บทที่ 44 ถูกผู้คนมากมายตำหนิ
หลังหลินฉ่ายเวยพูดคำนี้จบ ก็ได้วางสายไป
ถังเฉาจับโทรศัพท์ไว้คิดอยู่ตั้งนาน ดูเหมือนว่า เป็นเรื่องของตระกูลหวางไปถึงหูของผู้คนมากมายของตระกูลหลินแล้ว มาถามถึงความผิดที่ก่อไว้แล้ว
ใบหน้าไม่มีอาการตื่นตระหนกใดๆ ถังเฉากลับไปที่รถ กล่าวอย่างเย็นชามาคำหนึ่งว่า:“ไปบ้านตระกูลหลิน”
เฟิ่งหวงรีบเหยียบคันเร่ง รถโรลส์รอยซ์รีบมุ่งหน้าขับไปทางบ้านตระกูลหลินทันที เวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ก็ถึงหน้าบ้านของตระกูลหลิน
ถังเฉาให้เฟิ่งหวงรออยู่ที่ด้านนอก ตัวเองเดินเข้าไปในลานกว้างใหญ่ของตระกูลหลิน
จากนั้น พอผลักประตูออก ถังเฉารู้สึกได้ว่าบรรยากาศภายในบ้านเคร่งขรึมมาก มีท่วงท่าแห่งฝนพรำ
ทุกคนในบ้านตระกูลหลินก็มาครบหมดแล้ว จนห้องรับแขกนั่งเต็มไปหมด ใบหน้าของทุกคนไม่ได้มีรอยยิ้มแม้แต่น้อย สิ่งที่มี ก็แค่ความเย็นชาที่ไม่สิ้นสุด
หลินฉ่ายเวยกับโจวเหม่ยหยูนนั่งอยู่ตรงกลางของทั้งสองข้าง สายตาที่จ้องไปทางถังเฉาเต็มไปด้วยความเกลียด และหลินเจิ้นสงที่อยู่ตรงกลางนั้น ใบหน้าที่แสดงว่าทำอะไรไม่ถูกนั้น:“เสี่ยวเฉา นายนี่มันวุ่นวายจริง”
ถังเฉาเข้าใจในทันที น่าจะเป็นเรื่องของตระกูลหวางที่ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับหลินฉ่ายเวยและโจวเหม่ยหยูนที่จะไปเจรจาต่อรองแล้ว ถูกฝั่งลี่จิงปฏิเสธไม่ให้เข้าประตู ดังนั้นจึงมาลงความโกรธที่ตัวเอง
“นายพูดเอง ไปก่อเรื่องดีดีอะไรไว้!?”
ลุงใหญ่หลินจ้องเป็นผู้เกริ่นก่อน ตบโต๊ะไปอย่างแรง กล่าวด้วยความโกรธ
“ฉันไปทำเรื่องดีดีอะไรไว้เหรอ?”ถังเฉายังคงมีสีหน้าที่ดูเงียบสงบ ถามกลับ
“ได้ นายไม่บอกใช่ไหม?ไม่บอกเดี๋ยวฉันบอกแทนเอง!”
หลินจ้องโกรธจนขว้างแก้วน้ำที่อยู่บนโต๊ะไปที่พื้น เสียงดังมาก:“นายไปทุบตีผู้ปกครองของเด็กตระกูลหวาง จนมีเลือดไหล นี่เป็นเรื่องเล็ก ก็ไม่พูดแล้วกัน แต่ว่านายกลับกล้าที่จะพาคนบุกไปที่บริษัทตระกูลหวาง ไม่เพียงแต่ทุบบริษัทของเขา ยังได้ทำร้ายคนอีก มันช่างกล้ามากจริงๆ ความผิดที่ก่อไว้ให้อภัยไม่ได้!”
“ถังเฉานะถังเฉา ฉันมีชีวิตมาครึ่งค่อนชีวิต ก็ยังไม่เคยเห็นคนเลวแบบนายมาก่อนเลย นายทำผิดไปคนเดียวก็แล้วไป แต่นี่ยังทำให้ตระกูลหลินเดือดร้อนไปด้วย นายคิดยังไงกันแน่?ต้องทำให้พวกเราทุกคนตายกันหมด นายถึงจะพอใจใช่ไหม?”
“ก็ใช่ รนหาที่ตายเอง ยังจะมาเดือดร้อนพวกเราอีก เป็นคนเนรคุณจริงๆ”
ภรรยาของหลินจ้องโจวซูหัวก็จ้องไปที่ถังเฉาด้วยสายตาเย็นชา กล่าวว่า:“ตอนที่เจิ้นสงจะรับเลี้ยงนายนั้น ฉันก็บอกเขาแล้วว่าอย่าไปทำเรื่องแบบคนดีหน่อยเลย หากเลี้ยงออกมาเป็นเนรคุณคนหนึ่ง แล้วจะไม่มีที่ร้องไห้—-ฉันกำลังพูดอะไรอยู่ นี่มันเกิดขึ้นจริงแล้ว”
โจวซูหัวเป็นคนจู้จี้น่ารำคาญ และยังชอบการเยาะเย้ย แทบอยากเอาเรื่องสมัยก่อนมาพูดอีกรอบ
บางคำพูดพูดได้ บางคำพูดพูดไม่ได้ หลังที่โจวซูหัวพูดจบ สายตาของถังเฉา ก็เย็นลงไม่น้อย
“ถังเฉา นายที่อยู่ในใจฉัน เดิมไม่ใช่คนอย่างนี้ แต่ว่าตอนนี้ ฉันผิดหวังกับนายมาก”
หลินฉ่ายเวยก็จ้องไปที่ถังเฉา กล่าวอย่างเย็นชาว่า:“ที่จะร่วมมือกับบริษัทลี่จิง คือคุณชายหวางเยี่ยของตระกูลหวางที่ช่วยเหลือเรามาโดยตลอด ตอนนี้กลับดีละ ถูกนายทำลายอย่างนี้ ตระกูลหวางเริ่มเกลียดแค้นพวกเราแล้ว บริษัทลี่จิงก็อาจหยุดการร่วมมือกับตระกูลหลินเรา”
“ทั้งหมดนี้ ก็เป็นเพราะนาย ตัวอันตรายคนเดียว ทำให้เสียเรื่องไปทั้งกลุ่ม!”
คนอื่นๆก็จ้องไปที่ถังเฉาด้วยสายตาเย็นชา แทบอยากจะไล่เขาออกจากบ้านไป
สุดท้าย สีหน้าของถังเฉาก็ยังคงเงียบสงบ กล่าวเบาๆว่า:“พวกคุณไม่รู้อะไรเลย ก็โยนความผิดมาที่ตัวผมงั้นเหรอ?”
“หลายวันก่อนพวกคุณถามเรื่องตำแหน่งตัวแทนการร่วมมือยกให้พวกคุณนั้น ผมเคยเตือนพวกคุณแล้วอาจไม่สำเร็จ พวกคุณได้ฟังไหม?ไม่ว่าเรื่องอะไรพึ่งพาตัวเองดีที่สุด เอาความหวังฝากไว้กับคนอื่น ก็จะด้อยกว่าคนไประดับหนึ่งอยู่เสมอ!”
“นาย……นายยังกล้าเถียงอีก?”
หลินฉ่ายเวยกับโจวเหม่ยหยูนถูกคำพูดของถังเฉาพูดจนใบหน้าเดี๋ยวแดงเดี๋ยวขาว แม้แต่นิ้วที่ชี้ไปทางถังเฉาของโจวเหม่ยหยูนยังสั่นสะท้าน
เขามาว่าพวกเราด้อยกว่าคนไประดับหนึ่งได้ยังไง?
“ผมพูดผิดไปเหรอ?”
ถังเฉาเหล่มองไปที่โจวเหม่ยหยูนแวบหนึ่ง กล่าวเบาๆ
“กล้ามากกล้ามาก ช่างกล้ามากจริงๆ……”
โจวเหม่ยหยูนกรี๊ดอย่างโมโห จู่ๆก็มองไปที่หลินเจิ้นสง:“เป็นเพราะลูกชายที่คุณเลี้ยงเลย ทำผิดแล้วยังจะเดือดร้อนพวกเราอีก ยังจะมาเหตุผลต่างๆนานาอีก อยู่ต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว……”
พูดอยู่ดีดี ปิดใบหน้าไว้ ท่าทางเหมือนจะร้องไห้อย่างงั้นแหละ
สีหน้าของหลินเจิ้นสงก็ดูไม่ดีเหมือนกัน ปิดปากไม่พูดไม่จา
“ยังไม่รีบคุกเข่าลง ยอมรับผิดอีก!”หลินจ้องสั่งอย่างเย็นชา
เรื่องนี้หลินเจิ้นสงจะแทรกมาเกี่ยวข้องไม่ได้ ตามลำดับรุ่นแล้ว หลินจ้องใหญ่ที่สุด ดังนั้นเขามีสิทธิ์ที่จะลงโทษกับถังเฉายังไง
“คุกเข่าเหรอ?”
แสงเย็นวาบในดวงตาของถังเฉา ความคิดในการฆ่าจริงจังมาก:“อยากให้คนอย่างถังเฉาคุกเข่าลง พวกคุณมีสิทธิ์นี้ด้วยเหรอ?”
“พวกคุณไม่คิดหน่อยเลยเหรอ ว่าทำไมผมถึงไปทุบบริษัทของหวางหมิ่นเหมิน?ผมไม่ผิด ทำไมผมต้องคุกเข่า!”
ความคิดที่อยากฆ่าได้ปล่อยออกมาจากตัวถังเฉา อุณหภูมิในทั่วทั้งห้องรับแขก จู่ๆก็ลดลงอย่างมาก ทุกคนอดไม่ได้ที่จะหนาวจนตัวสั่น
หลินจ้องได้มองไปที่ถังเฉาโดยทั้งโกรธและเคือง โกรธจนตัวสั่นไปหมด:“ไอ้เลว ไอ้เลว……เจิ้นสง ลูกเนรคุณอย่างนี้ ยังจะให้อยู่ต่อที่บ้านทำไม?ยังไม่รีบตัดขาดกับเขา แล้วไล่ออกจากบ้านไป!”
หลินเจิ้นสงอยู่กลาง ก็หนักใจเหมือนกัน มองไปที่ถังเฉา แล้วถอนหายใจยาวๆ:“เสี่ยวเฉา ทำไมต้องไปทุบบริษัทของตระกูลหวาง และยังทำร้ายคนอีก ……”
ลำพังแค่ไปทุบบริษัท ชดใช้ด้วยเงินก็ถือว่าแล้วไป แต่ว่าไปตบตีจนหน้าของหลิ่วเซียนจนเสียโฉม เรื่องนี้มันยากจริงๆ
“นายรู้หรือไม่ ผู้หญิงที่นายทำร้ายนั้น เธอเป็นคนรักของพี่ใหญ่จ้าวลิ่ว นั่นเป็นพวกคนเลวที่เคยฆ่าคน เราสู้เขาไม่ไหวหรอก……”หลินเจิ้นสงถอนหายใจ แล้วกล่าว
ถังเฉานิ่งคิดไปสักพัก จากนั้นก็มองไปที่หลินเจิ้นสงอย่างตั้งใจ กล่าวว่า:“พ่อครับ พ่อเชื่อผมไหม?”
มองไปในสายตาที่ลึกซึ้งละแน่วแน่ของถังเฉา สายตาของหลินเจิ้นสงก็ประคับประคองไปพักหนึ่ง
ไม่มีรักที่ไม่ได้เกิดจากเหตุผล และไม่มีความเกลียดชังที่ไม่มีเหตุผล ทำไมถังเฉาต้องไปทุบบริษัทของหวางหมิ่นเหมิน ต้องเป็นเพราะหวางหมิ่นเหมินไปทำผิดเรื่องอะไรมาแน่?
หวางหมิ่นเหมินคนนี้เขาก็เคยได้ยินมาบ้าง พื้นหลังไม่สะอาด หารายได้จากผู้คนสิ่งที่ไม่อาจเปิดเผยได้
แต่ว่า อันนี้ใช่ได้เหรอ?
ความจริงก็คือ ถังเฉาไปทุบบริษัทตระกูลหวาง ยังไปตบตีคนรักของพี่ใหญ่จ้าวลิ่วอีก ด้วยความโกรธของตระกูลหวาง กลับกลายเป็นความแค้นกับตระกูลหลิน แม้กระทั่งที่จะร่วมมือกับบริษัทลี่จิงก็ศูนย์เปล่าไปด้วย
ตระกูลหลินในตอนนี้ นับว่าเป็นศัตรู ไม่นับตระกูลซ่ง ตระกูลหวางจะข่ม ยังไปกระตุ้นกับอำนาจมืดใต้ดินอีก……
“ฉันเชื่อนาย แต่ว่า ฉันเป็นผู้นำตระกูลหลิน ทุกการกระทำ ต้องคิดไปถึงผลประโยชน์ของตระกูลหลิน นอกเสียจาก—-”
หลินเจิ้นสงกำลังจะพูดต่อ กลับถูกหลินจ้องดักไว้:“เจิ้นสง จะไปพูดอะไรกับเขาอีก ไล่ออกจากบ้านโดยตรงเลย หรือว่านายจะปกป้องเขา?”
หลินเจิ้นสงเหมือนไม่ได้ยิน มองไปที่ถังเฉา พูดต่อว่า:“นอกเสียจากว่านายสัญญาว่าบริษัทลี่จิงจะร่วมมือต่อกับตระกูลหลินเรา และต้องสงบความโกรธของตระกูลหวางและจ้าวลิ่ว”
“เจิ้นสง—-”
สีหน้าหลินจ้องเปลี่ยนไปมาก หลินฉ่ายเวยกับโจวเหม่ยหยูนจ้องไปที่หลินเจิ้นสงอย่างไม่พอใจ
“พอได้แล้ว”
หลินเจิ้นสงตะโกนเสียงดัง เสียงที่กลบเกลื่อนไปทุกคน รอจนไม่มีใครพูดแล้ว เขาไปมองไปที่ถังเฉา:“นายรับรองได้ไหม?”
สายตาของถังเฉาตวัดมองไปที่คนในตระกูลหลินทีละคน
ทุกคนเต็มไปด้วยความเย็นชา แทบอยากจะไล่ตัวเองออกไป มีแต่หลินเจิ้นสงเท่านั้น ยังคงต่อสู้เพื่อตัวเอง
เขาหลับตาลงช้าๆ แล้วก็ลืมตาขึ้นช้าๆ
ตอนลืมตาขึ้น ได้ถอนหายใจเบาๆ
“ก็ยังยอมไม่ได้หรอก……”
ถังเฉายิ้มแห้งๆ แล้วพูดกับตัวเอง
ใจคนเยือกเย็น เขาจะไม่สนใจความเป็นหรือความตายของคนอื่นๆในตระกูลหลินได้ แต่ว่าจะไม่สนหลินเจิ้นสงไม่ได้
เขาไม่ได้เป็นพ่อที่ให้กำเนิดถังเฉามา แต่ดีกว่าพ่อที่ให้กำเนิดทางสายเลือด ตัวเองถูกตำหนิจากผู้คนมากมายนั้น คือเขา ยืนออกมาปกป้องตัวเองในอยู่ทุกครั้ง……
“ได้ครับ”
ถังเฉาตอบตกลงเต็มปาก:“ให้เวลาผมหนึ่งอาทิตย์ ผมจะจัดการสามเรื่องนี้ให้เรียบร้อย”