มไปด้วยความน่ากลัว ในชั่วขณะเธอหันมามองที่หลินฉ่ายเวยพร้อมกับพูดว่า “ฉ่ายเวย พรุ่งนี้ไปหาถังเฉาซะ ไม่ว่าจะต้องทำด้วยวิธีอะไร ก็ต้องให้มันคายตำแหน่งคนรับผิดชอบออกมาให้ได้”
“วางใจเถอะแม่ ถังเฉายังชอบฉันอยู่ เขาต้องให้ฉันแน่ๆ”
แม่และลูกก็พากันเดินลงออกมาจากเรือสำราญเพิร์ลวัน
……
“นี่คือครอบครัวของคุณงั้นเหรอ”
ห้องหรูหราบนเรือสำราญเพิร์ลวัน
หลินชิงเสว่มีสีหน้าท่าทางที่เย็นชามองไปทางถังเฉาแล้วพูดเสียงแข็งว่า “ไม่ต้องมีเหตุผลอะไรก็เข้าใจได้”
“ไม่ต้องเก็บเอามาใส่ใจหรอก”ถังเฉายิ้ม
เมื่อนึกถึงปฏิกิริยาก่อนหน้าของหลินชิงเสว่นั้น เขาก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจ “เธอไม่อยากให้ฉันโมโหใช่ไหมล่ะ
หลินชิงเสว่มีสีหน้าที่เริ่มตึงเครียด “ไม่ต้องคิดมากนะ ฉันก็แค่ไม่ชอบพวกเขาเฉยๆ”
“ฉันรู้หรอกน่า” ถังเฉายังคงยิ้มอ่อนๆ
“มันก็สายมากแล้ว ที่นี่ก็มีแค่เตียงกลมเตียงเดียว” หลินชิงเสว่พูดไล่แขกอย่างนุ่มนวล
ถังเฉาพยักหน้าพร้อมกับลุกขึ้นยืน
ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะแต่งงานกันแล้วก็ตาม แต่ตัวหลินชิงเสว่เองก็ยังไม่ยอมรับในตัวเขา ส่วนเขาเองก็ยังไม่มีคุณสิทธิ์ที่จะนอนห้องเดียวกันกับหลินชิงเสว่
เวลาจะให้คำตอบเอง
“หลับฝันดีนะ”
หลังจากถังเฉากล่าวราตรีสวัสดิ์กับหลินชิงเสว่แล้ว เขาก็ค่อยๆลุกขึ้นและจากไป
ทันใดนั้น หลินชิงเสว่ก็เรียกให้เขาหยุด
ถังเฉาหยุดเดินและหันหน้าไปมองด้วยสายตาที่แปลกใจ
“ฉันไม่สนิทกับซ่งเทียนซาน”
หลินชิงเสว่ยังคงหันหลังให้กับเขาและพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างอึดอัดว่า “นายไม่ต้องคิดมากล่ะ”
สังเกตเห็นได้ชัดว่าเป็นคนที่อธิบายไม่เก่ง แต่ก็มีท่าทางที่รู้สึกผิดอยู่เล็กน้อย
ถังเฉาตกใจ จากนั้นก็รู้สึกว่าดูน่าสนใจดี เขายิ้มและพยักหน้าพร้อมตอบไปว่า “ฉันรู้แล้ว”
“แล้วก็ พรุ่งนี้ตอนบ่ายฉันมีประชุม อาจจะประชุมจนดึกเลย นายไปรับเสี่ยวลี้ที่โรงเรียนอนุบาลให้หน่อยนะ”
หลินชิงเสว่กล่าวอีกครั้ง
ในครั้งนี้ น้ำเสียงที่พูดออกมาในขณะนั้นค่อนข้างทื่อ และดูเป็นคำสั่งที่เข้มงวด
ถังเฉาได้ยินเช่นนั้น จึงตอบกลับไป“ไม่มีปัญหา”
หลังจากที่รู้ว่าหลินชิงเสว่ได้ให้กำเนิดลูกสาวตัวน้อยที่ผิวขาวราวกับหยก ถังเฉาก็ตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้ตัวติดกับเสี่ยวลี้ในทุกๆวัน
หลังจากลงมาจากเรือสำราญเพิร์ลวัน ถังเฉานั้นอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก ใบหน้าที่จริงจังของเขานั้น ตอนนี้มีรอยยิ้มปรากฏอยู่
หูว……
ทันใดนั้น เฟิ่งหวงก็มาปรากฏด้านหลังของถังเฉาราวกับเป็นภูติผี “รองหัวหน้า”
ถังเฉาชินแล้วกับการปรากฏตัวไปมาแบบนี้ของเฟิ่งหวง หากเป็นผู้อื่นล่ะก็ คงตกใจกลัวกันไปนานแล้ว
“หืม”
ถังเฉาหุบยิ้มและหันไปพูดกับเฟิ่งหวงว่า “ลองไปตรวจสอบที่มาว่าพวกชุดดำที่ลักพาตัวหลินชิงเสว่เมื่อห้าปีก่อนนั้นมันเป็นใคร”
“ครับ”
เฟิ่งหวงไม่ได้ถามถึงเหตุผล ได้แต่ตอบรับกลับมา
เธอเป็นเหมือนดาบและเงาของรองหัวหน้า เพียงกำจัดศัตรูให้กับรองหัวหน้าแค่นี้ก็พอแล้ว
สิ่งอื่นไม่ได้อยู่ในขอบเขตความคิดของเธอ
ถังเฉาเดินต่อไปข้างหน้า มีเฟิ่งหวงคอยเดินตามอยู่เสมือนเงาตามตัว
จนเขาขึ้นไปบนรถโรลส์รอยซ์สีดำ เฟิ่งหวงไม่ได้สตาร์ทรถทันทีที่เธอขึ้นไป เธอได้แต่ไปนั่งที่คนขับด้านความเงียบ และมองขึ้นไปมองพระจันทร์บนท้องฟ้า
“รองหัวหน้า ความรักคืออะไร ทำไมถึงต้องมีความรักกันด้วยนะ”
เฟิ่งหวงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา ดวงตาที่เห็นการนองเลือดมามากมาย ในตอนนี้กลับเปลี่ยนไปดูว่างเปล่า
ดวงตาของถังเฉานั้นดูตะลึงเล็กน้อย จากนั้นเมื่อคิดถึงสิ่งที่เฟิ่งหวงนั้นเคยพบเจอ ดวงตาของเขาก็อ่อนลงทันที
สำหรับคนที่เคยชินกับการเห็นเลือดและการฆาตกรรมนั้น การฆ่าและการถูกฆ่าอาจจะเป็นลีลาที่งดงามที่สุดสำหรับพวกเขาก็ได้
การมีชีวิตอยู่นั้น ก็เป็นเพียงการเพ้อฝัน
ความรัก ก็คงเป็นสิ่งที่เอื้อมไม่ถึงหรอก
ความรักประกอบไปด้วยหลายสิ่ง เป็นเหมือนกับสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน มีการสนับสนุนกันและกัน คนสองคนใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายเสมือนกับสายน้ำ
“พวกเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปไม่ว่าจะเป็นหรือตาย มันเป็นคำสัญญาที่เราได้มอบให้กันไว้”
สิ่งนั้นเองก็ทำให้ดวงตาเฟิ่งหวงนั้นเต็มไปด้วยงงงวยที่มากขึ้น
“ฉันไม่มีคุณสมบัติพอที่จะไปพูดว่าความรักนั้นคืออะไรหรอกนะ แต่ว่าเฟิ่งหวง เธอจะต้องเข้าใจในเรื่องๆหนึ่งก่อนนะ เมื่อเธอยินยอมที่จะมอบทุกๆอย่างให้กับคนคนนึงโดยที่ไม่มีข้อแม้ แม้แต่ชีวิตของเธอเอง —นั่นแหละคือความรัก
“ยอมทำทุกอย่างเพื่อคนคนเดียวโดยที่ไม่มีข้อแม้…”
“แม้แต่ชีวิตตัวเอง….”
ความว่างเปล่าในสายตาของเฟิ่งหวงก็ค่อยๆสลายไป เปลี่ยนเป็นชัดเจนแจ่มแจ้ง ภาพที่อยู่ในหัวมานานก็ขยายใหญ่ขึ้น
“รองหัวหน้ากับคุณนายหลินก็เป็นความรักงั้นเหรอ?” เธอถาม
“ใช่ เป็นความรัก” ถังเฉาพยักหน้าพร้อมตอบกลับไปโดยไม่ลังเล
เฟิ่งหวงเข้าใจแล้วพยักหน้าตาม “งั้นรองหัวหน้ากับไป๋เสว่ล่ะ”
“……”
เมื่อเฟิ่งหวงพูด‘ไป๋เสว่’สองคำนี้ออกมา ใบหน้าของถังเฉาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
“เธอจะพูดถึงหล่อนขึ้นมาทำไม?” ถังเฉาถามด้วยความตำหนิ
“ขอโทษค่ะ รองหัวหน้า”
เฟิ่งหวงก้มหัวลงในทันทีและกล่าวอย่างระมัดระวังออกมาว่า“เมื่อกี้หลี่เถ่มาบอกดิฉันว่า เจียงไป๋เสว่ออกจากกองทัพปราณมังกรมาถึงที่หมิงจูเมื่อหนึ่งวันก่อน น่าจะมาหานายน้อย”
“อะไรนะ?!”
เมื่อได้ยินข่าวนี้ ตาดำของถังเฉาก็หดเล็กลง
เขาลุกขึ้นจากที่นั่งทันที “ไป๋เสว่มาหมิงจูงั้นเหรอ?!”
“ใช่แล้วค่ะ”
เฟิ่งหวงไม่กล้าปิดบังอีกต่อไป เลยพูดตามความเป็นจริงว่า “หลังจากรองหัวหน้าปลดประจำการ คุณหญิงเจียงก็เอาแต่นั่งอยู่หน้าหลุมศพของหลี่เห้าพี่ชายของเธอ มิได้ดื่มหรือทานอะไรเลย เป็นเวลาสามวันสามคืน”